ตร.ตามรวบแล้วโจรอ้อนแอ้น บุกชิงทอง 60 บาท ยิงลูกจ้างร้านเจ็บ คาด่านชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย จนท.แกะรอยจากรถ จยย.ที่คนร้ายจอดทิ้งในวัดแห่งหนึ่งย่านพระประแดง จนสืบทราบชื่อผู้ก่อเหตุ และสามารถจับตัวได้ขณะเตรียมเดินทางหนีออกนอกประเทศ เบื้องต้นประสาน ตม.แม่สาย ส่งตัวมาสอบและทำแผนฯ ก่อนเตรียมแถลงผลการจับกุมอีกครั้ง
วันนี้ (5 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.เฉลิมพันธุ์ อจลบุญ ผบก.น.8 พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ และกำลังฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.8 ร่วมกันนำกำลังจับกุมตัว นายธีรวัฒน์ หรือ “แบงก์” สำลีรัตน์ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/3 หมู่ 6 ต.บางน้ำผึ้ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี เลขที่ จ.231/2554 ลงวันที่ 1 เม.ย.54 ข้อหา พยายามฆ่า, ชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร โดยจับกุมตัวได้ที่ชายแดนประเทศพม่าทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 4 เม.ย.54
การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 27 มี.ค.54 เวลาประมาณ 12.30 น. ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด .38 เข้าไปชิงทรัพย์ร้านทองจิรสุวรรณ สาขา 2 เลขที่ 123/2 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ และยิง น.ส.วิชุดา จันทร์ฉาย อายุ 32 ปี ลูกจ้างภายในร้านจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนขับจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไปพร้อมทองคำรูปพรรณ จำนวน 24 เส้น น้ำหนักรวม 60 บาท มูลค่า 1,200,000 บาท ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้หลักฐานสำคัญจากกล้องวงจรปิดเป็นภาพคนร้ายที่มีลักษณะตุ้งติ้ง สูงประมาณ 180 เซนติเมตร ใส่หมวกนิรภัยเต็มใบสีดำ สวมเสื้อคลุมสีดำ นุ่งกางเกงขายาว และถือปืนในมือข้างซ้ายขณะก่อเหตุ
ต่อมาเมื่อวันที่ 30 มี.ค.54 เวลาประมาณ 18.30 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้รับแจ้งว่าพบจักรยานยนต์ของคนร้ายถูกนำไปจอดทิ้งไว้ภายในวัดพญาปราบปัจจามิตร อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ โดยมีหมวกนิรภัยเต็มใบสีดำแขวนเอาไว้ด้วย จึงรุดไปตรวจสอบพบเป็นรถคันดังกล่าวจริง จึงทำการตรวจสอบจนพบว่าทะเบียนที่แท้จริงคือ ยษย 27 กรุงเทพมหานคร เป็นรถซึ่งถูกขายแบบโอนลอยมาเป็นทอดๆ ฝ่ายสืบสวน สน.ราษฎร์บูรณะจึงเร่งตรวจดูภาพวงจรปิดตามร้านสะดวกซื้อและห้างร้านในละแวกที่เกิดเหตุจนถึงจุดที่คนร้ายจอดรถทิ้งเอาไว้ ปรากฏว่าพบเส้นทางหลบหนีของคนร้ายอย่างชัดเจน กระทั่งวันที่ 31 มี.ค.54 เวลาประมาณ 12.30 น.มีชาวบ้านไปพบกระเป๋าหนังภายในบรรจุสร้อยคอทองคำ 9 เส้น น้ำหนักรวม 19 บาท ถูกนำไปทิ้งไว้ในพื้นที่ 70 ไร่ หมู่ 7 ซอยเพชรหึงษ์ 20 ต.บางกระสอบ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จากการตรวจสอบในละแวกใกล้เคียงยังพบหลักฐานสำคัญเป็นรองเท้าผ้าใบของคนร้ายและกล่องกระสุนปืนขนาด .38 ตกอยู่ด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานจนทราบว่าคนร้ายรายนี้คือ นายธีรวัฒน์ จึงขออำนาจศาลขออนุมัติหมายจับและนำหมายค้นบุกเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 39/3 หมู่ 6 ต.บางน้ำผึ้ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ในวันที่ 1 เม.ย.54 ซึ่งผลการตรวจค้นภายในบ้านพักพบแผ่นป้ายทะเบียนจักรยานยนต์หมายเลข ยษย 27 กรุงเทพมหานคร ถูกถอดซุกเอาไว้ในบ้าน นอกจากนี้ยังพบกล่องกระดาษใส่รองเท้าผ้าใบยี่ห้อและเบอร์เดียวกันกับที่ถูกทิ้งเอาไว้พร้อมกับหลักฐานทองรูปพรรณ จำนวน 9 เส้น ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังสามารถเก็บรวบรวมเส้นผม เครื่องแต่งกาย และหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับนายธีรวัฒน์อีกหลายรายการ อีกทั้งยังได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หลังก่อเหตุนายธีรวัฒน์ใช้เงินสดจำนวน 105,000 บาท ไปซื้อรถเก๋งมือสองซึ่งจอดขายอยู่ในซอยสุขสวัสดิ์ 70 เป็นรถยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด ทะเบียน 4ธ-3226 กรุงเทพมหานคร จากนายหนิง (ไม่ทราบนามสกุล) ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค.54 หลังเกิดเหตุไม่กี่ชั่วโมง โดยนายธีรวัฒน์ได้ใช้รถคันดังกล่าวเป็นยานพาหนะในการหลบหนีไปตามที่ต่างๆ กระทั่งตำรวจตามไปพบตัวที่ชายแดนประเทศพม่า และนำกำลังจับกุมเอาไว้ได้ในที่สุด
อย่างไรก็ตาม หลังจากกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับกุมนายธีรวัฒน์ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างประสานด่าน ตม.แม่สาย เพื่อควบคุมตัวผู้ต้องหารายนี้เดินทางกลับมาสอบปากคำและทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่กรุงเทพมหานคร หลังจากนั้น พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น.จะมีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการต่อไป
