xs
xsm
sm
md
lg

ตั้งค่าหัว 1 แสนล่าโจรชิงทองยิงลูกจ้างเจ็บ!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ตำรวจตั้งค่าหัวคนร้ายบุกเดี่ยวใช้อาวุธปืนจี้ชิงร้านทองย่านประชาอุทิศ แล้วยิงลูกจ้างเจ้าของร้านเจ็บ สำหรับผู้ที่ให้เบาะแสแหล่งกบดานของคนร้าย ขณะที่ ผบช.น.ให้ความสนใจเดินทางไปร่วมประชุมชุดสืบสวนคลี่คลายคดี นอกจากนี้ ยังสั่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกเส้นทางที่เชื่อว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี เผื่อจะมีบางกล้องที่สามารถจับภาพคนร้ายในลักษณะที่ไม่สวมหมวกกันน็อกได้บ้าง

วันนี้ (28 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ สน.ราษฏร์บูรณะ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. ได้เดินทางมาประชุมทีมสืบสวนสอบสวนเพื่อคลี่คลายคดีคนร้ายบุกเดี่ยวใช้ปืนจี้ชิงทองภายในร้านทองจิรสุวรรณ ย่านทุ่งครุ กวาดทองน้ำหนักรวม 60 บาท มูลค่ากว่า 1.3 ล้านบาท และยังยิง น.ส.วิชุดา จันทร์ฉาย อายุ 28 ปี ลูกจ้างจนบาดเจ็บ แล้วขับขี่จักรยานยนต์หลบหนีไป โดยมี พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง พ.ต.อ.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.พรชัย ชลอเดช ผกก.สส.บก.น.8 พ.ต.อ. มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ พ.ต.ท.ณัฐจักร จันลา สว.สส. เข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลาในการประชุมประมาณ 30 นาที

ภายหลังการประชุม พ.ต.อ.มานพเปิดเผยว่า ขณะนี้แนวทางการสืบสวนสอบสวนให้น้ำหนักไปที่ลักษณะของคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ และลักษณะพฤติกรรมการลงมือของคนร้ายเป็นหลัก โดยขณะนี้แบ่งการตรวจสอบเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกภายหลังจากการตรวจสอบจากภาพวงจรปิดที่บันทึกได้ของกล้องภายในร้านทองพบว่า คนร้ายสูงประมาณ 170 เซนติเมตร เมื่อสังเกตโดยละเอียดพบว่าคนร้ายไว้ผมยาวประบ่า เนื่องจากมีเส้นผมเล็ดลอดออกมาจากหมวกกันน็อกที่คนร้ายสวมใส่ ทั้งนี้คนร้ายน่าจะเป็นคนที่ถนัดมือซ้าย เพราะใช้มือซ้ายในการถือและยิงอาวุธปืน

พ.ต.อ.มานพกล่าวอีกว่า คาดว่าคนร้ายน่าจะเคยเข้ามาภายในร้านนี้ล่วงหน้ามาแล้ว เนื่องจากมีการเดินมาที่ตู้ฝั่งเก็บสร้อยคอทองคำรูปพรรณ น้ำหนัก 2-3 บาทซี่งอยู่ด้านหลังเป็นหลัก และรู้ว่าต้องเดินอ้อมตู้โชว์ด้านนอกเข้ามาโดยไม่ปีนข้ามตู้ ที่สำคัญตามวิสัยของคนทั่วไปเมื่อจะออกนอกร้าน มักผลักประตูเปิดออกไปด้านนอก แต่คนร้ายคนนี้กลับใช้ดึงเข้าหาตัว ซึ่งวิธีเปิดประตูของร้านนี้จะใช้วิธีดึงเข้ามาภายในร้านด้วย จึงเตรียมตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านย้อนหลังไป 15 วัน เพื่อตรวจสอบดูว่า มีใครลักษณะต้องสงสัยคล้ายคนร้ายเข้ามาภายในร้านหรือไม่

พ.ต.อ.มานพ กล่าวต่อว่า ส่วนฝ่ายสืบสวนได้สั่งการให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณซอยประชาอุทิศ 69 ซึ่งเป็นเส้นทางที่คนร้ายใช้ในการหลบหนี ที่มีจำนวน 13 ตัว โดยพบว่าในช่วงเวลาก่อนและหลังก่อเหตุ พบคนร้ายใช้เส้นทางดังกล่าววนเวียนไปมาจำนวน 3 รอบ คาดว่าเป็นช่วงที่คนร้ายขับรถไปดูลาดเลาแล้วพบว่าภายในร้านมีตำรวจเฝ้าร้านทองอยู่ เพราะหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกจากร้านทองประมาณ 11 นาที คนร้ายจึงขับรถไปก่อเหตุชิงทอง โดยช่วงเวลาดังกล่าวคาดว่าคนร้ายน่าจะมีการเข้าไปยังร้านสะดวกซื้อ หรือปั๊มน้ำมัน ซึ่งน่าจะมีการถอดหมวกกันน็อคบ้าง โดยจะตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง และกลับมาใช้เส้นทางในซอยประชาอุทิศ 69 หลบหนี ซึ่งเส้นทางภายในซอยนี้สามารถออกได้ทั้งพระประแดง และทะลุประชาอุทิศ 33 ซึ่งจะทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของเส้นทางทั้งหมด

พ.ต.อ.มานพ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ ทาง พล.ต.ต.เฉลิมพันธุ์ อจลบุญ ผบก.น.8 ได้ตั้งรางวัลนำจับคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นรางวัลเงินสด 100,000 บาท พร้อมฝากประชาสัมพันธ์ประชาชนในพื้นที่ด้วยว่า บ้านเรือนประชาชนที่ทำการติดกล้องวงจรปิด อยากให้หันมุมกล้องมายังเส้นทางริมถนนด้วย เพื่อเป็นประโยชน์ในการติดตามเส้นทางคนร้ายหลบหนีหลังก่อเหตุ
ประกาศรางวัลนำจับ 1 แสนบาท
ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในซอยประชาอุทิศ 69 สามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ ขณะหลบหนีหลังก่อเหตุ
ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในซอยประชาอุทิศ 69 สามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ ขณะหลบหนีหลังก่อเหตุ
ลักษณะยานพาหนะของคนร้าย
ลักษณะหมวกกันน็อกของคนร้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น