ป.ป.ส.เตรียมเปิดประมูลขายทอดตลาดของกลางยึดได้จากคดีค้ายาเสพติดของ “จิ๊บ-โจ๊ก ไผ่เขียว” ในวันที่ 3 เม.ย.นี้ มีทั้งเก๋ง-บิ๊กไบค์- ทองรูปพรรณ พระเครื่อง มูลค่า 21 ล้าน ขณะที่เลขาธิการ ป.ป.ส.ยันกระบวนการอายึดทรัพย์สินผู้ต้องหาคดีค้ายาเป็นหัวใจหลักตัดท่อน้ำเลี้ยงเครือข่ายยาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วันนี้ (1 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. นางสุรีย์ประภา ตรัยเวช เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร. พล.ต.ท.อติเทพ ปัญจมานนท์ ผบช.บช.ปส. ร่วมตรวจสอบของกลางในคดียาเสพติดที่สำนักตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติด ป.ป.ส.จะเปิดประมูลขายทอดตลาดในเวลา 11.00 น. วันอาทิตย์ที่ 3 เม.ย. ประกอบด้วย รถเก๋ง 12 คัน รถบรรทุก 5 คัน รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์และรถจักรยานยนต์ 51 คัน รวม 69 รายการ มูลค่า 12 ล้านบาท และทองรูปพรรณ น้ำหนัก 445 บาท และพระเครื่อง รวม 101 รายการ มูลค่า 9,117,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินของกลางทั้งหมดที่จะเปิดขายทอดตลาด ราคาประมาณ 21 ล้านบาท จากนั้นได้ร่วมตรวจสอบแท่นผลิตยาบ้าที่ตำรวจ สภ.บางโทรัด จังหวัดสมุทรสาคร ยึดได้พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 4 คน เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา
รมว.ยุติธรรมกล่าวว่า หลังจากรัฐบาลได้ดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามแผนประเทศไทยเข้มแข็ง ชนะยาเสพติดอย่างยั่งยืน ภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 รั้ว และได้มีคำสั่งเร่งรัดให้ทุกหน่วยงานปราบปรามจับกุมเครือข่ายยาเสพติดอย่างจริงในช่วง 3 เดือน ระหว่าง มค.-มี.ค.54 ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และ ป.ป.ส.สามารถอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหาคดียาเสพติดกว่า 500 ราย มูลค่าทรัพย์สินประมาณ 290 ล้านบาท และเพื่อให้การจัดการทรัพย์สินของกลางเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ป.ป.ส.จึงได้นำทรัพย์สินในคดียาเสพติดส่วนหนึ่งมาเปิดประมูลขายทอดตลาดในเวลา 11.00 น.วันอาทิตย์ที่ 3 เม.ย.นี้ รวมมูลค่าประมาณ 21 ล้านบาท ซึ่งทรัพย์สินส่วนหนึ่งเป็นของนายชาญชัย ประสงค์ศิล หรือโจ๊ก ไผ่เขียว นายนพพล หรือจิ๊บ ประสงค์ศิล สองพี่น้องเครือข่ายยาเสพติดชื่อดังในชุมชนไผ่เขียว จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ถูก ป.ป.ส.ขยายผลตรวจสอบและยึดอายัดทรัพย์สินทั้งเงินฝาก ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างหลายรายการ กว่า 35 ล้านบาท
นายพีระพันธุ์กล่าวอีกว่า ทรัพย์สินอีกส่วนหนึ่งที่นำมาขายทอดตลาดเป็นของกลางในคดีนายมูฮัมหมัด หะยีบากา ที่ขับรถยนต์ประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำบนถนนสายเอเชีย มุ่งหน้า อ.หาดใหญ่ กม.48 อ.เทพา จ.สงขลา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพบเงินสดในรถ 6.9 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 ม.ค.54 ต่อมานายยูโส๊บ หมันเบ็ญหมัด เข้าแสดงตัวขอรับเงินของกลางจนถูกควบคุมตัวไว้สอบสวน จนยอมรับสารภาพว่าเงินสดในรถเป็นของนายไซนูเด็ง มะ เครือข่ายยาเสพติดในภาคใต้ เจ้าหน้าที่จึงสนธิกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักใน ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ และจับกุมตัวนายไซนูเด็ง พร้อมของกลางยาไอซ์ จากนั้นได้อายัดทรัพย์สินไว้ทั้งรถยนต์ เงินสด เงินฝาก ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และเงินสด 6.9 ล้านบาท ที่พบภายในรถคันเกิดเหตุ รวมมูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท
ทั้งนี้ จึงเชิญชวนประชาชนที่สนใจเข้าประมูลทรัพย์สินของกลางที่ได้จากยาเสพติดดังกล่าว โดยยืนยันว่าราคาจะถูกกว่าท้องตลอด และสามารถโอนทะเบียนรถได้แน่นอน
อย่างไรก็ตาม วันนี้ทาง ป.ป.ส.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านยาเสพติด ยังได้ร่วมประชุมเพื่อเร่งรัดและติดตามสถานการณ์ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในช่วง 3 เดือนข้างหน้าต่อไปอีกด้วย
ด้าน นางสุรีย์ประภา ตรัยเวช เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวว่า ตั้งแต่มีการใช้ พ.ร.บ.มาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2535 ศาลมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินตกเป็นของกองทุนยาเสพติด ประมาณ 1 พันล้านบาท ซึ่งได้นำทรัพย์สินเหล่านี้ไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากการปฏิบัติหน้าที่ในการปราบปรามยาเสพติด และสนับสนุนโครงการหรือแผนงานในการแก้ปัญหายาเสพติดของทุกหน่วยงาน จึงถือว่ากระบวนการอายึดทรัพย์สินผู้ต้องหาคดียาเสพติดเป็นมาตรการสำคัญในการตัดท่อน้ำเลี้ยงเครือข่ายยาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วันนี้ (1 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. นางสุรีย์ประภา ตรัยเวช เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร. พล.ต.ท.อติเทพ ปัญจมานนท์ ผบช.บช.ปส. ร่วมตรวจสอบของกลางในคดียาเสพติดที่สำนักตรวจสอบทรัพย์สินคดียาเสพติด ป.ป.ส.จะเปิดประมูลขายทอดตลาดในเวลา 11.00 น. วันอาทิตย์ที่ 3 เม.ย. ประกอบด้วย รถเก๋ง 12 คัน รถบรรทุก 5 คัน รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์และรถจักรยานยนต์ 51 คัน รวม 69 รายการ มูลค่า 12 ล้านบาท และทองรูปพรรณ น้ำหนัก 445 บาท และพระเครื่อง รวม 101 รายการ มูลค่า 9,117,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินของกลางทั้งหมดที่จะเปิดขายทอดตลาด ราคาประมาณ 21 ล้านบาท จากนั้นได้ร่วมตรวจสอบแท่นผลิตยาบ้าที่ตำรวจ สภ.บางโทรัด จังหวัดสมุทรสาคร ยึดได้พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 4 คน เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา
รมว.ยุติธรรมกล่าวว่า หลังจากรัฐบาลได้ดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามแผนประเทศไทยเข้มแข็ง ชนะยาเสพติดอย่างยั่งยืน ภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 รั้ว และได้มีคำสั่งเร่งรัดให้ทุกหน่วยงานปราบปรามจับกุมเครือข่ายยาเสพติดอย่างจริงในช่วง 3 เดือน ระหว่าง มค.-มี.ค.54 ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และ ป.ป.ส.สามารถอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหาคดียาเสพติดกว่า 500 ราย มูลค่าทรัพย์สินประมาณ 290 ล้านบาท และเพื่อให้การจัดการทรัพย์สินของกลางเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ป.ป.ส.จึงได้นำทรัพย์สินในคดียาเสพติดส่วนหนึ่งมาเปิดประมูลขายทอดตลาดในเวลา 11.00 น.วันอาทิตย์ที่ 3 เม.ย.นี้ รวมมูลค่าประมาณ 21 ล้านบาท ซึ่งทรัพย์สินส่วนหนึ่งเป็นของนายชาญชัย ประสงค์ศิล หรือโจ๊ก ไผ่เขียว นายนพพล หรือจิ๊บ ประสงค์ศิล สองพี่น้องเครือข่ายยาเสพติดชื่อดังในชุมชนไผ่เขียว จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ถูก ป.ป.ส.ขยายผลตรวจสอบและยึดอายัดทรัพย์สินทั้งเงินฝาก ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างหลายรายการ กว่า 35 ล้านบาท
นายพีระพันธุ์กล่าวอีกว่า ทรัพย์สินอีกส่วนหนึ่งที่นำมาขายทอดตลาดเป็นของกลางในคดีนายมูฮัมหมัด หะยีบากา ที่ขับรถยนต์ประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำบนถนนสายเอเชีย มุ่งหน้า อ.หาดใหญ่ กม.48 อ.เทพา จ.สงขลา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพบเงินสดในรถ 6.9 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 ม.ค.54 ต่อมานายยูโส๊บ หมันเบ็ญหมัด เข้าแสดงตัวขอรับเงินของกลางจนถูกควบคุมตัวไว้สอบสวน จนยอมรับสารภาพว่าเงินสดในรถเป็นของนายไซนูเด็ง มะ เครือข่ายยาเสพติดในภาคใต้ เจ้าหน้าที่จึงสนธิกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักใน ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ และจับกุมตัวนายไซนูเด็ง พร้อมของกลางยาไอซ์ จากนั้นได้อายัดทรัพย์สินไว้ทั้งรถยนต์ เงินสด เงินฝาก ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และเงินสด 6.9 ล้านบาท ที่พบภายในรถคันเกิดเหตุ รวมมูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท
ทั้งนี้ จึงเชิญชวนประชาชนที่สนใจเข้าประมูลทรัพย์สินของกลางที่ได้จากยาเสพติดดังกล่าว โดยยืนยันว่าราคาจะถูกกว่าท้องตลอด และสามารถโอนทะเบียนรถได้แน่นอน
อย่างไรก็ตาม วันนี้ทาง ป.ป.ส.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านยาเสพติด ยังได้ร่วมประชุมเพื่อเร่งรัดและติดตามสถานการณ์ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในช่วง 3 เดือนข้างหน้าต่อไปอีกด้วย
ด้าน นางสุรีย์ประภา ตรัยเวช เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวว่า ตั้งแต่มีการใช้ พ.ร.บ.มาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2535 ศาลมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินตกเป็นของกองทุนยาเสพติด ประมาณ 1 พันล้านบาท ซึ่งได้นำทรัพย์สินเหล่านี้ไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากการปฏิบัติหน้าที่ในการปราบปรามยาเสพติด และสนับสนุนโครงการหรือแผนงานในการแก้ปัญหายาเสพติดของทุกหน่วยงาน จึงถือว่ากระบวนการอายึดทรัพย์สินผู้ต้องหาคดียาเสพติดเป็นมาตรการสำคัญในการตัดท่อน้ำเลี้ยงเครือข่ายยาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ