xs
xsm
sm
md
lg

ป.จับประธานมูลนิธิช่วยเกษตรกรลวงเหยื่อ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.ต.สุพิศาล สอบปากคำผู้ต้องหา
กองปราบตามจับกุมประธานมูลนิธิเพื่อการแก้ไขและฟื้นฟูเกษตรกร อดีตประธานเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย ฐายฉ้อโกงประชาชน โดยแอบอ้างจะมีการแจกที่ดินใน จ.นครนายก ให้เกษตรกรรายละ 5 ไร่ แต่ต้องเสียค่าสมัครสมาชิกรายละ 220 บาทก่อน โดยมีเหยื่อหลงเชื่อ ร่วมสมัครกว่า 3,000 ราย เบื้องต้นเจ้าตัวปฏิเสธเสียงแข็ง

วันนี้ (29 มี.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 16.30 น.พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป.พ.ต.อ.ณัฐกร ประภายนต์ ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.วราวุธ เจริญชนม์ รองผกก.2 บก.ป.และ ร.ต.อ.กริช วรทัต สว.กก.2 บก.ป.นำกำลังจับกุม นายมนตรี พินทะเนาว์ อายุ 43 ปี ประธานมูลนิธิเพื่อการแก้ไขและฟื้นฟูเกษตรกร และ นายณัฐชัย หรือ เมือง บุญเผือก อายุ 71 ปี อดีตประธานเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย และผู้อำนวนการศูนย์ประสานงานมูลนิธิดังกล่าว ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 464 และ 465/2554 ลงวันที่ 22 มีนาคม 2554 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยจับกุม นายมนตรี ได้ที่บ้านพักเลขที่ 48/407 หมู่บ้านเคซี การ์เดนโฮม แขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กทม.พร้อมกับยึดเอกสารรายชื่อสมาชิกมูลนิธิ และเอกสารที่เกี่ยวข้องจำนวน 74 แฟ้ม ไว้ตรวจสอบ ส่วน นายณัฐชัย จับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 28 หมู่ 6 ต.บางสมบูรณ์ อ.องครักษ์ จ.นครนายก

พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ผู้เสียหายซึ่งเป็นสมาชิกของมูลนิธิแห่งนี้ ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งสองและพวก เนื่องจากมีการแอบอ้างว่ามีการแจกที่ดินในพื้นที่ทุ่งบางกะชา ต.บางสมบูรณ์ และ ต.หนองเสือ อ.องครักษ์ จ.นครนายก ให้เกษตรกรผู้ยากไร้รายละ 5 ไร่ หากสมัครเป็นสมาชิกมูลนิธิดังกล่าว โดยผู้ที่สนใจจะต้องเสียเงินค่าสมัครรายละ 220 บาท

พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา มีทั้งเกษตรกร และผู้ยากไร้ สมัครเข้าเป็นสมาชิกกว่า 3,000 ราย เนื่องจากหลงเชื่อว่าจะได้รับการจัดสรรที่ดินได้จริง แต่ภายหลังจึงทราบว่าเป็นเพียงการกล่าวอ้าง เพราะที่ดินบริเวณดังกล่าวยังมีกรณีพิพาทระหว่างรัฐกับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งอยู่ ต่อมา พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับ และสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้

สอบสวน นายมนตรี ให้การปฏิเสธว่า ก่อตั้งมูลนิธิแห่งนี้ขึ้นมาตั้งแต่ปี 2549 โดยดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีระเบียบแบบแผนเป็นแนวทางการปฏิบัติงาน และมีเจตนารมณ์ที่ต้องการจะต่อสู้เพื่อเกษตรกร และผู้ยากไร้ เพื่อไม่ต้องไปรวมตัวกันก่อม็อบเดินขบวนเรียกร้องต่อรัฐ แต่อาศัยช่องทางตามข้อกฎหมายดำเนินการแทน ซึ่งส่วนตัวแล้วตนก็มีอาชีพทนายความได้ต่อสู้ร่วมกับเครือข่ายเกษตรกรต่างๆ ทั่วประเทศมาก่อนหน้านี้

นายมนตรี ให้การต่อว่า สำหรับกรณีการจัดสรรที่ดินให้สมาชิกมูลนิธินั้น ก็ไม่ทราบเรื่อง แต่มีกลุ่มคนที่แอบอ้าง และสร้างความเสียหายให้กับมูลนิธิ ซึ่งยอมรับว่า ไม่ละเอียดรอบคอบเพียงพอกับการพิจารณารับสมัครสมาชิก ที่มีหลากหลายกลุ่มและที่มา นอกจากนี้ ยังได้ฟ้องสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา หลังจากนำเสนอข้อมูลด้านเดียว กล่าวหาว่า มูลนิธิแสวงหาประโยชน์จากเกษตรกรและผู้ยากไร้ทั้งที่ไม่เป็นความจริง โดยคดีนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนในศาลจังหวัดมีนบุรี
กำลังโหลดความคิดเห็น