“ไอ้ตู่ จตุพร” อ่วมดีเอสไอแจ้งเพิ่ม 3 ข้อหาปลอมเอกสาร-เผยความลับราชการ-จงใจใส่ร้ายผู้อื่นให้รับโทษอาญา ทั้งที่ไม่มีมูลความผิด ขณะที่ “ธาริต” ย้ำ “จตุพร” ตัดต่อเอกสารขึ้นใหม่ ชี้ เป็นคดีเกี่ยวเนื่องคดีก่อการร้าย ปัดไม่ใช่โกรธแค้นส่วนตัว แต่ดีเอสไอต้องปกป้องความเสียหายองค์กร เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างในภายหน้า
วันนี้ (18 มี.ค.) เวลา 14.30 น.นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย นำข้อมูลสำนวนการสอบสวนคดีก่อการร้ายไปเปิดเผยในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่า การอภิปรายของ นายจตุพร แม้จะได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ แต่เอกสิทธิ์คุ้มครองเฉพาะการเปิดเผยในสภา แต่ไม่ได้ให้ความคุ้มครองถึงการนำข้อมูลถ่ายทอดสู่สาธารณชน ดังนั้น คณะพนักงานสอบสวนมีมติเอกฉันท์ให้ดำเนินคดีกับนายจตุพรใน 3 ข้อหา คือ
1.ข้อหาปลอมเอกสารของทางราชการ เพราะมีการตัดต่อข้อความบางส่วน เลือกเฉพาะส่วนที่เป็นประโยชน์ ส่วนที่เป็นโทษไม่มีการพูดถึง เช่น กรณีเจ้าหน้าที่ทหารบนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส ให้ถ้อยคำยืนยันว่ามีชายชุดดำใช้อาวุธปืนยิงใส่ทหาร ทหารจึงต้องยิงโต้ตอบเพื่อป้องกันตัว ซึ่ง นายจตุพร ไม่พูดถึงประเด็นนี้ 2.ข้อหานำความลับในสำนวนการสอบสวนไปเปิดเผยต่อสาธารณะ อันอาจเกิดความเสียหายต่อพยานหลักฐาน และก่อให้เกิดความเสียหายทางรูปคดี และ 3.ข้อหาจงใจใส่ร้ายผู้อื่นให้อาจต้องรับโทษทางอาญา ทั้งที่ยังไม่มีมูลความผิด
นายธาริต กล่าวว่า ดีเอสไอจะดำเนินคดีกับนายจตุพรดังกล่าวเพิ่มเติม โดยถือเป็นคดีที่เกี่ยวเนื่องกับคดีก่อการร้ายที่ดีเอสไอมีอำนาจสอบสวนโดยไม่ต้องแจ้งความกับพนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แต่อย่างใด
“ยืนยันว่า การดำเนินคดีกับนายจตุพร ดังกล่าวไม่ใช่ความโกรธแค้นส่วนตัว แต่เป็นเรื่องที่ดีเอสไอจำเป็นต้องปกป้องความเสียหายขององค์กร และเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างในภายหน้า” นายธาริต กล่าว
นายธาริต กล่าวอีกว่า ในการอภิปราย นายจตุพร ไม่ได้พาดพิงถึงการปฏิบัติหน้าที่ของตน แต่ได้ทำการปลอมเอกสารของทางราชการ โดยนำข้อความในสำนวนคดีผลการสอบสวนสาเหตุการตายของผู้ชุมนุมและทหารรวม 91 ศพ เมื่อเดือน เม.ย.-พ.ค.ปีที่แล้ว มาตัดต่อใหม่
ส่วนกรณี นายจตุพร อภิปรายโดยอ้างว่าผลการสอบสวนผู้เสียชีวิต 13 ราย ของดีเอสไอ พบว่า เจ้าหน้าที่รัฐหรือทหารมีส่วนเกี่ยวข้องจนต้องส่งสำนวนกลับให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทำสำนวนชันสูตรพลิกศพ นายธาริต กล่าวว่า ดีเอสไอไม่เคยสรุปอย่างนั้น เพียงบอกว่าอาจเข้าข่ายจึงส่งสำนวนให้ตำรวจทำเพิ่ม
สำหรับกรณี นายวิเชียร ขาวขำ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายระบุว่า ทหารจากหน่วยฉก.90 ยศสิบเอก อักษร ยื่อ พ.นามสกุล ป.เป็นคนมือสไนเปอร์ ยิง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง นายธาริต กล่าวว่า ดีเอสไอไม่มีข้อมูลดังกล่าวในสำนวน