จับหนุ่มแสบอ้างรู้จักบิ๊กเจ้าจำปี! หลอกเหยื่อพาเข้าสจ๊วตได้

รวบอดีตเซลส์ขายกล้อง อ้างรู้จักประธานบอร์ดจำปี หลอกเหยื่อพาเข้าเป็นสจ๊วตการบินไทยได้ เรียกเก็บเงินค่าสหกรณ์ก่อน จึงทำให้เหยื่อเอะใจไปร้องทุกข์ตรวจสอบข้อมูลกับตำรวจ ดันไปเจอมีหมายจับคดีฉ้อโกงติดตัว เลยล่อจ่ายเงินแล้วให้เจ้าหน้าที่รวบตัวดำเนินคดี

วันนี้ (9 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.ต.สิทธิชัย ธัญญาบาล สว.สส.สน.บางซื่อ นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเข้าจับกุมตัว นายทวีศักดิ์ ธนธีระเศรษฐ์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/48 หมู่ 8 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทราที่ 209/2552 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2552 ในข้อหาฉ้อโกง โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าบริษัท การบินไทย สำนักงานใหญ่ ถนนวิภาวดี แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. พร้อมของกลางเงินสดจำนวน 35,000 บาท

พ.ต.ต.สิทธิชัยเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากนายสุรพงษ์ อายุ 25 ปี และนายประสิทธิ์ อายุ 28 ปี (ขอสงวนนามสกุล) ได้เข้าร้องทุกข์กับฝ่ายสืบสวนสน.บางซื่อ หลังจากสงสัยว่านายทวีศักดิ์อาจจะมีพฤติกรรมเข้าข่ายฉ้อโกง โดยหลอกลวงว่าสามารถช่วยให้สมัครเข้าเป็นสจ๊วตของสายการบินไทยได้ ฝ่ายสืบสวนจึงทำการตรวสจสอบจนพบว่านายทวีศักดิ์มีหมายจับของศาลจังหวัดฉะเชิงเทราในข้อหาฉ้อโกง จากนั้นจึงได้วางแผนกับผู้เสียหายในการเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหา กระทั่งวันนี้ขณะที่ผู้เสียหายเดินทางนำเงินสดจำนวน 35,000 บาท มามอบให้ผู้ต้องหาที่หน้าบริษัทการบินไทย เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการจับกุมทันที พร้อมกับควบคุมตัวมาสอบสวนที่โรงพัก ก่อนประสานให้ผู้เสียหายไปทำการแจ้งความที่ สน.สุทธิสาร ไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากเป็นท้องที่เกิดเหตุ

ต่อมานายสุรพงษ์พร้อมด้วยนายประสิทธิ์ได้เดินทางมาที่ สน.บางซื่อ เพื่อทำการชี้ตัวผู้ต้องหา โดยนายประสิทธิ์เปิดเผยว่า ตนเป็นพี่ชายของนายสุรพงษ์ ปกติแล้วน้องชายทำงานอยู่ที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งและได้ไปสมัครเข้าเป็นสจ๊วตกับสายการบินหลายแห่งแต่ยังไม่ได้รับการคัดเลือก กระทั่งเจ้านายของน้องชายได้แนะนำให้รู้จักกับนายทวีศักดิ์ ซึ่งนายทวีศักดิ์ได้อ้างว่าเป็นหลานของนายอำพล กิตติอำพล ประธานบอร์ดบริหารระดับสูงของการบินไทย โดยที่เจ้านายของน้องชายก็ไม่รู้มาก่อนเลยว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมหลอกลวงดังกล่าว จากนั้นน้องชายและตนก็ได้ติดต่อพูดคุยกับนายทวีศักดิ์ถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการสมัครเข้าเป็นสจ๊วตของสายการบินไทย โดยนายทวีศักดิ์บอกว่า ก่อนหน้านี้มีผู้สมัครสจ๊วต 3 คน สละสิทธิ์ออกไป และสามารถช่วยให้น้องชายเข้าทำงานได้ ให้ยื่นลาออกจากบริษัทที่ทำอยู่และเตรียมตัวเข้าคอร์สเป็นสจ๊วตได้เลย

นายประสิทธิ์กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นก็มีการนัดเจอกับนายทวีศักดิ์ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งนายทวีศักดิ์ใส่เสื้อของการบินไทยและแต่งตัวภูมิฐาน พูดจาน่าเชื่อถือมาก ตนจึงไม่คิดเอะใจอะไร กระทั่ง 1 อาทิตย์ผ่านไป นายทวีศักดิ์ได้โทรศัพท์มาขอเรียกเก็บเงินจำนวน 35,000 บาท โดยอ้างว่าเป็นค่าสหกรณ์ ตนจึงเริ่มเอะใจเพราะน้องชายของตนยังไม่ได้เข้าทำงานที่การบินไทยเลย แต่มาเรียกเก็บเงินก่อนแล้ว ตนจึงประสานให้ฝ่ายสืบสวน สน.บางซื่อ ช่วยตรวจสอบข้อมูลของนายทวีศักดิ์จนพบว่ามีหมายจับ จึงได้วางแผนกับเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกระทั่งสามารถจับกุมตัวไว้ได้

จากการสอบสวนนายทวีศักดิ์ให้การรับสารภาพว่า ตนเรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง หลังจากที่เรียนจบก็ทำงานเป็นเซลส์ขายกล้องยี่ห้อดัง แต่ทำได้ 3 ปี ก็ตกงานและยังหางานอื่นทำไม่ได้ ด้วยความที่ต้องการเงินมาใช้จ่ายจึงคิดวิธีดังกล่าว เพื่อหลอกลวงเงินจากเหยื่อ โดยตนจะเลือกอ้างบริษัทการบินไทย และการไฟฟ้าฯ เนื่องจากเห็นว่ากำลังเปิดรับสมัครพอดี จากนั้นก็จะเข้าไปศึกษาชื่อผู้บริหารระดับสูงขององค์กร เพื่อใช้อ้างกับเหยื่อและซื้อเสื้อของการบินไทยมาใส่เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ ทำมาแล้ว 5 ราย โดยเหยื่อรายก่อนหน้านี้ตนรู้จักทางอินเทอร์เน็ต โดยหลอกว่าสามารถฝากเข้าเป็นพนักงานของการไฟฟ้าฯ ได้ และเรียกเก็บเงินจำนวน 1.5 แสนบาท จากนั้นก็ถูกออกหมายจับ ส่วนเหยื่อรายล่าสุดตนรู้จักผ่านทางผู้ใหญ่ท่านหนึ่งซึ่งเป็นเจ้านายของเหยื่อเอง ตนเคยคิดว่าสักวันคงจะถูกจับได้และคิดที่จะเลิกทำแบบนี้แต่ก็ยังหางานทำไม่ได้ จึงต้องใช้วิธีดังกล่าวหาเงินไปก่อน