พระราชบัญญัติการปฏิบัติเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศในการดำเนินการตามคำพิพากษาคดีอาญา พ.ศ. 2527 กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการโอนนักโทษไว้โดยมีหลักการสำคัญ ดังนี้
1.ประเทศผู้โอนและประเทศผู้รับโอนจะต้องมีสนธิสัญญาระหว่างกันในเรื่องความร่วมมือในการดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษาคดีอาญา
2.การโอนนักโทษจะต้องได้รับความเห็นชอบจากประเทศผู้โอนกับประเทศผู้รับโอน และนักโทษซึ่งจะได้รับการโอน
3.ความผิดที่นักโทษไทยหรือนักโทษต่างประเทศได้รับโทษอยู่ต้องเป็นความผิดที่มีโทษฐานใดฐานหนึ่งตามกฎหมายของประเทศผู้รับโอน
4.นักโทษซึ่งจะได้รับการโอนต้องไม่อยู่ในระหว่างการดำเนินคดีอาญาในความผิดอื่นหรืออยู่ในระหว่างการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ในประเทศผู้โอน
5.การโอนนักโทษจะทำให้เกิดผลดีหรือเป็นประโยชน์แก่นักโทษผู้นั้น
6.การโอนนักโทษจะมีผลกระทบต่อปัญหาอาชญากรรมและความรู้สึกของประชาชนในประเทศผู้โอนและประเทศผู้รับโอนเพียงใดหรือไม่ เมื่อคำนึงถึงลักษณะและความรุนแรงของการกระทำความผิด (มาตรา 6)
ทั้งนี้ การดำเนินการโอนเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการพิจารณาโอนนักโทษ ซึ่งมีปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานกรรมการ เจ้ากรมพระธรรมนูญ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา อธิบดีศาลคดีเด็กและเยาวชนกลาง อธิบดีกรมอัยการ อธิบดีกรมตำรวจ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมายเป็นกรรมการ ผู้อำนวยการกองทัณฑวิทยากรมราชทัณฑ์เป็นกรรมการและเลขานุการ และผู้อำนวยการกองสนธิสัญญากรมสนธิสัญญาและกฎหมายเป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ (มาตรา 9)
สำหรับนักโทษไทยซึ่งประสงค์จะขอโอนมารับโทษต่อในราชอาณาจักรให้ยื่นคำขอพร้อมทั้งส่งเอกสารหลักฐานที่คณะกรรมการพิจารณาโอนนักโทษกำหนดต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่สถานทูตไทย หรือสถานกงสุลไทยที่มีอำนาจหน้าที่ประจำประเทศผู้โอน หรือต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ กระทรวงการต่างประเทศแล้วแต่กรณี ซึ่งปัจจุบันกองสัญชาติและนิติกรกรมการกงสุลเป็นผู้ปฏิบัติและรับผิดชอบงานการโอนนักโทษ (มาตรา 12,13)
ในการยื่นคำขอโอนนักโทษไทย ผู้ยื่นคำขอจะต้องใช้แบบพิมพ์ของทางราชการ “แบบคำขอโอนนักโทษไทย” พร้อมทั้งส่งเอกสารประกอบ ดังนี้
1. หลักฐานแสดงสัญชาติของนักโทษ เช่น สูติบัตร บัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน หนังสือเดินทาง หรือหลักฐานอื่น
2. สำเนาคำพิพากษาของศาล
3. ทะเบียนประวัติการต้องโทษ สำเนาหมายจำคุกหรือกักขังเมื่อคดีถึงที่สุด และถ้ามีหมายลดโทษให้แนบมาด้วย
4. ในกรณีที่นักโทษไม่ได้ยื่นคำขอด้วยตนเอง ผู้ยื่นคำขอต้องแสดงหลักฐานความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับนักโทษด้วย
ในกรณีที่ผู้ยื่นคำขอไม่สามารถจัดหาเอกสารหลักฐานประกอบคำขอได้ด้วยตนเอง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นผู้จัดหาให้ (มาตรา 8)
เมื่อได้รับคำขอพร้อมเอกสารครบถ้วนแล้ว พนักงานจะส่งคำขอและเอกสารต่อคณะกรรมการพิจารณาการโอนนักโทษพิจารณา คณะกรรมการจะต้องรีบพิจารณาและมีคำสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้มีการโอนนักโทษไทยโดยเร็ว แล้วชี้แจงคำสั่งดังกล่าวให้ผู้ยื่นคำขอทราบโดยผ่านกระทรวงการต่างประเทศ คำสั่งของคณะกรรมการให้เป็นที่สุด (มาตรา 15)
สิทธิในการได้รับอภัยโทษ เปลี่ยนโทษหนักเป็นเบาและลดโทษ การพักการลงโทษ การพักการกักกัน และการลดวันต้องโทษ นักโทษไทยมีสิทธิได้รับทั้งตามกฎหมายของประเทศผู้โอนและกฎหมายของประเทศไทยอีกด้วย (มาตรา 18 - 22)
นับเป็นความโชคดีที่ในการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 - 5 สิงหาคม 2552 โดยนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายไทย นายฮอร์ นัม ฮง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศของกัมพูชา เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายกัมพูชาได้ลงนามความตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยกับราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการโอนตัวผู้ต้องคำพิพากษาและความร่วมมือในการบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาในคดีอาญา (สนธิสัญญาโอนตัวนักโทษ) ไว้แล้ว
การโอนตัวนักโทษจึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งตามกฎหมายที่จะนำตัวคุณวีระ สมความคิด และคุณราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ กลับประเทศไทยที่เป็นหลักปฏิบัติในระดับเจ้าหน้าที่ฝ่ายประจำได้โดยตรง ยิ่งได้ทราบข่าวจากคุณพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัติย์ที่เคยถูกทหารเขมรจับ (ลักพา) ตัวไปพร้อมกับคุณวีระและคุณราตรี และการยืนยันจากคุณแม่และน้องชายของคุณวีระว่าคุณวีระกำลังป่วยหนักด้วยแล้ว จึงขอเรียกร้องผู้ที่มีอำนาจหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหลาย โปรดรีบดำเนินการตามช่องทางนี้อีกทางหนึ่งโดยเร่งด่วนเถอะครับ เพราะไม่ทำให้การช่วยเหลือคนทั้งสองในแนวทางอื่นเสียหายไปแต่อย่างใด ทั้งนี้ เพื่อเห็นแก่ความกล้าหาญและความเสียสละต่อประเทศชาติของคุณวีระและคุณราตรี ผมยินดีให้การสนับสนุนญาติของคุณวีระและคุณราตรีและผู้เกี่ยวข้องที่จะดำเนินการในเรื่องนี้เท่าที่ผมจะสามารถทำได้ด้วยความยินดีอย่างยิ่งครับ
ในท้ายที่สุดนี้ ผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย พระสยามเทวาธิราช พระแก้วมรกต เจ้าพ่อหลักเมือง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกได้โปรดคุ้มครองคุณวีระและคุณราตรีให้แคล้วคลาดปลอดภัยและได้เดินทางกลับมายังประเทศไทยโดยเร็วด้วยครับ
อนุรักษ์ สง่าอารีย์กูล
เลขานุการแผนกคดีอาญา
ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา
sa_anuruk @ yahoo.co.th