คนร้าย 2 คนพูดสำเนียงเหน่อ ทำทีว่าจ้างให้ไปส่งก่อนสบโอกาสจี้คนขับรถแท็กซี่ได้เงินไป 600 บาท พร้อมโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง พยานเผยมีชายรับเหมาก่อสร้างมาใช้บริการร้านคาราโอเกะ 3 คน แต่เงินไม่พอจ่ายก่อนมัดจำมือถือไว้ 1 เครื่อง จากนั้น ตร.จึงเข้าตรวจแคมป์คนงานพบเป็นหัวหน้าคนงานก่อสร้างจึงนำตัวสอบปากคำเพื่อดำเนินคดีลูกน้องหัวหน้าคนงานก่อสร้างต่อไป
วันนี้ (2 มี.ค.) เมื่อเวลา 01.45 น. ร.ต.อ.เฉลิมศักดิ ประดับสุข ร้อยเวร สน.บางนา รับแจ้งเหตุคนร้ายจี้คนขับรถแท็กซี่ภายในซอยเฉลิมพระเกียรติ 6 จึงรุดไปตรวจสอบพบนายอรรถพล แซ่ลิ้ม อายุ 37 ปี ยืนอยู่บริเวณปากซอย สอบสวนให้การว่า เวลา 01.00 น.ได้รับผู้โดยสารจากสำนักงานเขตประเวศ เมื่อรถวิ่งมาถึงซอยเฉลิมพระเกียรติ 39 มีชายวัยรุ่น 2 คน อายุประมาณ 20 ปี อยู่ในอาการเมา พูดสำเนียงเหน่อ ได้ว่าจ้างให้ไปส่งที่ซอยเฉลิมพระเกียรติ 6 เมื่อรถเลี้ยวเข้าไปประมาณ 30 เมตร คนร้ายที่นั่งหลังได้ล็อกตัวแล้วใช้มีดจี้ ตนขัดขืนต่อสู้ก็ถูกคนร้ายใช้มีดแทงเข้าท้องแต่ไม่ได้เข้า แต่ก็ถูกคนร้ายชกเข้าใบหน้าและะชิงเงินไปได้ 600 บาท โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง 1 เครื่อง เมื่อตนเปิดประตูรถออกได้ก็วิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือจากลูกค้าร้านคาราโอเกะ ขณะเดียวกัน เพื่อนๆ ที่ขับรถแท็กซี่ก็พากันขับรถติดตามหาคนร้ายเข้าไปภายในซอยประมาณ 1 กิโลเมตรก็พบรถจอดชนต้นไม้อยู่ แต่ไม่พบคนร้าย
น.ส.มะ พนักงานร้านคาราโอเกะให้การว่า ก่อนหน้านี้ได้มีชายรับเหมาก่อสร้าง 3 คน ทราบชื่อเพียงว่า นัด กับ เสริฐ อายุประมาณ 20 ปี บอกว่าอยู่ภายในซอยเฟื่องฟ้าได้มานั่งดื่มอยู่ที่ร้านกระทั่งเจ้าของร้านเรียกเก็บเงินจำนวน 1,600 บาท แต่ทั้ง 3 คนมีเงินเพียง 1,000 บาท จึงให้โทรศัพท์เป็นประกันไว้ 1 เครื่อง
ต่อมา ร.ต.อ.เฉลิมศักดิ์ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นแคมป์คนงาน พบเพียงหัวหน้าคนงานอยู่ในอาการมึนเมา ซึ่งเจ้าของร้านคาราโอเกะยืนยันว่าเป็น 1 ใน 3 คนที่ไปดื่มกินที่ร้าน ซึ่งหัวหน้าคนงานก็ยอมรับว่าทั้งนายนัดและนายเสริฐเป็นลูกน้องและไปดื่มกินจริง แต่ไม่ทราบว่าลูกน้องไปก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวไปสอบปากคำที่ สน.บางนา เพื่อติดตามจับกุมลูกน้องหัวหน้าคนงานก่อสร้างมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป