ประจวบคีรีขันธ์ - จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนแผนบริหารจัดการ และพัฒนาลุ่มน้ำแบบบูรณาการสู่การปฏิบัติ ลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันตก
วันนี้ (8 พ.ค.) นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนแผนบริหารจัดการ และพัฒนาลุ่มน้ำแบบบูรณาการ สู่การปฏิบัติ ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพองค์กรลุ่มน้ำ และเครือข่ายในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ประจำปีงบประมาณ 2555 ลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันตก
โดยมีน.ส.ณุวรรณา อนันตกิจศาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายพรชัย ถมกระจ่าง นายอำเภอหัวหิน นายสงกรานต์ ไมยวงษ์ ท้องถิ่นจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องเฟื่องฟ้า โรงแรมปัตตาเวีย รีสอร์ท แอนด์ สปา ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ
นายวิวัฒน์ โสเจยยะ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 7 ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันตก (ประจวบคีรีขันธ์) กล่าวว่า กรมทรัพยากรน้ำมีภาระหน้าที่ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในภาพรวมของแต่ละลุ่มน้ำทั่วประเทศ โดยมีองค์กรลุ่มน้ำ เป็นกลไกขับเคลื่อนการจัดทำแผนบริหารจัดการ และพัฒนาลุ่มน้ำแบบบูรณาการในระดับลุ่มน้ำ
โดยในขั้นตอนของการจัดทำแผน จะต้องหารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกระดับ และนำแผนงาน/โครงการต่างๆ ที่ได้มากำหนดเป็นกรอบแผนบริหารจัดการและพัฒนาลุ่มน้ำแบบบูรณาการ ให้หน่วยปฏิบัตินำไปดำเนินการตามภาระหน้าที่ และให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่ในปัจจุบัน แผนบริหารจัดการและพัฒนาลุ่มน้ำแบบบูรณาการลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันตก (ประจวบคีรีขันธ์) ยังไม่สามารถขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติได้อย่างแท้จริง ทำให้ปัญหาต่างๆ ในพื้นที่ลุ่มน้ำไม่ได้รับการแก้ไขเท่าที่ควร โดยเฉพาะปัญหาภัยแล้ง ซึ่งเป็นปัญหาวิกฤตอยู่ในขณะนี้
ดังนั้น สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 7 จึงได้จัดโครงการฯ ดังกล่าวขึ้น เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแก่องค์กรลุ่มน้ำ รวมทั้งให้เกิดการประสานการวางแผนระหว่างหน่วยงานในระดับจังหวัด ภูมิภาคและหน่วยงานส่วนกลาง เพื่อขับเคลื่อนโครงการจากแผนบริหารจัดการและพัฒนาลุ่มน้ำแบบบูรณาการให้สามารถนำไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาความเดือดร้อน และตอบสนองความต้องการของประชาชนให้มีน้ำสะอาด สำหรับอุปโภคบริโภค ตลอดจนมีน้ำใช้กิจกรรมอื่นๆ อย่างเพียงพอและทั่วถึง
