คอลัมน์ “จันทร์ส่องดาว” จันทร์นี้ขอนำเสนอ พ.ต.ท.อรรถพร สุริยเลิศ รองผู้กำกับสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบกองบัญชาการตำรวจนครบาล (รองผกก.บก.สส.2 บช.น.) พร้อมพ่วงตำแหน่งหัวหน้าศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถกองบัญชาการตำรวจนครบาล (หน.ศปจร.น.) ถือเป็นอีกหนึ่งนายตำรวจน้ำดีของวงการสีกากี ที่มีผลงานกวาดล้างยาเสพติดและโจรกรรมรถผิดกฎหมายมากมายในเมืองหลวง
พ.ต.ท.อรรถพร มีชื่อเล่นว่า “ อรรถ” เกิดวันที่ 3 พ.ค.2513 เป็นชาวจังหวัดศรีษะเกษ จบการศึกษาปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตร์บัณฑิต เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 45 เตรียมทหาร รุ่น 29 เริ่มรับราชการตำรวจครั้งแรกตำแหน่ง รอง สวส.สน.พญาไท ถัดมาเป็น รอง สว.กก.สส.น.เหนือ คล้อยหลัง 1 ปี ต่อมาเป็น รอง สว.กก.สส.น.1 ขึ้นสารวัตรครั้งแรก ในตำแหน่ง สว.ผ.สายตรวจ กก.ม. ผ่านไป 2 ปี โยกไปเป็น สว.สส.สน.บางยี่เรือ เข้าปี 2546 เป็น สว.ชุดปฏิบัติการที่ 3 ศปค.น.(ศทส) ในปีเดียวกัน ช่วยราชการปจร.น. ถัดมาช่วยราชการปจร.ตร. ก่อนเลื่อนขึ้นตำแหน่งรอง ผกก.ศส.บช.น. กระทั่งปัจจุบันครองตำแหน่งรอง ผกก.สส. 2 บก.สส.บช.น.
พ.ต.ท.อรรถพร เล่าว่า เป็นคนจังหวัดศรีษะเกษ มีพี่น้อง 10 คนด้วยกัน พ่อรับราชการเป็นครู มีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนกาฬสินธุ์ ตั้งแต่เด็กแล้วมีความฝันอยากเป็นหมอ เนื่องจากมีพี่ชายเป็นหมอ แต่ความฝันเริ่มผันเปลี่ยนไปเมื่อพ่อถูกยิงด้วยปืนแก็ปจนเสียชีวิต หลังจากที่สอบเข้าชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ โรงเรียนศรีษะเกษวิทยาลัย ด้วยความแค้นจึงทำให้คิดอยากเป็นตำรวจตั้งแต่นั้นมา
“หลังจากนั้นพี่สาวที่อยู่กรุงเทพฯ ให้มาเรียนที่โรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์ จ.นนทบุรี ต่อมาสอบนายร้อยได้ ตท.รุ่น 29 นรต.รุ่น45 ซึ่งตอนเรียนก็เกเรบ้าง เรียนไม่เก่ง แต่อาศัยความขยันหมั่นเพียงศึกษาหาความรู้ จนเป็นตำรวจได้สมใจ” รองอรรถ กล่าว
ผลงานที่รู้สึกภูมิใจมากที่สุดนั้น รองอรรถ เผยกับจันทร์ส่องดาวว่า เคยทำโครงการต่อต้านยาเสพติด “ม้ามีชีวิตพิชิตม้าเม็ด” นอกจากนี้ยังมีคดีที่ภูมิใจอีกคือการปราบปรามแก็งโจรกรรมรถในเมืองหลวง โดยใช้มาตรการเด็ดขาดจับกุม จึงทำให้สถิติการโจรกรรมรถยนต์และจักรยานยนต์ในพื้นที่นครบาลเบาบางลง
“ผมจึงคิดว่าการปราบปรามต้องช่วยกัน จึงเริ่มจากการเป็นอาจารย์สอนบรรยายให้กับตำรวจฝ่ายสืบสวน เพื่อให้งานที่ทำออกมามีประสิทธิภาพ ใช้ประสบการณ์นำทางเป็นตำรา เพื่อต้องการเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความรู้เท่าทันเหนือกว่าโจร สมองพึงคิดกลายเป็นทำหลักสูตรขึ้นมา สาระสำคัญในตำรา อาทิ การปลอมหมายเลขทะเบียน เลขตัวถังปลอม ภาษีปลอม ฯลฯ พร้อมบรรยายสอนเพิ่มเติมให้ตำรวจสืบสวนทันเล่เหลี่ยมกลุ่มโจรด้วย เพราะโจรสมัยนี้มีความก้าวหน้า ตำรวจจึงต้องดึงเทคโนโลยีมาใช้ทำงานรวมด้วย” พ.ต.ท.อรรถพร เล่าด้วยสีหน้าจริงจัง
รองอรรถ ปรารภต่อว่า นอกเหนือจากเป็น รองผกก.สส.2 แล้ว ยังทำหน้าที่ หน.ชุดปฏิบัติการ ศปจร.น เนื่องจากมีผู้ใหญ่ที่เคยสัมผัสเส้นทางการทำงานของตน ให้เข้ามาช่วยทำงานด้านศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถ เพราะเป็นตำรวจที่ทำงานและคิดตลอดเวลาว่าจะทำให้ปัญหาอาชญากรรมลดน้อยลงได้อย่างไร ส่วนหน้างานที่รับผิดชอบในกองบังการสืบสวนสอบสวน 2 เป็นงานปราบปรามยาเสพติดและการโจรกรรมรถ
พ.ต.ท.อรรถพร ยังกล่าวถึงการทำงานของตำรวจในปัจจุบันด้วยว่า สำหรับมุมมองการทำงานของตำรวจ ด้านสืบสวนสอบสวน โครงสร้างตำรวจใหญ่เกินไป ควรมีเพียงแค่สายตรวจกับสายสืบ และยกเลิกยศ แล้วเป็นผู้ชำนาญการไล่ตามระดับ 1 2 3 เหมือนต่างประเทศ เพื่อตำรวจจะได้ไม่ต้องวิ่งเต้นกัน
“ผมสอนลูกน้องทุกคนรวมถึงตัวเองว่าไม่ให้ไปเรียกเก็บเงินใคร ยึดอุดมคติที่ว่า “สูงสุดคืนสู่สามัญ” คือการกลับคืนสู่ธรรมชาติ เพราะตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้เลยไม่หวังลาภยศสรรเสริญ ทำเพียงคุณงามความดีไว้ให้คนจดจำ” รอง อรรถ กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผลงานปราบปรามที่ผ่านมา อาทิ เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2552 จับกุมนายคคนะ พูลสวัสดิ์ พร้อมกับพวก 4 คน รถยนต์ถูกโจรกรรม จำนวน 3 คัน ซึ่งเป็นแก๊งโจรกรรมรถยนต์ฮอนด้าแจ๊ส วันที่ 4 ก.พ.2553 ร่วมจับกุม นายสมควร เดชประภาพร กับพวก พร้อมยาบ้า 370,000 บาท มูลค่า 11,100,000 ล้านบาท วันที่ 6 พ.ค.53 ร่วมจับกุมตัวนายมานิตย์ มยุเรศ พร้อมรถยนต์และแผ่นป้ายทะเบียนรถถูกโจรกรรมจำนวนมาก ภายในอู่เสรีไทย 64 และเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2553 จับกุมนาย สุรศักดิ์ ศิริศุภมนตรี กับพวก พร้อมยาบ้า 557,600 เม็ด และอาวุธปืนอาก้า ถือเป็นเสี้ยวหนึ่งของผลงานฉายแสงการันตีความสามารถของตำรวจน้ำดีคนนี้เป็นอย่างยิ่ง หวังว่าวงการตำรวจไทยจะมีตำรวจดีๆเฉกเช่นนี้ต่อไป