xs
xsm
sm
md
lg

ทลายแก๊งชาวจีน-ไต้หวัน ลวงหญิงเวียดนามอุ้มบุญให้เศรษฐีต่างชาติ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

สตม.บุกจับแก๊งชาวจีน-ไต้หวัน เปิดบริษัทรับจ้างตั้งครรภ์ทางโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต ลวงหญิงเวียดนามกักขังไว้อุ้มบุญให้เศรษฐีต่างชาติ ใช้ รพ.เอกชนย่านมีนบุรีรับทำ ได้ค่าจ้างคราวละ 5,000 ดอลลาร์ หากไม่ทำก็ถูกยึดพาสปอร์ต พบเคยทำในไต้หวันจนถูกจับจึงหนีมาตั้งฐานใหม่ในไทยตั้งแต่ปี 52

วันนี้ (23 ก.พ.) เมื่อเวลา 18.00 น. พล.ต.ท.วิบูลย์ บางท่าไม้ ผบช.สตม.,พล.ต.ต.ม.ล.พันธ์ศักดิ์ เกษมสันต์ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.มนู เมฆหมอก ผบก.สส.สตม.พ.ต.อ.เฉลิมพล จินตรัตน์ ผกก.2 สส.สตม., พ.ต.ท.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ รอง ผกก.2 บก.สส.สตม., พ.ต.ท.ทวีป ช่างต่อ สว.กก.2 บก.สส.สตม. พร้อมกำลัง กก.2 สตม.,เจ้าหน้าที่จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.เฉิน ไป่ หวัน อายุ 35 ปี สัญชาติจีนไต้หวัน นายไช่ หลิง อี อายุ 26 ปี สัญชาติจีนไต้หวัน นายซู อุย เฉียน อายุ 31 ปี สัญชาติจีนไต้หวัน นายหลู ไข่ อายุ 27 ปี สัญชาติจีน น.ส.ไช่ หยู่ หยุน อายุ 25 ปี สัญชาติ จีนไต้หวัน ได้ที่บ้านเลขที่ 79/246 หมู่บ้านธารารมย์ ซอยรามคำแหง 150 ถนนรามคำแหง แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ ซึ่งเปิดเป็นบริษัท เบบี้ 101 จำกัด พบหญิงสาวชาวเวียดนามจำนวน 13 ราย โดยมี 7 คนที่ตั้งครรภ์ใกล้คลอด โดยทั้งหมดถูกกักตัวอยู่ภายในบ้าน จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สตม.

พล.ต.ต.ม.ล.พันธ์ศักดิ์กล่าวว่า หลังจากได้รับการประสานงานจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม ว่าที่บริษัทดังกล่าวได้มีการนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานและกักขังคนต่างด้าวไว้ จึงนำหมายค้นศาลจังหวัดมีนบุรีที่ 134/2554 เข้าทำการตรวจค้น พบ น.ส.ปราณี แซ่จัง อยู่บ้านเลขที่ 518 ม.10 ต.หนองบัว อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ รับว่าเป็นพนักงานคนหนึ่งของบริษัท เป็นผู้นำเจ้าหน้าที่ตรวจค้นตั้งแต่เวลา 12.15 น.เสร็จสิ้นการตรวจค้นเมื่อเวลา 14.30 น.

พล.ต.ต.พันธ์ศักดิ์กล่าวต่อว่า ผลการตรวจค้นพบว่า บริษัทดังกล่าวมีบุคคลต่างด้าวนั่งทำงานในหน้าที่ติดต่อลูกค้าทางโทรศัพท์ และอินเทอร์เน็ต เพื่อให้บริการรับจ้างตั้งครรภ์ ตรวจสอบเบื้องต้นบริษัทดังกล่าวจ้างแรงงานต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงแรงงาน และจากการสอบผู้ต้องหาข้างต้นให้การว่าได้มาทำงานให้กับนาย เสียง ลุง โล ในโดยมี น.ส.เฉิน ไป่ หวัน เป็นผู้จัดการดูแล และจากการตรวจค้นยังพบหญิงชาวเวียดนามจำนวน 9 คน ซึ่งมีเอกสารการเดินทางถูกต้อง

ทั้งนี้ หญิงชาวเวียดนามทั้งหมดให้การว่า พวกตนเป็นผู้มารับจ้างให้ตั้งครรภ์แทนให้กับลูกค้าซึ่งมาขอใช้บริการกับบริษัทและยังมีหญิงชาวเวียดนามอีกจำนวนหนึ่งถูกแยกนำไปไว้ที่บ้านเลขที่ 79/256 หมู่บ้านธารารมย์ ซอยรามคำแหง 150 ถ.รามคำแหง แขวงและเขตสะพานสูง กทม. ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันและไม่ไกลจากบริษัทดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแยกไปทำการตรวจค้นที่บ้านหลังดังกล่าวแล้ว พบหญิงสาวชาวเวียดนามอีก 4 คนที่ถูกกักขัง โดยในจำนวนนี้ 2 กำลังตั้งครรภ์ นอกจากนั้นยังตรวจสอบพบเอกสารหนังสือสัญญาเรื่องการจัดตั้งบริษัท และสัญญาว่าจ้างตั้งครรภ์ จึงทำการตรวจยึดเอกสารและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการกระทำความผิดมาตรวจสอบเพื่อขยายผลที่ สตม.

ภายหลังที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมตัวแทนสหวิชาชีพจาก พม.ได้ร่วมกันสอบปากคำหญิงชาวเวียดนามที่ตรวจพบทั้งหมด ทราบว่าหญิงสาวเหล่านี้ได้ถูกนายเสียง ลุง โล และ น.ส.เฉิน ไป่ หวัน ชักชวนให้เดินทางจากประเทศเวียดนามมายังประเทศไทยเพื่อมาทำงานกับบริษัท แต่เมื่อมาถึงกลับไม่ได้ทำงานตามที่ตกลงกันไว้อีกทั้งได้ถูก น.ส.เฉิน ไป่ หวัน ยึดหนังสือเดินทางและยังเสนอให้ทำงานรับจ้างตั้งครรภ์ให้กับลูกค้าชาวต่างชาติที่ต้องการมีบุตรโดยได้รับค่าจ้างตอบแทนคนละ 5,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐอเมริกา หากไม่ทำก็ไม่ได้เงินและไม่ให้หนังสือเดินทางเพื่อเดินทางกลับบ้านที่ประเทศเวียดนาม

โดยการจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องมาจากหญิงสาวชาวเวียดนามจำนวน 4 รายที่บริษัทดังกล่าวล่อลวงมาได้แอบร้องขอความช่วยเหลือทางอินเทอร์เน็ตไปยังสถานทูตเวียดนามประจำประเทศไทย และได้ติดต่อประสานงานไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ให้เข้ามาช่วยเหลือดังกล่าว โดยหญิงสาวชาวเวียดนามที่ตรวจพบในครั้งนี้เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์จำนวน 7 คน ต่างให้การยืนยันว่าได้ถูกนำตัวไปทำการนำไข่ที่ผสมแล้วฝังในครรภ์ที่ รพ.เสรีรักษ์ ถ.เสรีไทย แขวงและเขตมีนบุรี กทม.

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน บก.สส.สตม.ได้ดำเนินคดีต่อเจ้าของบริษัท เบบี้ 101 จำกัด โดยมี นายเสียง ลุง โล ซึ่งเป็นกรรมการบริษัท จำนวน 4 ข้อหา คือ 1.ร่วมกันให้ที่พักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองนั้นพ้นจากการจับกุม และเป็นนายจ้างรับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ร่วมกันค้ามนุษย์ 3.ร่วมกันให้ที่พักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองนั้นพ้นจากการจับกุม และ 4.ร่วมกันรับคนต่างด้าวซึ่งไม่มีใบอนุญาตทำงาน เข้าทำงาน และทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต

จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรนายเสียง ลุง โล พบว่ายังเป็นผู้ต้องหาในข้คดีค้ามนุษย์ ที่ประเทศไต้หวัน โดยพฤติกรรมลักษณะคล้ายกับที่ถูกจับกุมดังกล่าว ซึ่งจ้างหญิงสาวชาวเวียดนามและกัมพูชามารับจ้างตั้งครรภ์ โดยจะให้ค่าจ้างรายละ 5,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.5 แสนบาท แต่ว่านายโลจะเก็บค่าดำเนินการจากผู้ที่ให้ตั้งครรภ์รายละ 1.5 ล้านบาท แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเลยหนีมาตั้งฐานและเปิดบริษัทใหม่ในประเทศไทยตั้งแต่เมื่อปลายปี 52 โดยใช้โรงพยาบาลเอกชนย่านมีนบุรีเป็นที่อุ้มบุญ เหตุที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทลายครั้งนี้นั้นเกิดเพราะหญิงสาวที่ถูกกักขัง 4 รายที่พบได้มีโอกาสติดต่อขอความช่วยเหลือไปยังสถานทูตเวียดนาม จึงมีการประสานงานจนสามารถเข้าจับกุมได้ดังกล่าว
ผู้ต้องหาชาวจีนและไต้หวันที่สามารถจับกุมได้
หญิงสาวชาวเวียดนามที่ถูกหลอกลวงให้มาอุ้มบุญ
กำลังโหลดความคิดเห็น