ปส.รวบแก๊งค้ายาเสพติดรายสำคัญ ที่ไต้หวันกำลังต้องการตัว ยึดของกลางเฮโรอีน 3 โล ยาไอซ์ 3 กรัม ซุกซ่อนอยู่ในกล่องพัสดุใช้พืชผักปิดบังอำพราง รับสารภาพรับยาจากพม่า เอามาปั่นเป็นผงก่อนส่งต่อไปไต้หวัน
วันนี้ (21 ม.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น. พล.ต.ท.อติเทพ ปัญจมานนท์ ผบช.ปส. พล.ต.ต.หาญพล นิตย์วิบูลย์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ชินภัทร สารสิน ผบก.ปส.3 แถลงการจับกุม นายลี เชียง ควง อายุ 48 ปี ชาวไต้หวัน และ นายเฉิน ชิว เฉียง อายุ 50 ปี ชาวไต้หวัน พร้อมด้วยของกลางเฮโรอีน จำนวน 3 กิโลกรัม ยาไอซ์ 3 กรัม เครื่องชั่งน้ำหนัก 1 เครื่อง เครื่องบดอาหาร 1 เครื่อง เงินสดเป็นธนบัตรไทย จำนวน 32,290 บาท เงินดอลลาร์ กว่า 2 แสนบาท เงินไต้หวัน 4 หมื่นบาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และโน้ตบุ๊กอีก 1 เครื่อง โดยจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่โรงแรมดิเอมเมอรัล ถนนรัชดา แขวงและเขตดินแดง กทม.
พล.ต.ท.อติเทพ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการประสานงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ บช.ปส.กรมศุลกากร และเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดไต้หวัน โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรจังหวัดเชียงราย ได้ทำการตรวจยึดเฮโรอีน จำนวน 3 กิโลกรัม ที่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ซึ่งซุกซ่อนอยู่ในกล่องพัสดุ มีพืชผักปกปิดอำพรางเอาไว้ จัดส่งโดยบริษัท สยามเฟริ์ส และระบุผู้รับเป็นชาวต่างชาติสัญชาติจีนไต้หวัน เอาไว้ที่กล่องพัสดุ เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึด พร้อมทั้งทำการสืบสวนขยายผลจนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาได้ว่าจ้างคนขับแท็กซี่ คือ นายลิฟูป้อ แซ่ลี อายุ 26 ปี ชาวจังหวัดเชียงราย ให้ขับรถแท็กซี่สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทศ 2792 กทม.ไปรับกล่องพัสดุดังกล่าวที่อาร์ซีเอ ถนนพระรามเก้า เจ้าหน้าที่จึงวางแผนโทรศัพท์ให้นายลิฟูป้อ ไปรับของโดยมียาเสพติดทั้งหมดได้ถูกยึดไปก่อนหน้านี้แล้ว
พล.ต.ท.อติเทพ กล่าวอีกว่า เมื่อ นายลิฟูป้อ เดินทางมารับกล่องพัสดุ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม โดย นายลิฟูป้อ ได้สารภาพว่า จะนำยาเสพติดไปส่งให้กับชาวไต้หวันที่โรงแรมดิเอมเมอรัล เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปตรวจค้นที่ห้องพักเลขที่ 507 เมื่อไปถึงก็พบผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย และยังตรวจพบยาไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง
เบื้องต้นสอบสวนทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหารับยามาจากทางพม่า โดยจะมีคนนำมาส่งให้ จากนั้นนายลิฟูป้อ ก็จะขับรถแท็กซี่ไปรับของมาส่งให้ที่ห้องพัก เพื่อนำมาปั่นให้เป็นผงก่อนจะบรรจุเป็นหีบห่อส่งต่อไปยังประเทศไต้หวัน สำหรับเฮโรอีนล็อตดังกล่าวมีมูลค่า 12 ล้านบาท แต่หากส่งออกไปยังต่างประเทศจะมีมูลค่าเพิ่มเป็น 10 เท่า นอกจานี้ ยังตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เคยถูกจับที่ไต้หวันจำคุก 6 ปี นอกจากนี้ ยังเป็นผู้ต้องหารายสำคัญที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดไต้หวันต้องการตัว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) หรือเมทแอมเฟตามีน ไว้ในความครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายแก่ผู้ต้องหาชาวไต้หวันทั้งสองราย ส่วน นายลิฟูป้อ อยู่ระหว่างการสอบสวนและขออนุมัติออกหมายจับ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป