ทีมกฎหมายมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับพ่อแม่ “แพรวา” ผู้ขับขี่รถเก๋งฮอนด้าสีขาว ที่ก่อให้เกิดโศกนาฏรรมรถตู้ตกทางด่วนโทลล์เวย์ 9 ศพ รวมทั้งเจ้าของรถใน 2 ข้อหา ขณะที่ญาติผู้เสียชีวิต อยากให้เป็นคดีตัวอย่าง
วันนี้ (21 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิต กก.2 บก.จร.(สน.วิภาวดี) รศ.ณรงค์ ใจหาญ ผอ.ศูนย์นิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ และประธานกรรมการคณะกรรมการกฎหมาย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมด้วย ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ ดร.ปกป้อง ศรีสนิท อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะทีมกฎหมายของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้พาญาติของผู้เสียชีวิตจำนวน 4 ราย ประกอบด้วย นางนฤมล ปิตาทานัง นายภิญโญ จินันทุยา นายปรัชญา คันธา และ น.ส.ตรอง สุดธนกิจ ที่ถูก น.ส.อรชร หรือ แพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา อายุ 17 ปี ขับรถเก๋งฮอนด้าซีวิค สีขาว ชนกับท้ายรถตู้โดยสารบนทางด่วนโทลล์เวย์ จนทำให้มีผู้โดยสารในรถกระเด็นออกมาเสียชีวิตทั้งหมด 9 ราย และบาดเจ็บอีกหลายราย เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.พิทักษ์ นิยมพฤกษ์ รอง ผกก.สน.วิภาวดี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ พ.อ.รัฐชัย เทพหัสดิน ณ อยุธยา นางลัดดาวัลย์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา บิดามารดาของ น.ส.อรชร ในความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 และเจ้าของรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีขาวหมายเลขทะเบียน ฎว 8461 กทม.ที่ให้ น.ส.อรชร ยืมไปใช้ในข้อหาเดียวกัน และข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
รศ.ณรงค์ เปิดเผยว่า ทีมงานกฎหมายของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับพ่อแม่ของผู้กระทำความผิดจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตหลายรายเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ปีที่แล้ว ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ตามมาตรา 26(3) หากพ่อแม่นั้น ยินยอมให้เด็กกระทำการโดยไม่สมควร หรือกระทำการที่น่าจะเสี่ยงให้เกิดการประพฤติผิดขึ้นมา พ่อแม่เด็กจะต้องรับผิดชอบและมีความผิดตาม พ.ร.บ.ฉบับนี้ด้วย นอกจากนี้ จะแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของรถคันที่ผู้ก่อเหตุยืมไปใช้อีก 2 ข้อหา โดยข้อหาแรก คือ ข้อหาเดียวกับพ่อแม่ เพราะหากเจ้าของรถทราบอยู่แล้วว่าผู้ที่มายืมยังเป็นผู้เยาว์ ไม่มีใบขับขี่ ก็จะต้องร่วมรับผิดด้วย ส่วนอีกข้อหาคือ กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 และมาตรา 300 เนื่องจากทีมกฎหมายมองว่า มีความประมาทในการปล่อยผู้ก่อเหตุให้ยืมไปใช้
ด้าน ผศ.ดร.ปริญญา กล่าวว่า ซึ่งในส่วนนี้ทางทีมกฎหมายของมหาวิทยาลัยธรรมศาตร์ กับครอบครัวของผู้เสียหายทั้งผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ คิดว่า ความสูญเสียในครั้งนี้ ควรจะเป็นบทเรียนให้กับสังคมไทย จากนี้ไปพ่อแม่จะต้องรับผิดชอบต่อการปล่อยให้ลูกหลานออกมาทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ต่อจากนี้ จะต้องไม่มีผู้เยาว์ที่ขับรถโดยไม่มีใบขับขี่แล้วอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่น เพื่อเป็นบรรทัดฐานให้สังคมไทยมีความปลอดภัยในการเดินทางบนท้องถนนมากขึ้น ผู้ที่ยังไม่มีใบขับขี่ ยังไม่ผ่านการทดสอบว่ามีความสามารถในการขับขี่ไม่ควรจะมาขับรถบนท้องถนนอีกต่อไป
“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ที่ผ่านมาคดีของเด็กแว้นที่ถูกจับกุมไปนั้น ก็มีการดำเนินคดีกับพ่อแม่ของเด็กเหล่านั้นตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ด้วย เพราะผู้เยาว์รับโทษน้อยกว่าผู้ใหญ่ ขอถามว่า หากผู้เยาว์รับโทษน้อยกว่าผู้ใหญ่แล้วใครจะต้องรับผิดชอบ ก็ต้องตอบว่าเป็นพ่อแม่ ผู้ปกครอง ที่จะต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อการกระทำด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ยังรับผิดชอบตัวเองไม่ได้มาสร้างปัญหาให้กับสังคม เราจึงหวังว่านี่จะเป็นบรรทัดฐานใหม่ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินคดีในวันนี้” ผศ.ดร.ปริญญา กล่าว
ต่อข้อถามที่ว่า ฝ่ายผู้ก่อเหตุได้แสดงความรับผิดชอบกับฝ่ายผู้เสียหายอย่างไรบ้างนั้น ผศ.ดร.ปริญญา กล่าวว่า มีทนายความของฝ่ายผู้ก่อเหตุประสานงานมาที่ครอบครัวของผู้เสียหายเพียงบางครอบครัวเท่านั้นยังไม่ครบทุกครอบครัว เท่าที่ทราบก็ติดต่อเรื่องการตกลงว่าจะจ่ายค่าเสียหายกับค่ารักษาพยาบาลกับผู้บาดเจ็บ คือ นายวรัญญู เกตุชู กับ น.ส.กัญจนภัส ปัญญาประเสริฐ แต่กับบางครอบครัวอย่างครอบครัวของ นายปรัชญา คันธา หนึ่งในผู้เสียชีวิตนั้น ฝ่ายผู้ก่อเหตุก็ยังไม่มีการติดต่อมาแต่อย่างใด
ขณะที่ นายชัยพัฒน์ จันทร์สริยารัตน์ ลุงของ นายปรัชญา คันธา หนึ่งในผู้เสียชีวิต กล่าวว่า มาให้กำลังใจกับทีมงานฝ่ายกฎหมายของม.ธรรมศาสตร์ ที่ช่วยดำเนินเรื่องทุกอย่างให้ญาติผู้เสียหาย เพราะตนอยากให้คดีนี้เป็นคดีตัวอย่าง
ด้าน พ.ต.ท.ฉัตรชัย เอี่ยมอ่อง พนักงานสอบสวน (สบ2) สน.วิภาวดี หนึ่งในคณะพนักงานสอบสวนคดีนี้ กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานแล้ว จากนั้นก็จะส่งเรื่องให้ทาง บช.น.พิจารณาสั่งการลงมาเพื่อสอบสวนต่อไป เนื่องจากทาง สน.วิภาวดี ไม่มีอำนาจสอบสวนคดีนี้