ดีเอสไอ สงสัยน้ำมันปาล์มนำเข้า3 หมื่นตันล่องหนจากตลาด อาจมีการแอบกักตุนสต๊อกหรือนำไปผลิตเป็นไบโอดีเซล เตรียมร่วมกับกรมการค้าภายในออกตรวจโรงงานผลิต ทั้ง 10 แห่ง
วันนี้ (18 ก.พ.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงแนวทางการสอบสวนราคาน้ำมันปาล์มมีราคาแพงว่า ดีเอสไอได้ตั้งประเด็นการสอบสวนไว้คือมีการกักตุนน้ำมันปาล์มจริงหรือไม่ และมีการปั่นราคาน้ำมันปาล์มจริงหรือไม่ หากผลการสอบสวนพบว่าจริงบุคคลที่เกี่ยวข้องก็จะมีความผิดต้องถูกดำเนินคดี สำหรับการสอบสวนคดีนี้ยืนยันว่าดีเอสไอจะทำอย่างตรงไปตรงมาไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองระหว่างพรรค ช่วงเช้าวันนี้ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีน้ำมันปาล์ม ร่วมประชุมกับกรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์ เพื่อดูข้อมูลต่างๆ โควต้าการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ จำนวนการผลิตนำมันปาล์มของโรงงานที่ได้โควต้า 10 แห่ง เพื่อใช้เป็นแนวทางในการตรวจสอบ จากนั้นในช่วงบ่ายพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ประชุมวางแนวทางในการเข้าตรวจสอบสต๊อกน้ำมันปาล์มของโรงงาน รวมทั้งจะตรวจสอบระบบบัญชี การผลิตจริง คาดว่าจะเข้าตรวจสอบได้ในวันเสาร์ เพื่อนำข้อมูลพิสูจน์เหตุสงสัยหรือสมมุติฐานว่า สินค้าหายไปจากตลาดเพราะอะไรทั้งที่รัฐบาลได้อนุญาตให้นำเข้าน้ำมันปาล์มดิบจากต่างประเทศจำนวน 3 หมื่นตัน แต่การผลิตน้ำมันปาล์มขวดยังขาดตลาด
อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวอีกว่า ผลการตรวจสอบเบื้องต้นของดีเอสไอน่าเชื่อว่าอาจมีการลักลอบนำน้ำมันปาล์มที่ได้รับโควต้าให้นำเข้ามา 3 หมื่นตัน ไปผลิตน้ำมันไบโอดีเซล หรืออาจมีการกักตุนน้ำมันปาล์มที่ได้รับโควต้า เพื่อให้ดีมานมากกว่าซัพพลาย เพราะกระทรวงพาณิชย์ เคยให้เหตุตอนขออนุมัติรัฐบาลนำเข้าน้ำมันปาล์มว่า ได้วิเคราะห์แล้วว่าปริมาณน้ำมันปาล์มที่ขออนุมัตินำเข้า 1.5 แสนตัน จะเพียงพอต่อการใช้ในประเทศ แต่เมื่อรัฐบาลได้อนุมัติให้นำเข้าน้ำมันปาล์ม ก็ยังมีปัญหาขาดตลาดอีก ดีเอสไอจึงตั้งสมมุติฐานว่าน้ำมันปาล์มที่ได้รับอนุมัติให้นำเข้าหายไปจากตลาด จึงต้องออกตรวจสอบโรงงานที่ได้รับโควต้าให้ผลิตน้ำมันปาล์มบรรจุขวดฝาสีฟ้าทั้ง 10 แห่ง ว่าได้ผลิตตามที่ได้รับโควต้าหรือไม่ โดยจะตรวจสอบสต๊อก เอกสารทั้งหมดว่า ได้โควต้าจำนวนเท่าไหร่ ผลิตบรรจุขวดส่งขายให้ยี่ปั่วเท่าไหร่ ยอดเข้ากับยอดออกตรงกันหรือไม่ และจะตรวจสอบเอกสารทางการเงินด้วยว่าตรงกับเอกสารการผลิตและเอกสารการขายที่โรงงาน นำมาแสดงหรือไม่ เพื่อป้องกันปัญหาการทำเอกสารเท็จ โดยดีเอสไอจะสนธิกำลังร่วมกับกรมการค้าภายใน ออกตรวจสอบโรงานทั้ง 10 แห่ง
โดยวันที่ 19 ก.พ. ดีเอสไอจะร่วมกับกรมการค้าภายใน เข้าตรวจสอบ 2 โรงงานใหญ่ คือ โรงงานน้ำมันพืชมรกต และโรงงานน้ำมันพืชราชา ซึ่งอยู่ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ หลังจากนั้นจะทยอยตรวจสอบในโรงงานอื่นๆ ต่อไป