xs
xsm
sm
md
lg

จับแก๊งตำรวจเก๊! อุ้มเหยื่อพวกค้ายารีดเงิน!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

รวบแก๊งเรียกค่าไถ่ พร้อมของกลางอาวุธสงครามจำนวนมาก ขณะที่ “อัศวิน” เผย แก๊งนี้จะปลอมเป็นตำรวจทำทีขอตรวจค้นบ้านเรือนประชาชนแล้วยัดยาจับตัวไปเรียกค่าไถ่ ประวัติเคยเป็นเอเยนต์ค้ายา ติดคุก-แหกห้องขังในคดียานรกมาอย่างโชกโชน ด้านเจ้าตัวสารภาพจะไม่ทำร้ายเหยื่อ เมื่อได้เงินค่าไถ่แล้วจะปล่อยตัวไป เชื่อ เหยื่อไม่แจ้งความ เพราะมีชะงักติดหลังพัวพันยาเสพติดเช่นกัน

วันนี้ (17 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.00 น.พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา (สบ10) รรท.ผบช.ภ. 1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัชต์ รอง ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ต.ทวิชชาติ พละศักดิ์ ผกก.สส.ภ.1 แถลงการจับกุม นายวิเชียร หรือ ตี๋ หรือ ขาว สวัสดี อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/2 หมู่ 1 ต.กุฏี อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และ น.ส.เปรมฤดี วงศ์อภิรักษ์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 358 หมู่ 10 ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ซึ่งทั้ง 2 ราย เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 149/2554 และ 150/2554 ในข้อหาร่วมกันเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีขึ้นไป โดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ หรือใช้กำลังประทุษร้าย หรือข่มขืนใจด้วยประการใดและหน่วงเหนี่ยวกักขังบุคคลใด โดยจับกุมได้พร้อมของกลางจำนวนมาก ประกอบด้วย 1.อาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก 2.อาวุธปืนอาก้า 2 กระบอก 3.เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 จำนวน 1 กระบอก 4.ลูกระเบิดเอ็ม 79 จำนวน 9 ลูก 5.อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 11 มม.จำนวน 1 กระบอก 6.แม็กกาซีนเอ็ม 16 จำนวน 4 อัน 7.แม็กกาซีนอาก้า 6 อัน 8.อาวุธปืนพกสั้นยี่ห้อกล็อก ขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 24 นัด 9.เครื่องกระสุนปืนขนาดต่างๆ จำนวนกว่า 500 นัด 10.สร้อยคอทองคำ จำนวน 1 เส้น 11.เงินสด 4,080 บาท 12.แหวนทองคำฝังเพชร หัวพลอยแดง 1 วง 13.รถเก๋งโตโยต้า วีออส หมายเลขทะเบียน ชฉ 9324 กรุงเทพฯ จำนวน 1 คัน และ 14.เครื่องแต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจและบัตรประจำตัวปลอมอีกจำนวนมาก โดยจับกุม นายวิเชียร ได้ที่ร้านอาหารไม่มีชื่อ เลขที่ 53/7 ซอยลาดพร้าว 136 ถนนลาดพร้าว แขวงและเขตวังทองหลาง กทม.และจับกุมตัวน.ส.เปรมฤดี ได้บริเวณถนนลาดพร้าว กทม.

พล.ต.อ.อัศวิน เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายจำนวน 5 คน ลักพาตัว นายสมชาย แสงมณี ไปจากบริเวณห้างเซียร์ รังสิต และเรียกค่าไถ่จากภรรยาของนายสมชาย เป็นจำนวนเงิน 1 ล้านบาท กระทั่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้สืบทราบว่าผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ คือ นายวิเชียร ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และลูกน้องอีก 4 คน คือ นายสุนทร ลาภโสภา นายธวัชชัย ช้างต่อ นายสายพิณ ลิ่นกลาง และ น.ส.เปรมฤดี ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นายสุนทร นายธวัชชัย และ นายสายพิณ เอาไว้ได้ ส่วน นายวิเชียรและ น.ส.เปรมฤดี อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไปได้ และมีการนำรถยนต์ไปเปลี่ยนยางเพื่ออำพรางและหลบหนีการจับกุม แต่ชุดจับกุมก็สามารถตามไปจับกุมตัวนายวิเชียร และ น.ส.เปรมฤดี ได้ขณะกำลังนั่งกินข้าวอยู่ใกล้กับร้านเปลี่ยนยาง

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวอีกว่า พฤติการณ์ของแก๊งดังกล่าว จะปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าไปขอตรวจค้นบ้านเรือนประชาชนก่อนจะทำการยัดยาเสพติด และจับกุมตัวคนไปเรียกค่าไถ่ โดยจะมีการติดตามสืบประวัติของเหยื่อ หากพบว่าน่าจะพัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติด ก็จะเข้าไปจับกุมตัวมาเรียกค่าไถ่ ก่อนหน้านี้ นายวิเชียร เคยเป็นเอเยนต์จำหน่ายยาเสพติดมานานมีหมายจับถึง 3 หมาย และเคยถูกจับกุมที่ สภ.ป่าโมก เมื่อปี 2542 ก่อนจะพ้นโทษออกมาและถูกจับกุมอีกครั้งในปี 2545 ที่ สภ.บางปะหัน แต่ใช้ใบเลื่อยแหกห้องขังหลบหนีไป จากนั้นก็ถูกจับกุมที่ สภ.เมืองนนทบุรี แต่วางแผนให้เพื่อนร่วมแก๊งบุกเข้ามาชิงตัวออกไปจากเรือนจำจังหวัดนนทบุรีได้ จากนั้นนายวิเชียรกับน้องชายและพวกหันมาเรียกค่าไถ่แก๊งค้ายาเสพติดด้วยกันเอง แต่มีผู้เสียหายบางรายที่ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด

“สำหรับเหยื่อที่ถูกจับกุมตัวไปเรียกค่าไถ่มีประมาณ 5 ราย แต่ละรายได้เงินสดไป 4 แสน - 1 ล้านบาท ขณะนี้ยังมีผู้ต้องหาอีก 1 ราย ที่ยังหลบหนี คือ นายพิเชษฐ หรือ ดำ สวัสดี น้องชายของ นายวิเชียร ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี นอกจากนี้ ยังตรวจสอบพบว่านายวิเชียร ได้ร่วมกับพวกใช้อาวุธปืนอาก้า และเอ็ม 16 ยิงใส่ นายสมชาย และ นายปรีชา ถึง 2 ครั้ง จนกระทั่งเสียชีวิต ซึ่งครั้งที่ 2 ที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 53 ที่ผ่านมา หลังจากนี้จะต้องนำอาวุธปืนทั้งหมดไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.คูคต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว

จากการสอบสวน นายวิเชียร ให้การรับสารภาพว่า เดิมทีตนเคยเป็นเอเยนต์ค้ายาเสพติดและอยู่ในวงการมานาน แต่หลังจากที่ถูกจับกุมคดียาเสพติดหลายครั้งก็ไม่รู้จะไปทำอาชีพอะไร และรู้ว่าถ้าขายยาเสพติดเหมือนเดิมคงไม่รอด จึงหันมาจับกุมตัวคนไปเรียกค่าไถ่ แต่คนที่จับกุมไปนั้นจะทำการสืบและติดตามดูพฤติกรรมก่อน หากพบว่าค้ายาเสพติด ตนก็จะปลอมตัวเป็นตำรวจและจับกุมตัวไปเรียกค่าไถ่ แต่ตนไม่เคยทำร้าย หรือฆ่าเหยื่อจนถึงแก่ชีวิต เมื่อได้เงินมาก็ปล่อยตัว เพราะตนคิดว่าเหยื่อคงไม่กล้าไปแจ้งความ เนื่องจากพัวพันกับยาเสพติดเช่นกัน ส่วนอาวุธปืนและลูกระเบิดเอ็ม 79 ซื้อมาจากกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดด้วยกัน เพราะเป็นคนชอบสะสมปืน แต่ไม่เคยใช้ไปก่อเหตุ ซึ่งเคยมีเพียงเอาเอ็ม 79 ไปทดลองยิงในทุ่งนาที่บางปะหัน ส่วนเงินที่ได้มาจากการเรียกค่าไถ่ก็นำมาแบ่งกัน โดยจะนำไปใช้หนี้ เล่นการพนัน และส่งให้ครอบครัวบ้าง

“ผมขอยืนยันว่า แต่ละคนที่จับไปล้วนแล้วแต่เป็นพวกค้ายาทั้งสิ้น ไม่เชื่อไปตรวจสอบดูได้ อย่างรายล่าสุดที่จับไป แม่ขายลูกชิ้นอยู่ตลาดยิ่งเจริญ งานไม่ทำ แต่มีเงินแต่งรถและเที่ยวเตร่ ถ้าเป็นคนรวยธรรมดาผมจะไม่จับ ส่วนน้องชายของผมเพิ่งจะมาร่วมก่อเหตุด้วยและเป็นคนที่ไปช่วยผมหลบหนีออกจากเรือนจำ ซึ่งหลังจากนี้ผมจะให้แม่พูดคุยกับน้องให้เข้ามอบตัวสู้คดีต่อไป สำหรับคดียิง นายสมชาย และ นายปรีชา ที่ อ.ผักไห่ ผมขอปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็นคนบ้านเดียวกัน ไม่มีทางที่จะทำกันได้” นายวิเชียร กล่าว
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รรท.ผบช.ภ. 1 แถลงจับกุมนายวิเชียร หรือตี๋ หรือขาว สวัสดี  และน.ส.เปรมฤดี วงศ์อภิรักษ์ ผู้ต้องหาแก๊งเรียกค่าไถ่ เน้นเหยื่อเป็นพวกพัวพันยาเสพติด จะได้ไม่กล้าแจ้งความ เมื่อได้เงินครบแล้วถูกปล่อยตัว


กำลังโหลดความคิดเห็น