ตร.ใช้กำลังกว่า 4 พันนาย ดูแลความเรียบร้อยตลอดเส้นทางเคลื่อนขบวนของกลุ่ม นปช.จัดกำลัง รปภ.เข้มศาลอาญา คล้องโซ่เหล็กปิดประตูทุกด้าน ขณะที่เสื้อแดงฝ่าสายฝนทยอยรวมตัวหน้าศาล รอแกนนำอ่าน จม.เปิดผนึกบ่ายนี้
วันนี้ (13 ก.พ.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล 2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรมสรรพาวุธ และชุดปราบจลาจลกว่าพันนาย เดินทางมาเฝ้ารักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยภายในบริเวณศาล เพื่อเตรียมรับการเดินทางมาของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.ตั้งแต่เช้าตรู่
เวลา 09.00 น.ศาลอาญา กำหนดปิดประตูทางเข้าใหญ่ด้านหน้าอาคาร หลังจากข้าราชการตุลาการศาลอาญา และเจ้าหน้าที่ศาลยุติธรรม จำนวน 13 คน และผู้สื่อข่าวที่ลงทะเบียนไว้ซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้ามาในบริเวณศาล ได้เดินทางเข้ามาแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลอาญา ได้นำแผงเหล็กกั้นมา ตั้งเป็นแนวยาวตลอดปิดหน้าทางเข้าศาล และใช้โซ่เส้นใหญ่คล้องประตูอย่าหนาแน่นเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในบริเวณศาล จนกว่า แกนนำ นปช. และกลุ่มผู้สนับสนุน จะเดินทางกลับจากศาลอาญา ภายหลังที่อ่านจดหมายเปิดผนึกซึ่งแกนนำ นปช.เขียนจดหมายปรับทุกข์ เกี่ยวกับการดำเนินคดีและการประกันตัว ถึงผู้พิพากษาในเวลา 13.00 น.
ขณะที่กลุ่มประชาชนสนับสนุนคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งได้เดินทางมารวมตัวกันตั้งแต่เช้าและเดินทางกันมาเรื่อยๆ ที่บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.ข้างอาคารศาลอาญา และป้ายรถเมล์หน้าอาคารศาลอาญา ท่ามกลางสายฝนที่ตกมาตั้งแต่เวลา 07.00 น.จนเวลาประมาณ 10.00 น.กลุ่มคนเสื้อแดงเริ่มทยอยเดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณหน้าศาลอาญาเพิ่มมากขึ้น โดยบางส่วนขี่รถจักรยานยนต์พร้อมโบกธงสัญลักษณ์สีแดง เปิดเพลงเสียงดังสร้างความคึกคัก ขณะที่มีกลุ่มเสื้อแดงบางส่วนที่มาถึงหน้าศาลอาญา พยายามยืนเกาะรั้วประตู ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบจลาจล ยืนประจำการอย่างหนาแน่นตลอดแนวริมรั้วประตู เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร คอยดูแลความสงบเรียบร้อยด้านหน้าศาลอาญา
ส่วนการจราจร ถ.รัชดาภิเษก ด้านหน้าศาลอาญา เริ่มหนาแน่นแต่ยังคงเคลื่อนตัวไปได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ได้มีการปิดช่องจราจรแต่อย่างใด ขณะที่บริเวณแยก ถ.ลาดพร้าว ตัด ถ.รัชดาภิเษก เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ได้จัดให้รถวิ่งเพียงช่องการจราจรเดียว จากเดิมที่สามารถวิ่งได้ 2 ช่องการจราจร สำหรับภายในอาคารศาลอาญา บริเวณทางขึ้นอาคารจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอมมานโด กองปราบปราม ยืนเฝ้าประจำการอยู่ตลอดแนวพร้อมด้วยโล่พลาสติกอีกชั้นหนึ่งด้วย
โดย พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ได้เจรจากับกลุ่มแนวร่วม นปช.ผ่านทางรั้วศาลอาญา เพื่อทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุม ว่า อย่าพยายามยั่วยุ หรืออย่าพูดจาทำนองพาดพิงสถาบัน และห้ามบุกรุกมาในบริเวณศาลอาญา พร้อมกันนี้ ได้ฝากถึงผู้ชุมนุมว่าให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาอย่าให้บุคคลใดพกพาอาวุธ หรือสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในที่ชุมนุม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งในและนอกเครื่องแบบ จะดูแลความสงบโดยรอบ
ด้าน นายมานิตย์ สุขอนันต์ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา พร้อมด้วย นายเกริกฤทธิ์ อิฐรัตน์ เลขานุการศาลอาญา ซึ่งอยู่ปฏิบัติราชการตามคำสั่ง นายบูรณ์ ฐาปนดุลย์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ได้เดินทางมาศาลตั้งแต่ช่วงเช้าก่อนเวลา 08.00 น.ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาเฝ้ารักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณศาล โดยมีเจ้าหน้าที่ของศาลอาญา สำนักงานศาลยุติธรรม รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ เฝ้าติดตามบันทึกภาพวิดีโอตลอดสถานการณ์ด้วย
ส่วน นายสิทธิศักดิ์ วนะชกิจ โฆษกสำนักงานศาลยุติธรรม เดินทางมาศาลเพื่อติดตามสถานการณ์ด้วยเช่นกัน ซึ่ง นายสิทธิศักดิ์ โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวเพียงว่า ในฐานะเจ้าบ้าน เราต้องเดินทางมาดูแลความเรียบร้อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งคิดว่าไม่มีอะไร หลังจากนี้ก็จะเป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานต่อไป
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 11.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย ผบก.อก.บช.น.และโฆษก บช.น.แถลงความพร้อมการดูแลกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะการเคลื่อนขบวนจากศาลอาญารัชดามายังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น.ได้จัดวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บริเวณศาลอาญา และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไว้แล้ว ทาง บช.น.ได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า (ศปก.น.) 3 จุดหลัก คือ 1.ทำเนียบรัฐบาล ใช้กำลัง 11 กองร้อย มี พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว รอง ผบช.น.และ พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง ผบก.อคฝ.เป็นผู้รับผิดชอบ 2.ศาลอาญา ใช้กำลัง 5 กองร้อย มี พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบก.น.2 เป็นผู้รับผิดชอบ และ 3.อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ใช้กำลัง 6 กองร้อย มี พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบก.น.6 เป็นผู้รับผิดชอบ
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ยังมีศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าที่รัฐสภาโดยใช้กำลัง 2 กองร้อย และพื้นที่โดยรอบ ใช้กำลัง 3 กองร้อย มี พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เป็นผู้รับผิดชอบ รวมทั้งหมด 27 กองร้อย หรือ 4,050 นาย และกำลังสนับสนุนภายใน 1 ชั่วโมงครึ่งอีก 9 กองร้อย หรือ 1,350 นาย ส่วนด้านจราจรมีพล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผบช.น.และพล.ต.ต.อุทัยวรรณ แก้วสอาด ผบก.บก.จร.เป็นผู้รับผิดชอบ สำหรับกลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่บริเวณศาลอาญาเหตุการณ์ยังปกติ การวางกำลังเรียบร้อยดี มีผู้ชุมนุมประมาณ 300 คน สามารถใช้การจราจรได้ตามปกติ
“สำหรับเส้นทางที่ผู้ชุมนุมจะเคลื่อนขบวนมายังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย คาดว่า ออกจากศาลอาญามุ่งหน้าแยกรัชโยธิน เลี้ยวซ้ายใช้เส้นพหลโยธิน ผ่านแยกลาดพร้าว มุ่งหน้าแยกสะพานควาย ตรงไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มาแยกราชเทวี เลี้ยวขวาเข้าเพชรบุรี มาหลานหลวง และเข้าสู่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย” ผบก.อก.บช.น.กล่าว
โฆษก บช.น.กล่าวอีกว่า ระหว่างเส้นทางเคลื่อนขบวนของกลุ่ม นปช.ได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร 150 นาย ดูแลการจราจรตลอดเส้นทาง นอกจากนี้ยังจัดชุดจู่โจมเคลื่อนที่เร็ว 6 ชุด คือ 3 ชุดแรก ค่อยสังเกตการณ์ดูแลความเรียบร้อยตามแยกต่างๆที่ผู้ชุมนุมเดินผ่านป้องกันการกระทบกระทั่ง และอีก 3 ชุด ปฏิบัติหน้าที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จากการข่าวขณะนี้เหตุการณ์ยังปกติ ไม่มีสิ่งใดน่าเป็นห่วง แต่ ผบช.น.ได้สั่งการเพิ่มเติมป้องกันการกระทบกระทั่งบริเวณเชิงสะพานมัฆวาน เพราะอาจมีกลุ่มผู้ไม่เห็นด้วยก่อเหตุได้ มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิชัย เป็นผู้แลความเรียบร้อย
ส่วนพื้นที่ประกาศ พ.ร.บ.มั่นคง ใน 7 จุด เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจสกัด 23 จุด ใช้กำลังของภูธร 1,2,7 และพื้นที่กลุ่มผู้ชุมนุมเดินขบวนผ่านเพื่อดูแลความปลอดภัยทั้งหมด ทั้งนี้ยังมีเจ้าหน้าที่เทศกิจร่วมตรวจกับตำรวจ ซึ่งในเวลา 14.00 น.บช.น.จะเข้ารายงานที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อรายงานการปฏิบัติของ บช.น.ทั้งหมด