ตร.เตรียมออกข้อกำหนดพื้นที่ใดห้ามผู้ชุมนุมบุกรุก คาดประกาศบังคับใช้ในวันนี้ ส่ง “จักรทิพย์-วิชัย” เจรจาขอคืนพื้นที่บางส่วนเปิดการจราจร หากผู้ชุมนุมยอมคงไม่จำเป็นต้องบังคับใช้ พ.ร.บ.มั่นคง และไม่ถึงขั้นต้องสลาย หรือใช้กำลังผลักดัน ชี้ให้เวลา 15 วัน กับการเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมออกนอกพื้นที่รอบทำเนียบ แต่ถ้าการเจรจาไม่เป็นผลภายใน 1-2 วัน จะบังคับใช้ กม.มั่นคงเข้มงวดขึ้น
วันนี้ (9 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าหลังจากมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ในพื้นที่ 7 เขต ของ กทม. ว่า ในวันนี้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศอ.รส.จะเป็นประธานการประชุม เพื่อออกข้อกำหนดในการกำหนดพื้นที่ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ โดยรายละเอียดในข้อกำหนดที่จะออกดังกล่าวจะระบุว่า พื้นที่ใดห้ามบุคคล ผู้ชุมนุมหรือรถยนต์เข้าหรือบุกรุกเข้าไป ซึ่งข้อกำหนดในส่วนนี้ คาดว่าจะสามารถประกาศออกมาบังคับใช้ได้ภายในวันนี้
พล.ต.ต.ประวุฒิกล่าวอีกว่า สำหรับรายละเอียดของการเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมออกนอกพื้นที่ นั้น เบื้องต้นจะใช้การเจรจา โดยทาง พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. และพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 จะเริ่มดำเนินการเพื่อขอคืนพื้นที่ในบางส่วนในวันนี้ ซึ่งคงต้องรอฟังผลการเจรจาอีกครั้ง แต่ถ้าการเจรจาไม่เป็นผลคงต้องประกาศพื้นที่ที่เห็นสมควรว่าจะสามารถเปิดพื้นที่ได้ เพราะในตอนนี้ผู้ชุมนุมมีจำนวนน้อย แต่กลับใช้พื้นที่ในการชุมนุมมากเกินไป ดังนั้นเราจึงต้องการพื้นที่บางส่วนที่ผู้ชุมนุมไม่ได้ใช้ประโยชน์ในการชุมนุมเพื่อเปิดการจราจร
พล.ต.ต.ประวุฒิกล่าวต่อไปว่า ถ้าการเจรจาเป็นผลและผู้ชุมนุมยอมเปิดพื้นที่ให้ ซึ่งมาตรการในการประกาศข้อกำหนดพื้นที่ห้ามการชุมนุมในส่วนที่ผู้ชุมนุมยอมเปิดพื้นที่ให้ ก็คงไม่มีความจำเป็นต้องประกาศออกมาใช้ อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าตอนนี้คงยังไม่ถึงขั้นต้องสลายการชุมนุม โดยเรามีเป้าหมายและต้องการให้เกิดความสงบ แต่วิธีการดำเนินการในเรื่องนี้คงต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และการตกลงร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับผู้ชุมนุม
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการเจรจาให้ยกเลิกการชุมนุมไปเลยหรือไม่ พล.ต.ต.ประวุฒิกล่าวว่า เราก็อยากให้ผลการเจรจาออกมาเป็นเช่นนั้น ซึ่งเมื่อถามต่อไปว่า หากผู้ชุมนุมไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ จะมีการใช้กำลังผลักดันให้ออกนอกพื้นที่หรือไม่ พล.ต.ต.ประวุฒิกล่าวว่า คงไม่ต้องถึงขั้นใช้กำลังผลักดัน แต่เราจะใช้วิธีที่นุ่มนวลที่สุด โดยจะคำนึงในเรื่องที่ว่าต้องให้การจราจรกับมาเคลื่อนตัวได้อีกครั้ง
ส่วนเหตุใดจึงไม่มีการใช้วิธีปฏิบัติการเหมือนกับการสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง พล.ต.ต.ประวุฒิกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และที่สำคัญการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯมีจำนวนผู้ชุนนุมจำนวนไม่มาก สถานการณ์จึงไม่น่าจะเป็นแบบกลุ่มคนเสื้อแดง
สำหรับวันที่ 10 ก.พ.นี้ แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะไปร้องศาลปกครอง เพื่อให้มีคำสั่งระงับการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ นั้น พล.ต.ต.ประวุฒิกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องดูว่าผู้ชุมนุมใช้เหตุผลอะไรในการยื่นคำร้องต่อศาล เพราะตามที่เราเสนอ เพื่อขอให้มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ก็ถือว่ามีเหตุผลและมีความจำเป็นตามเงื่อนของกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะให้ระยะเวลาผู้ชุมนุมเท่าไหร่ในการให้เคลื่อนย้ายการชุมนุมนอกจากพื้นที่รอบทำเนียบฯ พล.ต.ต.ประวุฒิกล่าวว่า คงน่าจะอยู่ในช่วงระยะเวลา 15 วัน ที่มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ซึ่งตนเชื่อว่าในช่วงเวลานี้สถานการณ์น่าจะดีขึ้น และอาจจะใช้เวลาน้อยกว่า 15 วันก็เป็นได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง พล.ต.ต.ประวุฒิกล่าวว่า ขณะนี้ผู้ชุมนุมถือว่ายังชุมนุมโดยสงบ และตอนนี้ก็ยังไม่มีเงื่อนไขที่จะสร้างความรุนแรง ดังนั้นจึงต้องใช้การเจรจาก่อน แต่ถ้าการเจรจาภายใน 1-2 วันไม่เป็นผล ก็คงจะมีการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มข้นมากขึ้น