รวบ “แก๊งแจ๋วกำมะลอ” เชิดเงินค่าจ้าง

ผู้เสียหายประสานตำรวจดัดหลังจับกุมแก๊งฉ้อโกงลวงเหยื่อที่หาแม่บ้านผ่านทางเว็บไซต์ ทำทีไปเริ่มงานก่อนขอเบิกค่าจ้างล่วงหน้าแล้วพากันหนี สารภาพทำมาแล้วหลายครั้ง ใครเคยตกเป็นเหยื่อขอดูตัวได้ที่ สน.วัดพระยาไกร

วันนี้ (29 ม.ค.) เมื่อเวลา 16.30 น. พ.ต.ท.ดิลก รื่นเนตร สว.สส.สน.วัดพระยาไกร ร.ต.อ.ขวัญชัย แป้นมณฑา รอง สว.สส.สน.วัดพระยาไกร นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.วัดพระยาไกร เข้าจับกุมตัว นายทวีศักดิ์ หรือต่อ ทองมี อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 171/3 หมู่ 10 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. และนางแก้วตา หรือแก้ว สุรินทราบูรณ์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102 หมู่ 3 ต.สวาย อ.เมือง จ.สุรินทร์ สองผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกงหลอกลวงส่งพนักงานไปทำงานบ้าน โดยจับกุมได้ที่บริเวณปากซอยเจริญกรุง 85 แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม.พร้อมของกลางเงินสด จำนวน 7,000 บาท พร้อมทั้งเชิญตัว น.ส.บุญชู ทองประเสริฐ อายุ 42 ปี เจ้าของธุรกิจทำจิวเวลรีย่านบางขุนเทียน ซึ่งเป็นผู้เสียหายเดินทางมาชี้ตัวยืนยัน

น.ส.บุญชูเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้เข้าไปหาแม่บ้านทางอินเทอร์เน็ต เพื่อมาทำงานที่บ้านพัก จนกระทั่งได้รู้จักกับนายทวีศักดิ์ ซึ่งอ้างตัวเป็นผู้บริหารบริษัทจัดหาพนักงานผ่านทางเว็บไซต์ http://happynursinghome.igetweb.com/index.php จนทั่งคู่ติดต่อนัดหมายให้นำพนักงานไปส่งให้ที่บ้านของตนเมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยวันดังกล่าว นายทวีศักดิ์พานางแก้วตา นั่งรถแท็กซี่ไปมาที่บ้าน ก่อนจะเรียกเก็บค่าจ้างล่วงหน้า 1 เดือน เป็นเงินจำนวน 6,000 บาท บวกค่าเดินทางอีก 500 บาท รวมเป็น 6,500 บาท พอตนให้เงินไป นายทวีศักดิ์ก็รีบเดินทางกลับไปปล่อยให้นางแก้วตาทำทีศึกษาหน้างานที่ต้องทำในแต่ละวัน แล้วจึงเก็บข้าวของไปเก็บห้องพักที่ตนจัดเอาไว้ให้

น.ส.บุญชูกล่าวต่อว่า หลังจากนั้นอีกเพียงแค่ 30 นาที นางแก้วตาก็จะทำทีขออนุญาตออกจากบ้านไปซื้อข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว ก่อนจะหลบหนีไปทันที ตนพยายามโทรศัพท์ติดตามหาตัวก็ไม่สามารถติดต่อได้เลยทั้งคู่ มั่นใจว่าถูกหลอกแน่จึงรีบเดินทางไปแจ้งความไว้ต่อพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน จากนั้นก็กลับมาวางแผนให้นางกมลวรรณ ฉูตรสูงเนิน อายุ 41 ปี คนรู้จักของตนซึ่งมีแม่กำลังป่วยอยู่ในบ้านพักภายในซอยเจริญกรุง 85 ท้องที่ สน.วัดพระยาไกร ใช้โทรศัพท์มือถือเบอร์อื่นติดต่อไปที่นายทวีศักดิ์ แล้วทำทีว่าจ้างพยาบาลไปดูแลคนแก่ที่บ้านในช่วงบ่ายวันนี้ โดยจะให้ค่าแรงล่วงหน้าบวกกับค่ารถ จำนวน 7,000 บาท ทำให้นายทวีศักดิ์ติดกับรับปากจะส่งพยาบาลมาให้ จึงรีบให้พนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน ประสานมายังฝ่ายสืบสวน สน.วัดพระยาไกร เพื่อวางแผนร่วมกันในการเข้าจับกุมจนสามารถรวบตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้ดังกล่าาว

ด้าน พ.ต.ท.ดิลกกล่าวว่า หลังได้รับการประสานจากทางผู้เสียหายแล้ว ก็สั่งการให้ ร.ต.อ.ขวัญชัย นำเงินสดจำนวน 7,000 บาท ไปถ่ายเอกสารเป็นหลักฐานมัดตัวผู้ต้องหา ก่อนนำกำลังไปดักซุ่มที่บ้านพักของนางกมลวรรณ ภายในซอยเจริญกรุง 85 ตามแผน เมื่อนายทวีศักดิ์ พานางแก้วตา นั่งรถแท็กซี่มาถึงบ้านและเข้าไปเจรจากันในบ้าน ซึ่งทั้งคู่ก็มีพฤติกรรมไม่ต่างจากเดิม คือ นายทวีศักดิ์หลบหนีออกมาก่อน เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมตัวเอาไว้ได้ พร้อมเงินสดของกลางจำนวน 5,700 บาท จากนั้นก็ดักจับกุมนางแก้วตา ที่หลบหนีตามออกมาได้พร้อมเงินสดจำนวน 1,300 บาท ก่อนจะควบคุมตัวทั้งสองคนรายมาสอบปากคำ

จากการสอบสวนนายทวีศักดิ์ให้การรับสารภาพว่า หลังจากจบ ม.6 ตนก็ไม่ได้เรียนต่อ แต่ได้ไปช่วยพี่สาวทำงานเป็นเสมียนที่ หจก.เลดี้เนอร์สซิ่งโฮม และ หจก.แฮปปี้เนอร์สซิ่งโฮม ซึ่งเป็นบริษัทรับจัดหาแม่บ้าน พี่เลี้ยงเด็ก และพนักงานดูแลคนชราให้ลูกค้าตามบ้าน หลังจากพี่สาวเดินทางไปต่างประเทศไม่มีใครทำธุรกิจต่อตนจึงเข้ารับช่วงด้วยตนเอง โดยนำหน้าเว็บของบริษัทไปฝากแปะไว้ตามเว็บไซต์จัดหางานและ www.sanook.com เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์อีกทาง เมื่อลูกค้าไปค้นหาข้อมูลจากเว็บไซด์กูเกิ้ล ก็จะมองเห็นหน้าเว็บของตน และติดต่อเข้ามาใช้บริการ

นายทวีศักดิ์ให้การต่อว่า ช่วงแรกตนก็ส่งพนักงานไปทำงานให้ตามบ้านตามปกติไม่เคยมีปัญหา แต่เมื่อช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เงินไม่พอใช้ เลยวางแผนกับนางแก้วตา ซึ่งเคยรู้จักกันมาก่อน หลอกลูกค้ามาแล้ว 7 ครั้งในย่านห้วยขวาง หัวลำโพง สุขุมวิท บางขุนเทียน และวัดพระยาไกร จนกระทั่มาถูกจับกุมได้ดังกล่าว

ด้าน นางแก้วตาร่ำไห้รับสารภาพว่า ปกติทำงานเป็นแคชเชียร์อยู่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านแจ้งวัฒนะ แต่ตอนนี้สามีป่วยเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีต้องใช้เงินจำนวนมากในการรักษาตัว ซึ่งตนก็ไม่รู้จะไปหาเงินที่ไหน จนนายทวีศักดิ์ติดต่อมาว่ากำลังเดือดร้อนเหมือนกัน ให้ช่วยวางแผนลงมือก่อเหตุแบบนี้ ตนก็เลยตกบันไดพลอยโจนทำผิดไปด้วยทุกครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งได้รับเงินส่วนแบ่งประมาณ 1,000-1,300 บาท แล้วแต่นายทวีศักดิ์จะแบ่งให้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงต่อผู้ต้องหาทั้งสองเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ หากผู้เสียหายรายใดสงสัยว่าเคยถูกมิจฉาชีพกลุ่มนี้ล่อลวงสามารถเดินทางมาตรวจสอบประวัติ เพื่ออายัดตัวแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้ที่ สน.วัดพระยาไกร