ปส.ภาค 2 ล่อซื้อยาบ้าจากหนุ่มไทย-ลาว ลอบขนยานรกเข้ามาจำหน่ายในฝั่งไทย พื้นที่ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ได้ของกลางยาบ้า 5,620 เม็ด พร้อมควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
วันนี้ (15 ม.ค.) พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ ทั่งทอง รอง ผบก.ปส.2 พ.ต.อ.สายัณห์ ปาลวัฒน์ ผกก.บก.ปส.2 พร้อมกำลังได้ร่วมกันจับกุมนายทอง แก้วปัญญา ชาวลาว และ นายสถาพร ว่องไว ชาวไทยอายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 ต.นาโพธิ์กลาง อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี พร้อมของกลางยาบ้า 5,620 เม็ด โทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง กระเป๋าเป้สีดำ 1ใบ โดยจับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถด้านหลังร้านอาหาร 8 กิ๊ก บ้านนาโพธิ์กลาง หมู่ที่ 1 ต.นาโพธิ์กลาง อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี
พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากหน่วยปราบปรามยาเสพติด จ.อุบลราชธานี สังกัด กก.2 บก.ปส.2 ได้ลงพื้นที่ทำการสืบสวนขบวนการลักลอบขนยาเสพติดตามแนวชายแดนไทย-ลาว ที่เข้ามาจำหน่ายในเขตพื้นที่รับผิดชอบ จนทราบว่า ในเขตพื้นที่ อ.โขงเจียม มีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ลักลอบนำยาบ้ามาจำหน่ายที่บริเวณบ้านนาโพธิ์กลาง ซึ่งเป็นกลุ่มของนายทอง ร่วมกับพวกชาวลาวที่อยู่ ต.คำทอง เมืองคงเซโดน แขวงสาละวัน ประเทศลาว โดยลักลอบเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ตามแนวชายแดนดังกล่าวแล้วส่งยาบ้าให้นายสถาพร ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคนไทยไปจำหน่ายให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง
พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ทางชุดสืบสวนจึงได้วางแผนติดต่อล่อซื้อยาบ้าจากกลุ่มนายทองและนายสถาพร โดยให้สายโทร.ติดต่อกับนายทอง และนัดส่งมอบกันที่เขตพื้นที่ ต.นาโพธิ์กลาง เมื่อ นายทอง เดินทางมาถึงทางชุดสืบสวนจึงวางแผนโดยให้สายเข้าไปรับยาบ้ากับนายทอง จากนั้น นายสถาพร ได้ส่งมอบกระเป๋าเป้ที่บรรจุยาบ้าให้ ซึ่งสายลับได้บอกกับนายทองว่าเงินค่ายาบ้าอยู่กับเสี่ย ซึ่งถือเงินรออยู่ที่ร้านอาหาร 8 กิ๊ก เมื่อไปถึงที่บริเวณหลังร้านอาหาร 8 กิ๊กทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงแสดงตัวทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสอง ก่อนควบคุมตัวไปสอบสวนและยึดของกลางไว้ตรวจสอบ
จากการสอบสวน นายทอง ให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าของกลางเป็นของตนโดยยาบ้าดังกล่าวนั้นได้นำมาจากประเทศลาว โดยมีคนนำขึ้นเรือเข้ามาที่บริเวณท่าถ้ำดอกคำ บ้านทุ่งงนาเมือง ต.นาโพธิ์กลาง อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ส่วนนายสถาพรตนได้ชวนให้ขึ้นรถมาเป็นเพื่อนและจะให้ค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 200 บาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาทั้งสอง ว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.โขงเจียมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
