ปส.รวบตำรวจ สน.สามเสน ยศ “ด.ต.” รับยาบ้าจากกรุงเทพฯ ไปค้าแถบสุราษฎร์ฯ-เมืองคอน พร้อมของกลาง 120,000 เม็ด ขณะกำลังเอายาไปส่ง ด่านเรียกตรวจยังติดสินบน 2 หมื่น แต่ไม่รอดค้นรถพบซุกช่องลับพนักพิงเบาะด้านหลังซีวิค สารภาพทำมา 2 ครั้งได้ค่าจ้าง 2 แสน
วันนี้ (7 ม.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.ท.อติเทพ ปัจจมานนท์ ผบช.ปส. พล.ต.ต.หาญพล นิตย์วิบูลย์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.แสงสูรย์ กรรณสูต ผบก.ปส.1 พ.ต.อ.ฉัตรชัย ศิริทรัพย์ พ.ต.อ.วุฒิศาสตร์ อำพันธ์ยุทธ์ , รอง ผบก.ปส.1 นำกำลังเข้าจับกุมตัว ด.ต.ไพโรจน์ วงศรีแก้ว อายุ 43 ปี ผบ.หมู่ (สส.) สน.สามเสน อยู่บ้านเลขที่ 3/37 ซ.ศูนย์วิจัย แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ พร้อมด้วยของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน120,000 เม็ด ซึ่งซุกซ่อนไว้ในช่องลับที่บริเวณพนักพิงเบาะนั่งด้านหลังรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ภษ 8140 กรุงเทพฯ โทรศัพท์มือถือจำนวน 4 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่ริมถนนเพชรเกษมฝั่งขาออก ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 174-175 ต.ท่าเสน อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี
พล.ต.ท.อติเทพกล่าวว่า เมื่อเดือนตุลาคม 2553 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.2 บก.ปส.1 (นปส.นิลพัทธ์) ได้รับแจ้งว่าจะมีกลุ่มเป้าหมายเครือข่ายนายไพโรจน์ (ไม่ทราบนามสกุล) ซึ่งมีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาบ้าในแถบจังหวัดสุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงในภาคใต้ จะขึ้นมารับยาบ้าที่กรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง โดยใช้รถยนต์ฮอนด้าซีวิคของกลางซึ่งได้ดัดแปลงรถเป็นที่ซุกซ่อนยาบ้าไว้ จากนั้นเมื่อวันที่ 4 มกราคม เวลาประมาณ 15.00 น. ด.ต.ไพโรจน์ได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวมารับยาบ้าเพื่อนำส่งลงไปจำหน่ายยังจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยจอดรถไว้ที่เมเปิ้ล อพาร์ทเม้นท์ ถนนบางกรวย-ไทรน้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับสืบสวนจึงนำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์
พล.ต.ท.อติเทพกล่าวอีกว่า ต่อมาเวลาประมาณ 04.30 น.ของวันที่ 5 มกราคม 2554 ด.ต.ไพโรจน์ได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวออกจากเมเปิ้ล อพาร์ทเม้นท์ ใช้เส้นทางมุ่งหน้าลงไปทางภาคใต้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ขับรถยนต์ติดตามไปพร้อมทั้งติดต่อประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเพชรบุรีให้คอยตั้งด่านสกัดกั้นที่บริเวณริมถนนเพชรเกษมฝั่งขาออก ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 174 -175 ต.ท่าเสน อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี เพื่อขอทำการตรวจค้น กระทั่ง ด.ต.ไพโรจน์ขับรถยนต์คันดังกล่าวมาถึงด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเพชรบุรี เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณให้หยุดรถและขอทำการตรวจค้นรถยนต์ แต่ ด.ต.ไพโรจน์ได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งแสดงบัตรประจำตัว จากนั้นก็พยามติดสินบนกับเจ้าหน้าที่จำนวน 200,000 บาท เพื่อที่ไม่ต้องตรวจค้นรถ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ยอมจึงลงมือตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าว จากการตรวจค้นพบว่า ที่บริเวณพนักพิงเบาะด้านหลังพบรอยเจาะดัดแปลงเป็นกล่อง เมื่อเปิดออกดูก็พบยาเสพติดบรรจุอยู่ภายใน จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ บช.ปส.พร้อมทั้งแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวน ด.ต.ไพโรจน์ รับว่าสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจากนายชัย ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ให้ขับรถคันดังกล่าวมารับยาบ้าที่เมเปิ้ลอพาร์ทเม้นท์ ถนนบางกรวย-ไทรน้อยแล้วจอดทิ้งไว้ จากนั้นตนก็จะต่อขับลงไปที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี จากนั้นจะมีคนรับต่ออีกทอดหนึ่งโดยครั้งนี้ตนจะได้ค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 200,000 บาท ส่วนก่อนหน้านี้ตนขนยาไปจำนวน 50 มัด ได้ค่าจ้างจำนวน 150,000 บาท
วันนี้ (7 ม.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.ท.อติเทพ ปัจจมานนท์ ผบช.ปส. พล.ต.ต.หาญพล นิตย์วิบูลย์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.แสงสูรย์ กรรณสูต ผบก.ปส.1 พ.ต.อ.ฉัตรชัย ศิริทรัพย์ พ.ต.อ.วุฒิศาสตร์ อำพันธ์ยุทธ์ , รอง ผบก.ปส.1 นำกำลังเข้าจับกุมตัว ด.ต.ไพโรจน์ วงศรีแก้ว อายุ 43 ปี ผบ.หมู่ (สส.) สน.สามเสน อยู่บ้านเลขที่ 3/37 ซ.ศูนย์วิจัย แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ พร้อมด้วยของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน120,000 เม็ด ซึ่งซุกซ่อนไว้ในช่องลับที่บริเวณพนักพิงเบาะนั่งด้านหลังรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ภษ 8140 กรุงเทพฯ โทรศัพท์มือถือจำนวน 4 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่ริมถนนเพชรเกษมฝั่งขาออก ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 174-175 ต.ท่าเสน อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี
พล.ต.ท.อติเทพกล่าวว่า เมื่อเดือนตุลาคม 2553 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.2 บก.ปส.1 (นปส.นิลพัทธ์) ได้รับแจ้งว่าจะมีกลุ่มเป้าหมายเครือข่ายนายไพโรจน์ (ไม่ทราบนามสกุล) ซึ่งมีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาบ้าในแถบจังหวัดสุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงในภาคใต้ จะขึ้นมารับยาบ้าที่กรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง โดยใช้รถยนต์ฮอนด้าซีวิคของกลางซึ่งได้ดัดแปลงรถเป็นที่ซุกซ่อนยาบ้าไว้ จากนั้นเมื่อวันที่ 4 มกราคม เวลาประมาณ 15.00 น. ด.ต.ไพโรจน์ได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวมารับยาบ้าเพื่อนำส่งลงไปจำหน่ายยังจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยจอดรถไว้ที่เมเปิ้ล อพาร์ทเม้นท์ ถนนบางกรวย-ไทรน้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับสืบสวนจึงนำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์
พล.ต.ท.อติเทพกล่าวอีกว่า ต่อมาเวลาประมาณ 04.30 น.ของวันที่ 5 มกราคม 2554 ด.ต.ไพโรจน์ได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวออกจากเมเปิ้ล อพาร์ทเม้นท์ ใช้เส้นทางมุ่งหน้าลงไปทางภาคใต้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ขับรถยนต์ติดตามไปพร้อมทั้งติดต่อประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเพชรบุรีให้คอยตั้งด่านสกัดกั้นที่บริเวณริมถนนเพชรเกษมฝั่งขาออก ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 174 -175 ต.ท่าเสน อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี เพื่อขอทำการตรวจค้น กระทั่ง ด.ต.ไพโรจน์ขับรถยนต์คันดังกล่าวมาถึงด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเพชรบุรี เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณให้หยุดรถและขอทำการตรวจค้นรถยนต์ แต่ ด.ต.ไพโรจน์ได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งแสดงบัตรประจำตัว จากนั้นก็พยามติดสินบนกับเจ้าหน้าที่จำนวน 200,000 บาท เพื่อที่ไม่ต้องตรวจค้นรถ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ยอมจึงลงมือตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าว จากการตรวจค้นพบว่า ที่บริเวณพนักพิงเบาะด้านหลังพบรอยเจาะดัดแปลงเป็นกล่อง เมื่อเปิดออกดูก็พบยาเสพติดบรรจุอยู่ภายใน จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ บช.ปส.พร้อมทั้งแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวน ด.ต.ไพโรจน์ รับว่าสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจากนายชัย ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ให้ขับรถคันดังกล่าวมารับยาบ้าที่เมเปิ้ลอพาร์ทเม้นท์ ถนนบางกรวย-ไทรน้อยแล้วจอดทิ้งไว้ จากนั้นตนก็จะต่อขับลงไปที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี จากนั้นจะมีคนรับต่ออีกทอดหนึ่งโดยครั้งนี้ตนจะได้ค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 200,000 บาท ส่วนก่อนหน้านี้ตนขนยาไปจำนวน 50 มัด ได้ค่าจ้างจำนวน 150,000 บาท
