ตำรวจทางหลวง จับกัญชาอัดแท่ง 265 แท่ง น้ำหนักประมาณ 265 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 1 ล้าน 6 หมื่นบาท หลังจากผู้ต้องหาขนใส่รถปิกอัพมาจากภาคเหนือ ขณะจับได้ มีรถปิกอัพอีกคันพยายามติดต่อติดสินบน แต่คนร้ายกลัวถูกซ้อนแผนจับเลยรีบหลบหนีไปได้ก่อน
วันนี้ (24 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมยศ พรหมนิ่ม ผบก.ทล. พ.ต.อ.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผกก.1 บก.ทล. และพ.ต.ต.อภิรักษ์ จำปาศรี สว.ส.ทล. 2 กก. 1 บก.ทล. (สระบุรี) ร่วมกันแถลงข่าวตำรวจทางหลวงจับกุมตัว นายทิตย์ แสงไสย์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 หมู่ 11 ต.คอกช้าง อ.สระใคร จ.หนองคาย และนายอาทิตย์ สอนนุชาติ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92 หมู่ 17 ต.วาริชภูมิ อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่งจำนวน 265 แท่ง น้ำหนักประมาณ 265 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 1 ล้าน 6 หมื่นบาท และรถกระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีดำ ทะเบียน ตณ 168 กทม. ซึ่งเป็นทะเบียนปลอม จำนวน 1 คัน โดยจับกุมได้ที่บริเวณทางหลวงหมายเลข 21 ระหว่าง กม.ที่ 5-6 ถ.เพชรบูรณ์-หล่มสัก ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี เมื่อเวลาประมาณ 05.30น. วันนี้ (24 ก.พ.)
พล.ต.ท.ไถง เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง นำโดย พ.ต.อ.เอกราช ได้รับแจ้งจากสายลับว่าในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีขบวนการลักลอบขนกัญชาจำนวนมากจากภาคอีสานเข้าสู่ภาคกลาง โดยใช้รถกระบะขนมาในช่วงเวลากลางคืน จึงได้สั่งการให้ทางด.ต.โชติพัฒน์ ศรีเจริญ ด.ต.สุชาติ ศรีทองสุข และด.ต.ณรงค์ฤทธิ์ งับแสนสา ผบ.หมู่ ส.ทล.2 กก.1 บก.ทล.นำกำลังออกตรวจตรา กระทั่งถึงบริเวณที่จับกุมเจ้าหน้าที่ได้พบรถกระบะมิตซูบิชิของสองผู้ต้องหาขับผ่านมาโดยมีนายทิตย์เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอาทิตย์นั่งข้างมา ท่าทีมีพิรุธจึงได้ขอทำการตรวจค้นบริเวณแครี่บอยด้านหลังกระบะที่ติดฟิล์มดำทึบ เจ้าหน้าที่จึงพบกัญชาของกลางจำนวนดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ภายในกระสอบปุ๋ยจำนวน 8 กระสอบ โดยมีถุงดำหุ้มอยู่อีกชั้นหนึ่งจึงควบคุมตัวทั้งสองไปสอบสวน
พล.ต.ท.ไถง กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่าได้รับจ้างขนกัญชาดังกล่าวมาจาก จ.อุดรฯ เพื่อไปส่งต่อที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยได้ค่าจ้างคนละ 10,000 บาท โดยจะผลัดกันขับรถ จากนั้นจะมีผู้มารับช่วงนำกัญชาดังกล่าวไปส่งต่อ โดยคาดว่าปลายทางของยาเสพติดดังกล่าวน่าจะอยู่ที่ภาคใต้ ส่วนกัญชาที่ผู้ต้องหารับมานั้นทารบว่ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน สำหรับมูลค่ากัญชาอัดแท่งหากนำไปจำหน่ายในประเทศจะมีราคาประมาณแท่งละ 4,000บาท และหากส่งออกนอกประเทศได้ก็จะมีราคาสูงถึงแท่งละ15,000 บาท
พล.ต.ท.ไถง กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่พบว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการที่หลบหนีการจับกุมไปได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทราบมาว่าขณะที่รถของผู้ต้องหาขับขี่มาส่งยาเสพติดตามเส้นทางนั้น ยังมีรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บบ 185 อุบลราชธานี ขับขี่นำหน้ารถผู้ต้องหาทำหน้าที่เหมือนเป็นสเกาต์หน้า ขับขี่หลบหนีไป โดยภายหลังจากที่จับกุมผู้ต้องหาได้ ทางผู้ขับขี่รถกระบะวีโก้ดังกล่าวได้พยายามติดต่อขอติดสินบนเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเพื่อแลกเปลี่ยนกับการให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการติดต่อเพื่อล่อให้คนร้ายนำสินบนมามอบให้เพื่อจับกุมตัว แต่คนร้ายได้ไหวตัวทัน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้ทาประเภทที่ 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.สอบสวนขยายผลและดำเนินคดีต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่าเมื่อเวลา 04.00 น.ของวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ส.ทล.2 กก.7 บก.ทล.(ตรัง) ได้จับกุมตัวนายจตุพร จีนเมือง อายุ 33 ปี ชาว จ.สกลนคร และน.ส.อภิญญา ไชยพิคุณ อายุ 18 ปี ได้พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่ง น้ำหนัก 260 กก. และรถกระบะ 1 คัน อาวุธปืน 1 กระบอก ที่ ต.เขาเจียด อ.เมือง จ.พัทลุง โดยได้ส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางให้ทาง สภ.เมือง จ.พัทลุง ดำเนินคดีในข้อหาเดียวกัน