คนร้ายประดิษฐ์ไม้แกะสลักไว้บรรจุยาบ้า ลำเลียงเข้ากรุง แต่ทว่าพิรุธออก ตำรวจเลยจับได้ พบยาบ้าของกล่าวกว่า 1.3 หมื่นเม็ด ขณะที่โชเฟอร์ร้องขอความเป็นธรรม ผู้ต้องหาว่าจ้างรถให้มาส่ง ไม่รู้มียานรกซุกซ่อนอยู่
วันนี้ (7 ม.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น. พล.ต.ต.สมยศ พรหมนิ่ม ผบก.ทล. พร้อมด้วย พ.ต.อ.พินิต มณีรัตน์ รอง ผบก.ทล. พ.ต.อ.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผกก.1 บก.ทล.และ พ.ต.ท.ดำรงศักดิ์ อ่อนตา สว.ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล. ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัว นายพงษ์ศักดิ์ นิ่มเจริญศักดิ์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 173 หมู่ 3 ต.ท่างิ้ว อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ และนายบุญมาก ยอดรัก อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 10 ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย พร้อมของกลางยาบ้า 69 ถุงๆ ละ 200 เม็ด รวม 13,720 เม็ด ยัดอยู่ภายในท่อนไม้แกะสลัก จำนวน 2 ท่อน และรถเก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ศต 8644 กรุงเทพมหานคร โดยจับกุมตัวได้บนถนนหลวงหมายเลข 340 ระหว่าง กม.179-180 ต.แพรกศรีราชา อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
พล.ต.ต.สมยศ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลา 03.00 น.ที่ผ่านมา ขณะที่ ด.ต.สมศักดิ์ ท่าไม้สุข ด.ต.โม ธนกิจวรบุลย์ และ จ.ส.ต.อภิสสิทธิ์ สุขโทน เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง จ.ชัยนาท ร่วมกันออกตรวจพื้นที่โดยใช้รถวิทยุหมายเลข 1606 ไปตามถนนหลวงสายดังกล่าว พบรถเก๋งของกลางของผู้ต้องหาขับผ่านมาจึงได้เรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น พบว่า นายพงษ์ศักดิ์เป็นผู้ขับขี่ ส่วนนายบุญมากซึ่งนั่งอยู่เบาะหน้าข้างๆ กันแสดงอาการพิรุธ เมื่อเจ้าหน้าที่เหลือบไปมองที่เบาะหลังพบถุงพลาสติกบรรจุท่อนไม้แกะสลัก จำนวน 2 ท่อน วางอยู่ เลยขอหยิบออกมาตรวจสอบอย่างละเอียด ปรากฏว่ามียาบ้าซุกซ่อนอยู่จำนวนมาก จึงควบคุมตัวทั้ง 2 รายและของกลางทั้งหมดไปสอบสวนเพื่อดำเนินคดีที่ สภ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
จากการสอบสวน นายบุญมากให้การรับสารภาพว่าของกลางทั้งหมดเป็นของตนที่รับมาจากเอเยนต์ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในราคาเม็ดละ 60 บาท โดยตนนำยาบ้าทั้งหมดซุกเอาไว้ในท่อนไม้แกะสลักที่ทำขึ้นมาเอง ก่อนนั่งรถทัวร์มาลงที่ จ.นครสวรรค์ แล้วว่าจ้างให้นายพงษ์ศักดิ์ ซึ่งเป็นผู้ขับขี่แท็กซี่ป้ายดำ ในราคา 1,200 บาท ให้ขับพาไปส่งที่ อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี เพื่อนำยาบ้าทั้งหมดไปส่งให้ลูกค้าอีกทอดหนึ่งในราคาเม็ดละ 80 บาท ซึ่งที่ผ่านมาตนเคยทำสำเร็จมาครั้งหนึ่งแล้ว จึงนำเงินกำไรที่ได้จากค้ายาเที่ยวก่อนมาลงทุนทำแบบนี้อีก แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงตาไวจับกุมได้เสียก่อน
ด้าน นายพงษ์ศักดิ์ให้การว่า ตนไม่เคยรู้จักกับนายบุญมากมาก่อน และไม่ทราบว่านายบุญมากว่าจ้างให้ไปส่งยาบ้า จึงอยากฝากประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชนไปถึงบรรดาผู้ขับขี่รถรับจ้างทุกชนิดด้วยว่า ทุกวันนี้มีกลุ่มมิจฉาชีพใช้บริการรถสาธารณะบ่อยครั้ง หากจะรับผู้โดยสารไปส่งตามเส้นทางห่างไกลก็ขอให้ตรวจสอบสัมภาระ และดูลักษณะท่าทางให้ดีด้วย จะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อติดร่างแหเหมือนอย่างที่ตนถูกดำเนินคดีไปด้วยในครั้งนี้
ขณะ ที่ พ.ต.อ.พินิต เปิดเผยว่า เท่าที่ดูจากแผนประทุษกรรมของผู้ต้องหารายนี้เชื่อว่าคงย่ามใจที่เห็นว่าช่วงเทศกาลปีใหม่ผ่านเลยไปแล้วตำรวจคงไม่เข้มงวดกวดขัน แต่ตนขอยืนยันว่า ตำรวจทางหลวงทำงานอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง แม้ว่าเราจะไม่ใช่หน่วยที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้โดยตรง แต่เราก็ได้พยายามฝึกอบรมให้กำลังพลทุกสถานี รู้จักใช้ไหวพริบสังเกตความเคลื่อนไหวและลักษณะการขนย้ายสิ่งของของผู้ใช้รถ แต่ละคันให้ละเอียดถี่ถ้วน ดังนั้นเมื่อปี พ.ศ.2552 ตำรวจทางหลวงจึงสามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางยาเสพติดได้หลายชนิด โดยยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก