รวบแก๊งแฮกเกอร์ชาวโรมาเนีย ลักข้อมูลการเงินจากอังกฤษ-สกอตแลนด์ แล้วเข้ามาในไทย เพื่อนำข้อมูลใส่บัตรโทรศัพท์ต่างประเทศ ที่มีแถบแม่เหล็กคล้ายบัตรเอทีเอ็ม แล้วนำไปกดเงินตามตู้เอทีเอ็มในไทย เสียหาย 14 ล้าน โดยจะกดเงินและนำใส่ซองสีน้ำตาลส่งพัสดุปลายทางอังกฤษ ได้ค่าจ้าง 10 เปอร์เซ็นต์จากยอดเงินที่กดในแต่ละวัน
วันนี้ (6 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก.พร้อมด้วย พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตรสุขศรี ผบก.ทท.แถลงการจับกุมแก๊งแฮกเกอร์ชาวยุโรป ลักข้อมูลบัตรเอทีเอ็มกดเงินธนาคารประเทศอังกฤษ และสกอตแลนด์ จากตู้เอทีเอ็มในประเทศไทย รวมมูลค่าเสียหายประมาณ 14 ล้านบาท ประกอบด้วย นายวินท์ ดาเนียล อายุ 25 ปี และ นายโรอาติส เซอร์จิโอ เวอร์จิล อายุ 24 ปี ทั้งคู่เป็นชาวโรมาเนีย พร้อมของกลางเงินสด 131,000 บาท บัตรเอทีเอ็มปลอม จำนวน 366 ใบ เครื่องอ่านและบันทึกข้อมูลบัตรเอทีเอ็ม 1 ชุด คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กยี่ห้อคอมแพค 1 เครื่อง
พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวว่า ช่วงปีใหม่ทางตำรวจได้รับการประสานจากทางธนาคาร ว่า พบแก๊งชาวยุโรปลักลอบนำข้อมูลการเงินจากประเทศอังกฤษ และสกอตแลนด์ เข้ามาในประเทศไทย โดยนำข้อมูลไปใส่บัตรโทรศัพท์ต่างประเทศซึ่งมีแถบแม่เหล็กคล้ายบัตรเอทีเอ็ม แล้วนำไปกดเงินตามตู้เอทีเอ็มธนาคารต่างๆ ในประเทศไทย รวมมูลค่าเสียหายประมาณ 14 ล้านบาท จึงส่งชุดสืบสวนเฝ้าระวังตามจุดที่คนร้ายนำบัตรเอทีเอ็มปลอมไปกดเงิน ในย่านสีลม เจริญกรุง เยาวราช และ สุขุมวิท จนกระทั่งพบ นายวินท์ ที่แสดงพฤติกรรมเข้าข่ายแก๊งต้องสงสัยดังกล่าว ไปกดเงินบริเวณด้านหน้าโรงแรมย่านเยาวราช จึงแสดงตัวและขอตรวจค้นพบบัตรเอทีเอ็มปลอม จำนวน 25 ใบในกระเป๋าสะพาย
พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวว่า จากการสอบสวนนายวินท์ ให้การสารภาพว่า เอาบัตรเอทีเอ็มปลอมมาจาก นายโรอาติส โดยจะมีการนำบัตรมาให้กดเงินอีก เจ้าหน้าที่จึงวางแผนให้นายวินท์ไปรับบัตรที่โรงแรมแห่งหนึ่ง และเข้ารวบตัวนายโรอาติสได้ จากการตรวจค้นในตัวพบบัตรเอทีเอ็ม ปลอม 91 ใบ และเข้าตรวจค้นห้องพักพบบัตรเอทีเอ็มปลอมอีก 250 ใบ พร้อมอุปกรณ์ดัดแปลงข้อมูลทางการเงินลงในบัตรอิเล็กทรอนิกส์
จากการสอบสวนทราบว่า นายโรอาติส จะเป็นผู้รับข้อมูลมาจากประเทศอังกฤษเข้าเครื่องแปลงข้อมูลลงในบัตรโทรศัพท์และนำไปให้นายวินท์ และพวกอีก 3 คนที่เดินทางเข้ามาในไทยพร้อมกันไปกดเงินและนำใส่ซองสีน้ำตาลส่งเป็นพัสดุทางไปรษณีย์กลับไปประเทศอังกฤษอีกที โดยได้รับค่าจ้างคนละ 10 เปอร์เซ็นต์จากยอดเงินที่กดในแต่ละวัน
“ทั้งนี้ พฤติกรรมแก๊งคนร้ายรายนี้ได้ก่อความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และชื่อเสียงของประเทศไทยในการเข้ามาก่ออาชญากรรมข้ามชาติ จึงสั่งการให้ชุดปฏิบัติการเร่งติดตามคนร้ายอีก 3 คนที่หลบหนี และสืบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อกวาดล้างจับกุมต่อไป” พล.ต.ต.ปัญญา