นครปฐม - เสี่ยเจ้าของกิจการรถบรรทุกเมืองนครปฐมผวาพัสดุส่งถึงลูกชายวัย 9 ปีถึงบ้าน ญาติหวั่นเป็นระเบิดแจ้งตำรวจนำไปตรวจสอบผลพบเป็นเพียงตะขอชักรอก หนักเกือบ 2 กิโลกรัม ตั้งปมป่วนเมืองหรือให้ผู้รับผิดคน
วันนี้ (26 ม.ค.) เวลา 16.00 น. ร.ต.ท.ศักดิ์ชัย ว่องมหาชัยกุล รอง สวป.สภ.เมืองนครปฐม รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่ามีประชาชนได้แจ้งว่าพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายเป็นวัตถุระเบิดส่งเป็นพัสดุไปรษณีมาส่งที่บ้านพักเลขที่ 119 ถนนบรรเจิดใจราษฎร์ อ.เมืองนครปฐม จึงรายงาน พ.ต.อ.วัฒนา พิมพ์อัฐ ผกก.สภ.เมืองนครปฐม และรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิด
โดยเมื่อไปถึงที่บ้านหลังดังกล่าวพบนางอนงค์ ธนเมตตาภูมิรันต์ เจ้าของบ้านกำลังรอให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ โดยมีญาติและเพื่อนบ้านต่างมายืนรอด้วยความตื่นตระหนก จึงได้ทำการตรวจสอบพบว่าเป็นกล่องพัสดุไปรษณีสีนำตาลขนาดกว้างประมาณ 12 นิ้ว ยาว 9 นิ้ว สีน้ำตาล มีการจ่าหน้าซองส่งถึง รณกร จันทราสกุล เลขที่ 119 ถ.บรรเจิดใจราษฎร์ อ.เมือง จ.นครปฐม
โดยมีชื่อผู้ส่ง คือ นายยงยุทธ บุตรครุซ อยู่บ้านเลขที่ 3/146 ม.3 ต.ท่ามะกา อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรีและมีการเขียนอักษรด้วยปากกาว่าพัสดุดังกล่าวมีขนาด 1,683 กรัม จึงได้ประสาน ด.ต.บุญส่ง สุดเหมือน ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จว.นครปฐม หัวหน้าชุดเก็บกู้ระเบิด (EOD) และ ด.ต.ยุทธนา เมตตา ลูกทีมเข้านำกล่องพัสดุต้องสงสัยดังกล่าวไปตรวจสอบและพบว่าภายในมีน้ำหนักมากจึงได้นำไปในที่โล่งแจ้งและทำการทำลายด้วยระเบิดแบบฝักแคโดยพบภายในเป็นเพียงตะขอเหล็กสำหรับเครื่องชักรอกขนาดใหญ่มีน้ำหนักราว 2 กิโลกรัม
นายอาคม จันทราสกุล อายุ 44 ปี บิดาของ ด.ช.รณกร จันทราสกุล บอกว่าตนมีอาชีพเป็นเจ้าของกิจการรถบรรทุก 10 ล้อ โดยได้อยู่ที่บ้านพักอีกหลังหนึ่ง ส่วนบุตรชายได้ให้อยู่กับยายที่บ้านพักแต่ช่วงบ่ายได้มีบุรุณไปรณีย์มาส่ง แต่พบว่ามีการจ่าหน้าซองถึงบุตรชาย ที่มีอายุเพียง 9 ปี ไม่เคยมีการรับส่งพัสดุกลับใคร หรือติดต่อขอรับของจากใคร จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองให้ตรวสอบใบหน้าของผู้ส่ง และพบว่าไม่ใช่คนรู้จักจึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ และเจ้าหน้าที่ได้ทำลายเพื่อความปลอดภัยและพบสิ่งของภายในที่ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่บุตรชายของตนจะต้องใช้ จึงได้ส่งมอบให้ตำรวจเก็บเป็นหลักฐานหาเจ้าของที่ส่งมาอีกครั้ง
ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มีการประสานไปยังนายยุงยุทธ ว่า มีการส่งสิ่งขิงดังกล่าวมาผิดคนหรือไม่หรือถูกแอบอ้างชื่อเพื่อส่งสิ่งของมาข่มขู่ หรือปั่นป่วนโดยหากทางผู้ที่ได้รับพัสดุติดใจและไม่สบายใจจะมีการติดตามหาเบาะแสต่างๆ เพื่อคลายความสงสัยต่อไปเพราะเบื้องต้นได้รับข้อมูลว่าที่บ้านหลังดังกล่าวไม่ได้มีการขัดแย้งกับธุรกิจหริอขัดใจกับใครในช่วงก่อนหน้านี้