“วัยวุฒิ หล่อตระกูล” เตรียมรายงานอัยการสูงสุด หลังกระทรวงคลัง-ป.ป.ช.-อัยการ หารือการบังคับคดียึดทรัพย์ “ทักษิณ” 46,373 ล้านบาท สรุปเบื้องต้นให้กระทรวงการคลังติดตามเรียกเงินจากบัญชีธนาคารพาณิชย์เอง หากธนาคารพาณิชย์ขัดขืน อัยการจะแถลงให้ศาลทราบเพื่อมีคำสั่งบังคับคดีต่อไป
วันนี้ (25 มี.ค.) นายวัยวุฒิ หล่อตระกูล รองอัยการสูงสุด ประธานคณะทำงานอัยการรับผิดชอบคดีคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวถึงผลการประชุมร่วมกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง กรมบังคับคดี คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และอัยการ หารือการบังคับคดียึดทรัพย์ จำนวน 46,373 ล้านบาทเศษ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และครอบครัว 5 คน ว่า การประชุมร่วม เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ฝ่ายอัยการมีระดับรองอธิบดีอัยการและอัยการฝ่าย ได้เข้าประชุม ส่วน ป.ป.ช.ทราบว่าเป็นเพียงระดับผู้อำนวยการฝ่าย ไม่ใช่กรรมการ ป.ป.ช. ขณะที่การประชุมนั้นได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่าจะให้กระทรวงการคลังดำเนินการติดตามบังคับคดีต่อธนาคารพาณิชย์ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาให้นำส่งเงินในบัญชี ตามศาลระบุในคำพิพากษาเมื่อวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังจากที่ ป.ป.ช. พยายามเสนอให้อัยการเป็นผู้ดำเนินการบังคับคดีแทน ซึ่งก่อนหน้านี้กลางเดือน มี.ค. อัยการเคยยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกาฯ ออกคำบังคับคดีแล้ว แต่ศาลพิจารณาจากข้อกฎหมายและคำพิพากษาที่มีแล้วว่า ทาง ป.ป.ช.สามารถดำเนินการได้ทันที เมื่อ ป.ป.ช.ได้ยึดอายัดทรัพย์ในคดีไว้แล้วเมื่อ คตส.หมดวาระ ดังนั้น ศาลจึงไม่จำต้องออกคำบังคับให้อีก แต่ ป.ป.ช.ยังไม่เป็นผู้นำการบังคับคดีที่จะออกคำสั่งให้ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ที่ศาลระบุไว้นำคำพิพากษานำส่งเงิน จึงทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือจนได้ข้อสรุปในเบื้องต้นดังกล่าว
นายวัยวุฒิกล่าวต่อว่า หลังจากนี้ตนจะต้องรายงานเสนอนายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาต่อไปว่าจะมีความเห็นอย่างไร เพราะยังมีข้อกฎหมายต้องทบทวนให้ดี เพื่อป้องกันเหตุว่าถ้าจะให้กระทรวงการคลังดำเนินการแจ้งบังคับคดีแล้ว หากธนาคารพาณิชย์ ย้อนถามถึงคำสั่งบังคับคดีจะเป็นอย่างไร ทั้งที่เรื่องนี้ ป.ป.ช.ซึ่งเป็นผู้ยึดอายัดทรัพย์ในคดีไว้แล้ว จะออกคำสั่งและเป็นผู้นำบังคับคดีเองน่าจะมีความศักดิ์สิทธิ์กว่า โดยคาดว่าปลายสัปดาห์หน้าจะได้ทราบความเห็นอัยการสูงสุด
“ทั้งนี้ ถ้าอัยการสูงสุดมีความเห็นตามที่ประชุมร่วมดังกล่าวผมจะทำหนังสือแจ้งให้ประธาน ป.ป.ช. รวมทั้งปลัดกระทรวงการคลังทราบต่อไปและดำเนินการตามขั้นตอน ถ้าหากการบังคับคดีไม่เป็นผล เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ยังไม่ส่งเงินในบัญชีตามคำพิพากษาแล้ว อัยการในฐานะผู้ทำหน้าที่ว่าความ ก็ต้องแถลงให้ศาลทราบผล เพื่อให้มีคำสั่งบังคับคดีต่อธนาคารพาณิชย์นั้นต่อไป” นายวัยวุฒิกล่าว