ผบก.น.2 ยันยังไม่พบหลักฐานเพียงพอไปขอหมายจับ “มือปืน-รถต้องสงสัย” ยิงเอ็ม 79 ถล่ม ร.1 พัน.1 รอ.ได้ ขอเวลาแกะภาพกล้องวงจรปิดเร่งรัดสืบสวนคลี่คลายคดี มั่นใจจับกุมคนร้ายดำเนินคดีได้แน่
วันนี้ (17 มี.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนคลี่คลายคดีคนร้ายลอบยิงระเบิด เอ็ม 79 ใส่กรมทหาราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ว่าฝ่ายสืบสวนที่เกี่ยวข้องกำลังตรวจสอบเทปบันทึกภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิดในจุดต่างๆ ทั้งจากภาครัฐ และเอกชนรวมถึงบริษัทโทลล์เวย์ซึ่งมีหลายจุดด้วยกัน โดยต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการถอดเทป และดึงภาพรถต้องสงสัยผู้ต้องสงสัยให้ชัดเจนรอบคอบ จนถึงขณะนี้จากหลักฐานที่มีอยู่ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่า เป็นฝีมือของใครและกลุ่มไหนและใครเป็นคนยิง รวมถึงรถผู้ต้องหาต้องตรวจสอบอีกระยะ เพราะหลักฐานที่ได้ยังไม่เพียงพอที่จะไปขออำนาจศาลออกหมายจับใครได้
“ยอมรับว่าการติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุค่อนข้างมีอุปสรรค เพราะเวลาเกิดเหตุนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก อีกทั้งยังไม่มีพยานคนใดพบเห็นมาแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เบาะแสข้อมูล ส่วนกล้อง CCTV บนทางด่วนโทลล์เวย์ที่บันทึกภาพรถที่ต้องสงสัยนั้น ทางชุดสืบสวน อยู่ระหว่างแกะภาพ และหารถต้องสงสัยอยู่ สำหรับนายนาวิน ดาวสนิท อายุ 39 ปี ที่ขับรถต้องสงสัยก่อเหตุนั้น ได้สอบสวนอย่างละเอียดแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพียงแต่ขณะเกิดเหตุมีพยานเห็นรถคันดังกล่าววิ่งอยู่ในเวลานั้นเท่านั้น จึงตกเป็นผู้ต้องสงสัยในเวลานั้น แต่เมื่อตรวจสอบแล้วไม่ใช่ก็ต้องปล่อยตัวไป ซึ่งคดีดังกล่าวนั้นจะเก็บรวบรวมหลักฐาน แกะรอยล่าตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้” ผบก.น.2 กล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุกาณ์ดังกล่าวตนได้ประสานทั้งโทลล์เวย์ และทางด่วนพิเศษ ช่วยตรวจสอบเข้มงวดมากขึ้น เพื่อช่วยสอดส่องดูแลช่วยเจ้าหน้าที่ ซึ่งที่ผ่านมามีการประสานงานกันอยู่ตลอดเวลา และจากนี้ไปจะเข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยอีก
วันนี้ (17 มี.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนคลี่คลายคดีคนร้ายลอบยิงระเบิด เอ็ม 79 ใส่กรมทหาราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ว่าฝ่ายสืบสวนที่เกี่ยวข้องกำลังตรวจสอบเทปบันทึกภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิดในจุดต่างๆ ทั้งจากภาครัฐ และเอกชนรวมถึงบริษัทโทลล์เวย์ซึ่งมีหลายจุดด้วยกัน โดยต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการถอดเทป และดึงภาพรถต้องสงสัยผู้ต้องสงสัยให้ชัดเจนรอบคอบ จนถึงขณะนี้จากหลักฐานที่มีอยู่ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่า เป็นฝีมือของใครและกลุ่มไหนและใครเป็นคนยิง รวมถึงรถผู้ต้องหาต้องตรวจสอบอีกระยะ เพราะหลักฐานที่ได้ยังไม่เพียงพอที่จะไปขออำนาจศาลออกหมายจับใครได้
“ยอมรับว่าการติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุค่อนข้างมีอุปสรรค เพราะเวลาเกิดเหตุนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก อีกทั้งยังไม่มีพยานคนใดพบเห็นมาแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เบาะแสข้อมูล ส่วนกล้อง CCTV บนทางด่วนโทลล์เวย์ที่บันทึกภาพรถที่ต้องสงสัยนั้น ทางชุดสืบสวน อยู่ระหว่างแกะภาพ และหารถต้องสงสัยอยู่ สำหรับนายนาวิน ดาวสนิท อายุ 39 ปี ที่ขับรถต้องสงสัยก่อเหตุนั้น ได้สอบสวนอย่างละเอียดแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพียงแต่ขณะเกิดเหตุมีพยานเห็นรถคันดังกล่าววิ่งอยู่ในเวลานั้นเท่านั้น จึงตกเป็นผู้ต้องสงสัยในเวลานั้น แต่เมื่อตรวจสอบแล้วไม่ใช่ก็ต้องปล่อยตัวไป ซึ่งคดีดังกล่าวนั้นจะเก็บรวบรวมหลักฐาน แกะรอยล่าตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้” ผบก.น.2 กล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุกาณ์ดังกล่าวตนได้ประสานทั้งโทลล์เวย์ และทางด่วนพิเศษ ช่วยตรวจสอบเข้มงวดมากขึ้น เพื่อช่วยสอดส่องดูแลช่วยเจ้าหน้าที่ ซึ่งที่ผ่านมามีการประสานงานกันอยู่ตลอดเวลา และจากนี้ไปจะเข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยอีก