โฆษก ตร.ระดมพลแถลงผ่านวิดีโอทางไกล ยืนยันความพร้อมรับมือการชุมนุมใหญ่เสื้อแดง เดินหน้าแผนประชาสัมพันธ์ชุมนุมโดยสงบ ทุก บช.จับมือรั้งม็อบเข้ากรุง ส่วน ตร.ทางหลวง ย้ำ แผนสกัดอีแต๋นบุกกรุง เน้นตรวจสิ่งผิดกฎหมาย ยัน หากนำรถอีแต๋นมาใช้บนทางหลวงยึดทันที
วันที่ 7 มีนาคม ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ชั้น 3 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ในฐานะโฆษก ตร. พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ รองผู้บัญชาการสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในฐานะโฆษก ศปก.ตร.และ พล.ต.ต.สัญชัย สุนทรบุระ ผู้บังคับการกองสารนิเทศ ในฐานะรองโฆษก ตร.ร่วมแถลงข่าวกับโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) บช.ภ.1-9 ศชต. ตชด. บก.ป. บก.จร. บก.ทล.ผ่านระบบการประชุมทางไกล (วิดีโอคอนเฟอเรนซ์) โดยสอบถามความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง และความพร้อมของแต่ละหน่วยในการปฏิบัติตามแผนกรกฎ 52
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ โดย ศปก.ตร.พบว่า ขณะนี้ยังไม่มีเหตุรุนแรง หรือสัญญาณว่าจะมีเหตุรุนแรงใด ขณะนี้กลุ่ม นปช.เพียงแค่ดำเนินกิจกรรมชักจูงหาแนวร่วมมาชุมนุมใหญ่ในวันที่ 14 มีนาคม เท่านั้น ในส่วนของ ตร.ก็ปฏิบัติตามคำสั่งรัฐบาลและแผนของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) โดย พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร.สั่งการกำชับตำรวจทุกนายว่าอย่าประมาท ให้เตรียมพร้อมซักซ้อมปฏิบัติตามแผนกรกฎ 52 อย่างเคร่งครัด โดยขณะนี้ตำรวจพร้อม ด้านการเตรียมกำลังและยุทโธปกรณ์ต่างๆ ขณะที่ทุกพื้นที่และทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องก็ระดมกำลังในการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจสถานการณ์ และร่วมชุมนุมโดยสงบและให้เข้าใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งอาจกระทบต่อความสะดวกสบายในการสัญจรเดินทางของประชาชนทั่วไป รวมถึงผู้ชุมนุม โดยผ่านช่องทางสื่อสารทุกทางเช่นสถานนีวิทยุ 44 คลื่นของ ตร.และผู้นำชุมชนและองค์การท้องถิ่นต่างๆ และนับจากวันนี้เป็นต้นไปจนกระทั่งสิ้นสุดการชุมนุม จะมีการประชุมโฆษกทุกหน่วยและแถลงข่าวผ่านระบบทางไกลทุกวัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่การแถลงข่าวระบบทางไกลโดยโฆษกทุก บช.นั้น พบว่า ทุก บช.พื้นที่ มีความพร้อมในการรับมือการชุมนุม โดยยึดแผนกรกฎ 52 และทุกหน่วยได้ทำมวลชนสัมพันธ์ ประชาสัมพันธ์ข่าวสารการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจและให้ประชาชนร่วมชุมนุมโดยสงบ อาทิ บช.น.จะมีการทำแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์ขนาดใหญ่ 3 ป้ายติดบริเวณทางด่วนยมราช มีการพิมพ์ใบปลิว 20,000 บาท ออกแจกจ่ายตามชุมชน อาทิ สถานีขนส่งหมอชิต สถานีขนส่งสายใต้ และสถานีรถไฟหัวลำโพง ขณะที่ บช.ภ.5 ซึ่งคุมพื้นที่ภาคเหนือตอนบน มีการประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนเพื่อหยุดยั้งการนำพาภาชนะบรรจุน้ำมันมาร่วมชุมนุมใหญ่ที่ กทม.ตามที่มีการปลุกระดมผ่านวิทยุชุมชุนในพื้นที่ นอกจากนี้ บช.ภ.5 ยังตั้งจุดสกัดตรวจค้นการนำพาภาชนะบรรจุน้ำมันดังกล่าวด้วย ขณะที่ บช.ภ.1 ซึ่งคุมพื้นที่ปริมณฑล ก็ยืนยันว่า จะมีการตั้งจุดตรวจและเหนี่ยวรั้งผู้ชุมนุมไม่ให้เข้ามา กทม.ให้ได้มากที่สุด แต่ถ้าเหลือบ่ากว่าแรงก็ต้องเป็นหน้าที่ บช.น.ที่ต้องรับมือ ขณะที่ บช.ตชด.นั้น เตรียมกำลังสนับสนุนพร้อมไว้ 3 กองร้อย โดยเป็นกองร้อยตำรวจพลร่ม หญิง 1 กองร้อย สามารถเคลื่อนมายัง กทม.ได้ภายใน 4 ชั่วโมง
ด้าน พ.ต.อ.พินิต มณีรัตน์ โฆษก บก.ทล.กล่าวว่า ตำรวจทางหลวงเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของผู้ชุมนุมจากทุกเส้นทางทั่วประเทศที่มุ่งหน้าเข้ามาในกทม.โดยเน้นการตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายที่อาจมีการฉวยโอกาสซุกซ่อนมากับพาหนะต่างๆ และจะตั้งจุดบริการให้ด้วย ขณะที่การใช้รถอีแต๋นบนทางหลวงนั้น ถือว่าผิดกฎหมาย หากมีการนำมาสัญจรก็ต้องจับกุมและยึดไว้ทันที ทั้งนี้ ในช่วงการชุมนุมหากประชาชน มีข้อข้องใจเรื่องเส้นทางสัญจรต่างๆสามารถโทรศัพท์มาได้ที่เบอร์โทร.1193
ขณะที่ พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาท รรท.ผบก.ป.กล่าวถึงการจับกุม พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก พร้อมพวก ซึ่งมี นายพรวัฒน์ ทองสมบูรณ์ หรือ เคทอง ผู้ต้องหาตามหมายจับ ด้วยนั้น ว่าเรื่องนี้ไม่มีใบสั่งแต่ตั้งแต่มีการสืบสวนสอบสวนจับกุม นายพรวัฒน์ กองปราบปรามก็รับนโยบายจาก ตร.ในการติดตามตัวนายพรวัฒน์ การจับได้ครั้งนี้ก็เป็นไปตามปกติ และการที่จับกุมได้ง่ายๆ โดยพบนายพรวัฒน์ ซุกในรถของ พล.ต.ขัตติยะ ขณะเดินทางมาที่ บก.ป.ก็คงเพราะความชะล่าใจของทั้งคู่ เรื่องนี้ไม่มีอะไรซ่อนเร้น ส่วนการจะให้ประกันตัวหรือไม่ขึ้นอยู่ที่ศาลจะใช้ดุลพินิจ
ด้าน พ.ต.อ.กิตติกร บุญสม รองโฆษ บช.ภ.9 กล่าวยอมรับว่า เกิดเหตุมีการงัดคลังอาวุธและลักเอายุทธภัณฑ์ เป็นระเบิดสังหารชนิดขว้างและเครื่องกระสุนจำนวนมากหายไปจากคลังอาวุธ ในค่ายอภัยบริรักษ์ จ.พัทลุง จริงในวันที่ 4 มีนาคม เวลา 18.00 น.โดยมีการแจ้งความไว้ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง ไว้แล้ว โดยทั้งพนักงานสอบสวนและกองวิทยาการได้เข้าไปตรวจที่เกิดเหตุตั้งแต่เย็นวันที่ 4 มีนาคมแล้ว โดยขณะที่กองบังคับการสืบสวน บช.ภ.9 ได้ลงพื้นที่สืบสนแล้ว โดยขณะนี้ยังบอกไม่ได้ว่าเกี่ยวข้องกับการชุมนุมหรือไม่อย่างไร