รักษาราชการแทน ผบ.ตร.(มานาน) ลั่นพร้อมเต็มที่ และพร้อมมานานแล้วในการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง ผบ.ตร.เต็มตัว ส่วนในวันตัดสินคดียึดทรัพย์ประวัติศาสตร์ เชื่อจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น แต่หากมีก็พร้อมดูแลความสงบเรียบร้อยเต็มที่
วันนี้ (24 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ซึ่งอาจมีการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ตัวจริงว่า พรุ่งนี้มีการประชุม ก.ต.ช.จริง แต่ยังไม่มีวาระเพื่อแต่งตั้ง ผบ.ตร.
เมื่อถามว่าพร้อมหรือไม่ หากได้รับการเสนอชื่อเป็น ผบ.ตร. พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า พร้อมอยู่แล้ว เพราะเป็นรักษาการมาตั้งนานแล้ว แต่เป็นแล้ว จะทำให้ทำงานได้ดีขึ้นหรือไม่ ตนไม่ขอตอบดีกว่า เพราะเป็นเรื่องที่ตนมีส่วนเกี่ยวข้อง
ยันวันตัดสินยึดทรัพย์ไร้เหตุรุนแรง
พล.ต.อ.ปทีป ยังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับมือการตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ว่า ประเมินสถานการณ์แล้วยังไม่มีอะไรรุนแรง และมั่นใจว่ากำลังตำรวจ 100% ซ้อมใหญ่ไปแล้วเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะที่การรักษาความสงบเรียบร้อยนั้นมั่นใจ 100% ในส่วนองค์คณะพิพากษาในคดีนี้นั้น ตำรวจดูแลมานานเป็นสัปดาห์แล้ว ส่วนที่ผู้พิพากษา 2 ท่านขอให้ดูแลพิเศษและขออยู่ในเซฟเฮาส์นั้น ท่านจะประสานตรงที่กองบัญชาการนครบาล และกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ซึ่งตนสั่งการไปแล้วว่าหากประสานมาให้ดำเนินการทันที
“ตำรวจเตรียมพร้อมแล้ว เตรียมล่วงหน้ามาเป็นสัปดาห์ และประสานกองทัพไปแล้วว่า หากมีเหตุการณ์รุนแรง กองทัพจะส่งกำลังมาช่วยตำรวจอีกแรง เบื้องต้นมีเพียงกำลังตำรวจที่ควบคุมสถานการณ์และหากเหตุการณ์ไม่ค่อยดี เกินกำลัง จะเรียกทหารมาเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ส่วนที่ออกมาลือว่าเจ้าหน้าที่เตรียมการจะทำรุนแรง หรือการแทรกแซงของมือที่ 3 นั้นยังเป็นเพียงแค่ข่าว อย่างไรก็ตาม การชุมนุมเป็นสิทธิของบุคคล แต่เชื่อว่าคนไทยทุกคนรู้ว่ากรอบอยู่ตรงไหน และหวังว่าความรุนแรงไม่น่าจะเกิดขึ้น ซึ่งตำรวจยึดนโยบายมาใช้ความรุนแรงเด็ดขาด โดยมีขั้นตอนในการปฏิบัติตามกรอบกฎหมาย ขณะเดียวกัน ช่วงนี้เพิ่มความเข้มในการปฏิบัติมีการตั้งด่านในช่วงค่ำ ตั้งจุดสกัดทั่วกทม.โดยตำรวจทหาร สนธิกำลังกัน มีทั้งสายสืบ สายตรวจออกสืบหาข่าวในพื้นที่เพื่อป้องกันเหตุลอบวางระเบิดหรือเหตุต่างๆที่มีการปล่อยข่าวลือกันมากในช่วงใกล้วันตัดสินคดี” พล.ต.อ.ปทีป กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีมีข่าวติดสินบนผู้พิพากษา 5,000 ล้านบาท รรท.ผบ.ตร.กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ถึงขั้นต้องสืบสวนสอบสวนเป็นคดี แต่ให้สันติบาลลงไปตรวจสอบหาข่าวแล้ว ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลอะไร ยังเป็นการข่าว ส่วนข้อมูลจะน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหนยังตอบไม่ได้ ต้องให้สันติบาลไปสืบสวนหาข่าวว่าเรื่องนี้จริงเท็จอย่างไร
เมื่อถามถึงข่าวการระดมมวลชนจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาร่วมชุมนุมใหม่ รรท.ผบ.ตร. กล่าวว่า ยังเป็นแค่ข่าวยังไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร ทั้ง 38 จังหวัดก็พร้อมรับมือทุกสถานการณ์ ขณะนี้ยืนยันตำรวจพร้อม 100% และไม่ใช้กำลัง และจะพยายามดูแลรักษาให้เกิดความสงบ
เผยตำรวจไม่มีจีที 200 ใช้
รรท.ผบ.ตร.ยังกล่าวถึงกรณีเครื่องตรวจวัตถุระเบิดจีที 200 ไม่ได้มาตรฐานว่า ในส่วนของตำรวจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นไม่ได้จัดซื้อเครื่องนี้มาใช้ เพราะไม่มีสตางค์ซื้อ ที่ใช้อยู่ก็ไม่ยืมเขามา ตอนนี้ต้องใช้เครื่องอื่นไปแทน ก็ยังไม่ได้คุยกับทางศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) แต่ทราบว่ามีเครื่องมือที่ตำรวจใช้อยู่ เพื่อลดความเสียงในการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้เท่าที่ตนทราบเครื่องมือตรวจหาวัตถุระเบิดที่ได้ผล 100% ไม่มีอุปกรณ์ตรวจระเบิดเป็นเหมือนเครื่องปฐมพยาบาลเบื้องต้นเท่านั้น แต่เครื่องที่ได้ผลจริงๆ คือเครื่องที่ทหารสงครามใช้ คล้ายเครื่องตัดหญ้า ตนรู้แค่นี้ไม่กล้ารับประกัน