“วรพงษ์” เรียก กก.สมาคมฟุตบอลฯ พร้อมผู้เกี่ยวข้องประชุมตรวจสอบข้อเท็จจริง-กำหนดบทลงโทษ กรณีแฟนบอลการท่าเรือฯ ทำร้ายร่างกายแฟนบอลเมืองทอง-หนองจอก ด้านรอง ผบช.น.ลั่นต้องดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
วันนี้ (22 ก.พ.) ที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะอุปนายกฝ่ายจัดการแข่งขันสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.และคณะผู้บริหารของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เข้าประชุมหารือร่วมกันเกี่ยวกับกรณีที่แฟนบอลของสโมสรฟุตบอลการท่าเรือแห่งประเทศไทย และทีมสโมสรฟุตบอลเมืองทองหนองจอก ยูไนเต็ด ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันขณะแข่งขันชิงถ้วยพะราชทาน ประเภท ก.จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดภายในสนามศุภชลาศัย เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยใช้ระยะเวลาในการประชุมร่วมกันนานกว่า 3 ชั่วโมง
พล.ต.ท.วรพงษ์ เปิดเผยหลังการประชุมว่า วันนี้การดำเนินการของคณะกรรมการ คือได้นำเทปที่ขอจากสื่อมวลชนมาพิจารณา จนทำให้เห็นเหตุการณ์ในหลายแง่หลายมุม แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังดูเทปกันไม่หมดเนื่องจากมีจำนวนมาก จึงสามารถดูและตัดสินใจได้ในภาพกว้างๆ หรือในเบื้องต้นเท่านั้น ส่วนการพิจารณานั้นแบ่งได้เป็น 2 ส่วน ก็คือ ในส่วนของการดำเนินคดีตามกฎหมาย ได้เชิญ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.เข้ามาเป็นตัวแทนในที่ประชุมด้วย
อีกส่วนคือการพิจารณาการกระทำความผิดต่อระเบียบของสมาคมฯ เกี่ยวกับมารยาทและในกรณีเร่งด่วนเนื่องจากว่าในวันที่ 24 ก.พ.ที่จะถึงนี้ ทีมการท่าเรือ จะมีการแข่งขันกับทีมดานัง เราจึงมีมติให้ลงโทษทีมการท่าเรือ ด้วยการไม่ให้กองเชียร์เข้าไปชม ส่วนทีมดานังนั้นสามารถปล่อยกองเชียร์เข้าไปชมได้ ในสิ่งที่ต้องพิจารณากันต่อไปคือมาตรการรักษาความปลอดภัยในกรณีที่อาจมีกองเชียร์ของการท่าเรือแฝงตัวเข้าไปชม อันนั้นทางสมาคมฯ จะดำเนินการขอกำลังตำรวจจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ช่วยเข้ามาดูแลเรื่องความปลอดภัย
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวต่อว่า จากการที่ได้ดูเทปยังพบว่ามีผู้กระทำผิดมารยาทของสมาคมฯในอีกหลายส่วน ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณาอีกครั้ง ดังนั้นวันนี้จึงมีมติกันแค่เรื่องเดียวคือเรื่องการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 ก.พ.นี้ ส่วนการแข่งขันนัดต่อๆ ไปเราจะต้องเพิ่มมาตรการป้องกันผู้ชมให้ดี เพราะหากเกิดเหตุการณ์บานปลายขึ้นมาแล้ว จะใช้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมากแค่ไหนก็คงเอาไม่อยู่ อย่างไรก็ตามในหลักรักษาความปลอดภัยมันจะต้องมานั่งวาดภาพกันว่า ทุกเหตุการณ์อาจเกิดความรุนแรงได้ถึงในขั้นสูงสุด ต้องวางกำลังป้องกันเอาไว้ให้สูงสุดตามหลักการนั้น การจัดกำลังรักษาความปลอดภัยต้อทำให้มีลักษณะเป็นหมวดหมู่ เป็นกองร้อย และมีหัวหน้าผู้ควบคุมที่ชัดเจน สามารถสั่งกำลังได้เหมือนอย่างการวางกำลังควบคุมฝูงชนของตำรวจ
ดังนั้นต่อจากนี้จะต้องมีการเพิ่มอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ให้มากขึ้นเช่น เครื่องวอล์กทู และเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ควรจะต้องมีทุกสนาม ส่วนเรื่องที่มีการสอบถามกันว่าเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารทำอะไรกันอยู่นั้น เท่าที่เราดูจากเทปจะเห็นได้ว่าสารวัตรทหารก็ได้ใช้ความพยายามที่จะระงับเหตุอย่างเต็มที่แล้ว แต่อารมณ์ของม็อบนั้นจะรุนแรงกว่าคนปกติหลายเท่านัก กำลังที่กระจัดกระจายของเจ้าหน้าที่ที่ไม่ได้อยู่กันเป็นหมวดหมู่ก็จะยับยั้งลำบาก
ด้าน พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า ในเหตุการณ์ดังกล่าวมีกลุ่มผู้ก่อเหตุหลายคนขณะนี้ตำรวจมีภาพทั้งหมดแล้ว ส่วนผู้เสียหายเราสามารถสอบปากคำได้ทั้งหมดแล้วรวมทั้งสิ้น 9 คน เป็นกองเชียร์ของทีมเมืองทอง 8 คน อีก 1 คนเป็นกองเชียร์ของทีมท่าเรือเอง สำหรับการทำร้ายร่างกายที่ทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บธรรมดาไม่สาหัส จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี แต่ถ้าหากผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัสผู้ก่อเหตุจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี โดยหลังจากที่ทางพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเป็นที่เรียบร้อยจนปรากฏชื่อผู้ต้องหาออกมาแล้ว ก็จะออกหมายเรียกให้มามอบตัว ถ้าไม่มาก็จะต้องออกหมายจับต่อไป
ในส่วนของมารยาทและวินัยในการแข่งขันฟุตบอลต่อจากนี้ เป็นหน้าที่ของทางสมาคมฯ เป็นผู้กำหนดบทลงโทษต่างๆ แต่ทางตำรวจเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย ไม่ว่าใครที่ก่อเรื่องไปทำร้ายบุคคลอื่นก็จะต้องถูกดำเนินคดีซึ่งเรื่องนี้จะต้องทำไปตามหน้าที่ด้วยความเฉียบขาดเพราะไม่อย่างนั้นภาพรวมของกีฬาไทยก็จะเสื่อมเสียเนื่องจากกองเชียร์ขาดวินัย อย่างไรก็ตามคาดว่า 2-3 นี้น่าจะมีการออกหมายเรียกได้
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อว่า ได้นำเสนอต่อทางผู้บริหารของสมาคมฯ ในที่ประชุมไปแล้วว่า สิ่งที่สำคัญคือเรื่องแฟนบอลเมาสุราในสนามกีฬา เรื่องการเล่นพลุดอกไม้ไฟ เมื่อมีการลักลอบนำสิ่งเหล่านี้เข้าไปในสนาม โดยหวังผลว่า จะนำไปใช้เฉลิมฉลองหากทีมของตัวเองชนะ แต่ภาพที่ออกมาคือเมื่อทีมตัวเองแพ้กลับนำมาใช้อีกอย่างคือจุดพลุลงไปในสนาม ดังนั้นหลังจากนี้ก็คงต้องห้ามมิให้นำสุราและดอกไม้ไฟเข้าไปในสนามกีฬา เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ปลอดภัยต่อกลุ่มคน อีกอย่างคือเรื่องคนเมาจากที่อื่นแล้วเข้าไปชมกีฬาในสนาม ในอนาคตก็จะต้องควบคุมด้วยการนำเครื่องตรวจแอลกอฮอล์มาประจำเอาไว้ ยืนยันว่าไม่ใช่มาตรการแบบวัวหายแล้วล้อมคอก เพราะว่ายังมีวัวเหลืออยู่อีกหลายตัว ที่ผ่านมาเคยลองทำกันมาแล้ว และที่ผ่านมาก็ไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในหมู่กองเชียร์ชาวไทย เมื่อการกีฬากำลังไปได้ดีกองเชียร์ก็เริ่มจะมีทีมที่ตัวเองรัก จึงได้เริ่มเชียร์กันด้วยความดุเด็ดเผ็ดมันส์มากยิ่งขึ้น เราจึงต้องเพิ่มมาตรการความเข้มมากขึ้นไปอีก
“ส่วนเรื่องกำลังของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในสนามนั้นในส่วนของตำรวจคงไม่มีมากพอที่จะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่สมมุติว่ามีแฟนบอลพากันมาเชียร์ประมาณ 30,000 คน เราจะต้องแก้ปัญหาด้วยการใช้มาตรการเชิงรุก เช่น ต้องจัดให้กองเชียร์ของ 2 ทีม จะต้องอยู่ห่างกันอยู่คนละอัฒจันทร์กัน และควบคุมในเรื่องของการยั่วยุหรือด่าทอกัน โดยการแข่งขันในครั้งหน้าผมได้เสนอให้ใช้เครื่องปราบจราจลที่ใช้สัญญาณเสียง และเตรียมรถดับเพลิง ตลอดจนกำลังของเจ้าหน้าที่มาเพิ่มเติมในอีกระดับหนึ่ง นอกจากนี้ยังต้องขอกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงมาเตรียมไว้ทำการตรวจค้นแฟนบอลหญิงด้วย” พล.ต.ต.อำนวย กล่าว
ขณะที่ นายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า การแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานทางสมาคมฯ จะดำเนินการอย่างไร นายองอาจ ตอบว่า ทางสมาคมฯ กำลังดำเนินการร่างหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษ แต่คงต้องใช้เวลาในการตรวจทานข้อความในหนังสือเพราะที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้มาก่อน ซึ่งเราจะต้องส่งรายละเอียดเหตุการณ์ให้พระองค์ท่านได้รับทราบด้วย ส่วนในเรื่องของบทลงโทษนั้นเร็วๆ นี้จะเชิญผู้แทนจากสโมสรฟุตบอลทั้ง 2 ทีม เข้ามาพูดคุยกับคณะกรรมการของสมาคมฯ แบบต่างกรรมต่างวาระไม่ให้มาพร้อมกัน และจะต้องดูหลักเกณฑ์ตามระเบียบของเอเอฟซี และฟีฟ่าเป็นหลัก โดยผลบังคับก็จะต้องทำต่อเนื่องไปจนถึงฟุตบอลไทยในลีกอื่นๆ ทั้งหมด
แต่เท่าที่ดูเทปวันนี้ผมต้องขอชื่นชมผู้เล่นของทั้ง 2 ทีม ที่ไม่ได้มีการซ้ำเติมหรือทำตัวเป็นมูลเหตุจูงใจให้เรื่องราวต่างๆ รุนแรงไปมากกว่านี้ทำให้สถานการณ์ต่างๆ สามารถจบลงโดยเร็ว แต่เรื่องที่ชัดเจนคือการดำเนินการตามกฎหมายกับเหล่ากองเชียร์ที่ร่วมกันก่อเหตุ ทั้งในเรื่องของการเมาสุราอาละวาด การทำร้ายร่างกายกัน และ การนำพลุเข้ามาจุดในสนาม ส่วนเรื่องการงดใช้สนามฟุตบอลของทีมการท่าเรือเป็นสังเวียนทีมเหย้านั้นกำลังพิจารณาอยู่ ซึ่งจะต้องขอเวลาทำงานและพูดคุยกันก่อนเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลเสียกระทบไปถึงหลายภาคส่วน
"ตามหลักแล้วหลังเกิดเหตุจะต้องปิดสเตเดียมไปเลยตามกฎของเอเอฟซี และฟีฟ่า แต่การแข่งขันนัดต่อไปของทีมการท่าเรือกับทีมดานังนั้น เราจะไปปิดกั้นแฟนบอลของทีมดานังไม่ได้ ดังนั้นการจำหน่ายบัตรนัดนี้จะมีการขายกันที่สมาคมฯ และจะมีการตรวจสอบในเรื่องของการจัดการแข่งขันกันอย่างละเอียด อีกทั้งต่อไปนี้ทางสมาคมจะรณรงค์ให้แฟนบอลเข้าใจถึงกฎกติกาและมารยาทในการชมฟุตบอลแต่ละสนามผ่านทางเว็บไซต์ และจะต้องเพิ่มมาตรการการรักษาความปลอดภัยให้เข้มข้นขึ้นไปอีกในลีกต่อไป โดยจะเน้นหนักเรื่องการห้ามไม่ให้ผู้ชมกระโดดลงไปในสนาม โดยเฉพาะสนามศุภชลาศัย ที่เป็นสนาม 2 ชั้น ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ทางเอเอฟซีและฟีฟ่า ก็ยังรับรองให้มีการจัดการแข่งขันแมตช์และทัวร์นาเม้นท์ต่างๆในสนามได้หลายครั้งแล้ว แต่กลับมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ซึ่งหลังเกิดเรื่องทางเอเอฟซีและฟีฟ่า ก็มีหนังสือส่งมาแสดงให้เห็นว่าเค้ากำลังจับตาดูพฤติกรรมของเราอยู่” นายองอาจ กล่าว