บช.ก.แถลงจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทร.หลอกเงินประชาชนผ่านเอทีเอ็ม พบมีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 47 ล้านบาท มีประชาชนถูกหลอกเปิดบัญชีกว่า 1 พันคน
วันนี้ (9 ก.พ.) เวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ ผบก.ปอศ. พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผบก.ทท.ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายมาร์ติน อารามิ อายุ 37 ปี สัญชาติอิหร่าน นายเจริญชัย กิจพิมลกุล อายุ 31 ปี นายอัยเดช โออนุรักษ์ อายุ 54 ปี ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน, มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ อันเป็นการกระทำเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการ หรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสดหรือใช้เบิกถอนเงินสด พร้อมของกลาง บัตรเอทีเอ็มรวม 19 ใบ เงินสด 2.7 แสนบาท สลิปใบบันทึกรายการเบิกเงิน และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกียจำนวน 3เครื่อง โดยสามารถจับกุมได้เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.ไถง กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากกลุ่มคนร้ายมีการจัดตั้งศูนย์ call center ในต่างประเทศ แล้วใช้ระบบโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต สุ่มหมายเลขโทรศัพท์โทรเข้ามาหลอกลวงประชาชนชาวไทย อ้างว่ามีหนี้ให้ไปตรวจสอบ หรือทำให้เหยื่อหลงเชื่อว่าได้รับเงินคืนจากสรรพากร จากนั้นคนร้ายจะพาเหยื่อไปที่ตู้เอทีเอ็ม เพื่อโอนเงินเข้าบัญชีที่จ้างให้กลุ่มบุคคลในประเทศไทยเปิดไว้ โดยหลังจากเปิดบัญชีแล้วบุคคลเหล่านั้นก็จะส่งมอบบัตรเอทีเอ็มให้คนร้าย จากการสืบสวนจากผู้เสียหายทราบว่า กลุ่มคนร้ายจะตระเวนถอนเงินตามตู้เอทีเอ็มต่างๆ จึงได้ออกติดตามจนกระทั่งเมื่อวันที่ 4 ก.พ.สามารถจับกุมนาย เซี๊ยะ หย่ง ถ่ง ได้ขณะกดเอทีเอ็มที่ห้างสรรพสินค้า ย่านปทุมวัน พร้อมของกลางบัตรเอทีเอ็ม และสลิปบันทึกรายการเบิกเงินจำนวนมาก จากการสอบสวนขยายผลสามารถจับกุมผู้ต้องหาร่วมขบวนการจำนวน 3 คน ส่วนอีก 2 คนหลบหนีไปได้ ทราบชื่อคือ นางมลีจันทร์ ละคร และน.ส.ปรานอม แซ่โม เบื้องต้นได้ขออนุญาตศาลออกหมายจับแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะเร่งติดตามตัวต่อไป
พล.ต.ท.ไถง กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนทราบว่า ประชาชนที่ถูกจ้างให้เปิดบัญชีได้ค่าจ้างประมาณ 1,500-2,500 บาท หลังจากเปิดบัญชีเสร็จก็จะมอบบัตรเอทีเอ็มให้นายเซี๊ย หย่ง ถง ก่อนที่จะนำไปโอนเงินให้ผู้ต้องหาที่ถูกจับทั้ง 3 คนต่อไป ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่ามีประชาชนที่ถูกจ้างเปิดบัญชีจำนวน 1,000 กว่าคน ขอเตือนว่าบุคคลที่เปิดบัญชีให้ขบวนการนี้จะถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันหลอกลวงประชาชน ใครที่รู้ตัวว่าถูกหลอกให้เปิดบัญชี ให้มาแจ้งความไว้จะได้ไม่ถูกดำเนินคดี ซึ่งขณะนี้มีผู้มาแจ้งความไว้บ้างแล้ว ในส่วนของนายมาร์ติน นั้นมีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 47 ล้านบาท ในช่วงระยะเวลา 1 ปี ที่ผ่านมา สำหรับทรัพย์สินทั้งหมด จะถูกยึดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน
“ฝากเตือนประชาชนให้ระวังการหลอกลวง อย่าหลงเชื่อเป็นอันขาด อย่าไปทำรายการที่ตู้เอทีเอ็มเนื่องจากวิธีการแบบนี้ทางราชการและธนาคารไม่ทำเด็ดขาด ถ้าเห็นชาวใต้หวัน หรือชาวจีน ยืนทำรายการที่ตู้เอทีเอ็มนานๆช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ไปตรวจสอบดูเพราะแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้ส่วนใหญ่จะเปิดที่ประเทศใต้หวันหรือประเทศจีนแล้วโทรมาหลอกคนไทย ในส่วนของเมืองไทยก็มีต่างประเทศมาเปิดคอลเซ็นเตอร์เช่นเดียวกันและโทร.ไปหลอกประชาชนในต่างประเทศ” พล.ต.ท.ไถง กล่าว