ตร.ท่องเที่ยวรวบ 2 สาวมาเลย์เที่ยวตระเวนใช้บัตรเครดิตปลอมรูดซื้อสินค้าตามห้างหรูกลางกรุง ตรวจค้นพบบัตรเครดิตปลอม 19 ใบและสินค้าที่ผู้ต้องหารูดซื้อไปก่อนหน้า เผยเป็นเครือข่ายใหญ่ที่มีนายอามันชาวมาเลย์เป็นผู้นำมามอบให้
วันนี้ (15 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รองผบช.ก.หัวหน้าศูนย์สืบสวนปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและอาชญากรรมบัตรอิเล็กทรอนิกส์ บช.ก. พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผบก.ทท. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง ผกก.1 บก.ทท. พ.ต.ท.พันธนะ นุชนารถ รอบผกก.1 บก.ทท. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม น.ส.ชิน เสี่ยว เคน (Ms.Chin Siew Ken) อายุ 39 ปี สัญชาติมาเลเซีย น.ส.หวัง เฟ่ย ยิง (Ms.Wang Fai Ying ) อายุ 32 ปี สัญชาติมาเลเซีย พร้อมของกลางบัตรอิเล็กทรอเล็กส์ จำนวน 19 ใบ ใบบันทึกรายการขายบริษัทโซนี่ไทย สำหรับลูกค้าและร้านค้า จำนวน 1 ใบ เป็นเงิน 59,900 บาท คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กยี่ห้อโซนี่ รุ่นไวโอ จำนวน 1 เครื่อง หนังสือเดินทางประเทศจีนและฮ่องกง โดยแจ้งข้อหาให้หรือมีไว้เพื่อนำออกใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์โดยรู้ว่าเป็นของที่ทำปลอมหรือแปลงขึ้นโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ใช้หรือมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งหนังสือเดินทางปลอม และเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
พล.ต.ท.ไถง กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้รับแจ้งจากทางธนาคารว่ามีคนร้ายชาวต่างชาตินำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม มาใช้ซื้อสินค้าบริเวณศูนย์การค้าสยามพารากอนที่ร้านโซนี่ไทย เมื่อวันที่ 14 ม.ค. เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปตรวจสอบพบผู้ต้องหาทั้งสองคนกำลังซื้อคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กยี่ห้อโซนี่ ราคา 59,900 บาท โดยใช้บัตรเครดิตชำระเงินค่าสินค้าและออกจากร้านด้วยท่าทางรีบร้อน จึงได้แสดงตัวเข้าไปตรวจสอบพบบัตรเครดิตปลอมจำนวน 19 ใบ และหนังสือเดินทางปลอมของประเทศจีนและฮ่องกง ซึ่งจากการสืบสวนขยายผลพบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ร่วมกันนำบัตรเครดิตและหนังสือเดินทางปลอมมาซื้อสินค้าหลายแห่งทั้งเกษรพลาซ่า เซ็นทรัลเวิลด์มาหลายครั้ง สร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก นับเป็นเครือข่ายที่ใหญ่โดยมีชาวมาเลเซียชื่ออามัน เป็นผู้นำบัตรเครดิตและหนังสือเดินทางปลอมมามอบให้
พล.ต.ท.ไถง กล่าวต่อว่า ปัจจุบันศูนย์สืบสวนปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและอาชญากรรมบัตรอิเล็กทรอนิกส์ได้เร่งรัดดำเนินการสืบสวนปราบปรามกลุ่มคนร้ายที่ก่ออาชญากรรมข้ามชาติ อย่างต่อเนื่อง เพราะพบว่ามีกลุ่มคนร้ายแก๊งชาวต่างชาติเข้ามาก่อเหตุโดยนำบัตรเครดิต บัตรเอทีเอ็มปลอมมาใช้ในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีแก๊งชาวต่างชาติที่ฉ้อโกงประชาชนด้วยการโทรศัพท์หลอกลวง ลักลอบมาตั้งศูนย์คอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้โอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนและระบบเศรษฐกิจมูลค่าหลายพันล้านบาท