ทันทีที่ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. สไลด์มานั่งแท่น "น.1" คุมตำรวจแดนศิวิไลซ์ในกรุงเทพมหานคร ก็รีบงัดไม้เด็ด! วางมาตรการดุ! ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้ง บก.1-9 และหน่วยสนับสนุนเร่งสนองนโยบายอย่างเร่งด่วน...
ประเดิมออกคำสั่งให้นายตำรวจระดับ “ผู้กำกับการ” ยัน “นายสิบชั้นประทวน” พกอาวุธปืนและวิทยุสื่อสารติดตัวตลอดเวลาขณะปฏิบัติหน้าที่ ไม่เว้นแม้แต่ “พนักงานสอบสวน” ที่ในอดีตมีแค่กล้องถ่ายรูปกับสมุดบันทึกสภาพที่เกิดเหตุ เดินดุ่ยๆ ขึ้นรถตราโล่ห์ออกจากโรงพักไปทำงาน
ทั้งนี้เพื่อเป็นการ “ปลุกผี” จุดไฟในกาย “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” ให้พร้อมที่จะบริการประชาชนและพร้อมเผชิญเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา!!!
ล่าสุด “น.1” ได้มีคำสั่งให้ทุก บก.น.ทำรายงานสถิติการจับกุมขึ้นมา เพื่อนำเสนอเข้าในที่ประชุมสรุปผลงานปราบปรามประจำเดือน ผู้นำหน่วยคนใดขยันกวดขันให้ลูกน้องทำงานจนได้ “แชมป์” หรือคนไหนเอาแต่นั่งในห้องแอร์ ทำตัว “เฉื่อย” ปล่อยปละละเลยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทำงานแบบสะเปะสะปะ ก็จะได้ทราบผลกันทันทีในที่ประชุมต่อหน้า ผบช.น.
ตลอดทั้งเดือน ธันวาคม 2552 ข้าราชตำรวจสังกัด บก.น.9 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว คว้าแชมป์ในการจัดอันดับประเมินผลการป้องกันปราบปรามระดับกองบังคับการ ไปด้วยคะแนนมากถึง 133 คะแนน ส่วนโรงพักที่มีผลงานป้องกันปราบปรามสูงสุดคือ สน.บางขุนเทียน (สังกัด บก.น.9) คว้าแชมป์ไปได้ด้วยยอดรวม 152 คะแนน
พล.ต.ต.กรีรินทร์ ลุกจากเก้าอี้ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี มานั่งโต๊ะม้าหิน “ผบก.น.9” แค่ 3 เดือน ก็ทำผลงานนำพาหน่วย “เข้าวิน” ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ บก.น.9 มีผลการจับกุมผู้ต้องหาคดีค้างเก่าอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่ามาตรฐาน หากอันดับกันก็จะอยู่แถวท้ายๆ ตารางมาโดยตลอด!?!
ความสำเร็จนี้สัมฤทธิ์ผลได้จากนโยบายการบริหารแบบถึงลูกถึงคน ภายใต้หลักการที่ว่า “ประชาชนมั่นใจ ประเทศไทยมั่นคง คือวัตถุประสงค์ของเรา” ผนวกกับโครงการเด่น “จับทันควัน จ่ายทันที 24 ชั่วโมง” ที่ พล.ต.ต.กรีรินทร์ อุตส่าห์หอบหิ้วจากปัตตานี มาต่อยอดทำให้ตำรวจที่ บก.น.9 แค่ 3 เดือนที่ผ่านมา จึงควักกระเป๋าจ่ายให้ผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีผลการจับกุมตามหลักเกณฑ์การรับรางวัลไปแล้ว 237 คดี รวมเงินรางวัลทั้งสิ้น 754,500 บาท
หลายคนอาจงวยงง เกิดคำถามขึ้นในใจว่าทำไม??? “เจ้าสัว ทันควัน” ถึงหน้าใหญ่ ใจป้ำ กล้าแจกเงินให้ลูกน้องอย่างมากมายขนาดนี้! เจ้าตัวตอบได้ทันทีเช่นกัน “เรื่องเงินที่เอามาแจกลูกน้องเป็นทรัพย์ส่วนตัวที่ทางครอบครัวยินดีเจียดมาให้ ประกอบกับได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนๆ ภาคเอกชนที่เล็งเห็นความสำคัญของโครงการฯ สมัยอยู่ที่ปัตตานี เพื่อนๆ เหล่านี้จึงช่วยส่งเงินไปบำรุงขวัญข้าราชการตำรวจที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่มากถึง 340,000 บาท หากรวมสิ่งของเครื่องใช้อื่นๆ ที่ขนไปช่วยเหลือทั้งเสื้อผ้า อาหาร และอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็น ก็มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 4,000,000บาท!”
สรุปคือเป็นโครงการบำรุงขวัญตำรวจ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน!
ในส่วนของนโยบายที่ พล.ต.ต.กรีรินทร์ วางกรอบเอาไว้ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่ง ผบก.น.9 พร้อมกวดขันให้ผู้ใต้บังคับบัญชาปฏิบัติตามอย่างเข้มงวด จนคว้าตำแหน่งแชมป์ ด้านการป้องกันปราบปรามระดับกองบังคับการประจำเดือน ธันวาคม 2552 ซึ่งทีมข่าว ASTV ผู้จัดการ อยากนำมาประชาสัมพันธ์ให้ บก.น.อื่นๆ รับทราบพอเป็นแนวทาง ก็คือ
มาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมเชิงรุก ด้วยการกวดขันให้ตำรวจตั้งจุดตรวจจุดสกัด ปิดล้อมตรวจค้นจับกุมอย่างเป็นรูปธรรมมีเป้าหมายชัดเจนเน้นประสิทธิภาพ, การจัดทำบัญชีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรม และสั่งการให้ตำรวจเข้าตรวจค้นอู่ซ่อมรถต้องสงสัยอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องปรามไม่ให้กลายเป็นแหล่งชำแหล่ะหรือดัดแปลงสภาพรถของกลาง, เร่งทำการตรวจและยึดรถต้องสงสัยทุกคันเพื่อนำไปตรวจหาข้อมูลในระบบ Polis โดยดำเนินการด้วยความชัดเจนในทุกขั้นตอน, เร่งแสวงหาความร่วมมือจากภาคประชาชนเพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสาร และดำเนินยุทธการทำคนน้อยให้เป็นคนมาก ตลอดจนมอบความรู้ด้านการป้องกันอาชญากรรมให้กับชาวบ้านก่อนเชื้อเชิญให้ทุกภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกับตำรวจด้วยความเต็มใจ
มาตรการการเร่งตัดปัจจัยที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ทำได้โดยการเพิ่มความถี่ของวงรอบการออกตรวจตามจุดล่อแหลมต่อการเกิดอาชญากรรม พร้อมเร่งประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบให้ช่วยติดไฟส่องสว่างตามตรอก ซอก ซอย ให้เพียงพอ และจัดกำลังชุดสืบสวนนอกเครื่องแบบเข้าซุ่มโป่งตามจุดเหล่านี้เพื่อความรวดเร็วในการระงับเหตุหรือเข้าจับกุมคนร้ายได้อย่างทันท่วงทีเมื่อเกิดสถานการณ์ไม่คาดฝัน
มาตรการสืบสวนหาข่าวอย่างมืออาชีพ กำชับให้กองกำกับการสืบสวนเป็นกำลังหลักในการสืบสวนหาข่าวเกี่กับข้อมูลคนร้ายข้ามชาติ กลุ่มแก๊งต่างๆ รวมทั้งแรงงานต่างด้าวไว้อย่างมีระบบ ตลอดจนติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งขึ้นภายในประเทศ โดยต้องจัดระบบข้อมูลให้สามารถนำมาวิเคราะห์และหาแนวทางแก้ไขได้ทันที ส่วนชุดสืบสวนของสถานีตำรวจต้องศึกษาข้อมูลที่ทันสมัยคอยติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลที่เป็นอันตราย และสามารถเข้าจับกุมได้ทันทีหากกลุ่มเป้าหมายลงมือก่อเหตุ
มาตรการด้านกฎหมายและสอบสวน ทำการฝึกอบรมพนักงานสอบสวนให้มีความแตกฉานในข้อกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง จนเกิดความชำนาญตลอดจนปลูกฝังจิตสำนึกการให้บริการประชาชน ขณะเดียวกันต้องเร่งรัดสืบสวนสอบสวนคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญและคดีค้างเก่า ให้มีความคืบหน้า โดยยึดถือหลักที่ว่าหากคดีใดไม่รู้ตัวผู้กระทำผิดต้องทำให้รู้ตัวให้ได้ ส่วนคดีที่รู้ตัวผู้กระทำความผิดต้องนำไปสู่การออกหมายจับและติดตามจับกุมมาดำเนินคดีให้ได้ทุกราย นอกจากนี้การสร้างความสัมพันธ์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับพนักงานสอบสวน ทั้งอัยการ ศาล ทนายความ ราชทัณฑ์ แพทย์ ฯลฯ เป็นสิ่งที่ต้องกระทำอย่างต่อเนื่อง
พล.ต.ต.กรีรินทร์ ให้ความสำคัญกับงานทุกด้านด้วยการกำหนดนโยบายเดินหน้าไปพร้อมๆ กัน ทั้งการป้องกันปราบปราม การสืบสวน และการสอบสวน โดยมี “โครงการจับทันควัน จ่ายทันที 24 ชั่วโมง” เป็นแรงจูงใจให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทำงานแข่งขันกันเองด้วยความสนุกสนานกับ “งานพิทักษ์สันติราษฎร์”
นับถอยหลังไปไม่กี่วันข้างหน้า “น.1” ก็จะเรียก “ผบก.น.1-9” เข้าประชุมสรุปผลงานปราบปรามประจำเดือน มกราคม 2553 อีกแล้ว! จับตาดูให้ดีว่า บก.น.9 จะสามารถรักษาแชมป์ได้หรือไม่!?!
ประเดิมออกคำสั่งให้นายตำรวจระดับ “ผู้กำกับการ” ยัน “นายสิบชั้นประทวน” พกอาวุธปืนและวิทยุสื่อสารติดตัวตลอดเวลาขณะปฏิบัติหน้าที่ ไม่เว้นแม้แต่ “พนักงานสอบสวน” ที่ในอดีตมีแค่กล้องถ่ายรูปกับสมุดบันทึกสภาพที่เกิดเหตุ เดินดุ่ยๆ ขึ้นรถตราโล่ห์ออกจากโรงพักไปทำงาน
ทั้งนี้เพื่อเป็นการ “ปลุกผี” จุดไฟในกาย “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” ให้พร้อมที่จะบริการประชาชนและพร้อมเผชิญเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา!!!
ล่าสุด “น.1” ได้มีคำสั่งให้ทุก บก.น.ทำรายงานสถิติการจับกุมขึ้นมา เพื่อนำเสนอเข้าในที่ประชุมสรุปผลงานปราบปรามประจำเดือน ผู้นำหน่วยคนใดขยันกวดขันให้ลูกน้องทำงานจนได้ “แชมป์” หรือคนไหนเอาแต่นั่งในห้องแอร์ ทำตัว “เฉื่อย” ปล่อยปละละเลยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทำงานแบบสะเปะสะปะ ก็จะได้ทราบผลกันทันทีในที่ประชุมต่อหน้า ผบช.น.
ตลอดทั้งเดือน ธันวาคม 2552 ข้าราชตำรวจสังกัด บก.น.9 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว คว้าแชมป์ในการจัดอันดับประเมินผลการป้องกันปราบปรามระดับกองบังคับการ ไปด้วยคะแนนมากถึง 133 คะแนน ส่วนโรงพักที่มีผลงานป้องกันปราบปรามสูงสุดคือ สน.บางขุนเทียน (สังกัด บก.น.9) คว้าแชมป์ไปได้ด้วยยอดรวม 152 คะแนน
พล.ต.ต.กรีรินทร์ ลุกจากเก้าอี้ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี มานั่งโต๊ะม้าหิน “ผบก.น.9” แค่ 3 เดือน ก็ทำผลงานนำพาหน่วย “เข้าวิน” ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ บก.น.9 มีผลการจับกุมผู้ต้องหาคดีค้างเก่าอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่ามาตรฐาน หากอันดับกันก็จะอยู่แถวท้ายๆ ตารางมาโดยตลอด!?!
ความสำเร็จนี้สัมฤทธิ์ผลได้จากนโยบายการบริหารแบบถึงลูกถึงคน ภายใต้หลักการที่ว่า “ประชาชนมั่นใจ ประเทศไทยมั่นคง คือวัตถุประสงค์ของเรา” ผนวกกับโครงการเด่น “จับทันควัน จ่ายทันที 24 ชั่วโมง” ที่ พล.ต.ต.กรีรินทร์ อุตส่าห์หอบหิ้วจากปัตตานี มาต่อยอดทำให้ตำรวจที่ บก.น.9 แค่ 3 เดือนที่ผ่านมา จึงควักกระเป๋าจ่ายให้ผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีผลการจับกุมตามหลักเกณฑ์การรับรางวัลไปแล้ว 237 คดี รวมเงินรางวัลทั้งสิ้น 754,500 บาท
หลายคนอาจงวยงง เกิดคำถามขึ้นในใจว่าทำไม??? “เจ้าสัว ทันควัน” ถึงหน้าใหญ่ ใจป้ำ กล้าแจกเงินให้ลูกน้องอย่างมากมายขนาดนี้! เจ้าตัวตอบได้ทันทีเช่นกัน “เรื่องเงินที่เอามาแจกลูกน้องเป็นทรัพย์ส่วนตัวที่ทางครอบครัวยินดีเจียดมาให้ ประกอบกับได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนๆ ภาคเอกชนที่เล็งเห็นความสำคัญของโครงการฯ สมัยอยู่ที่ปัตตานี เพื่อนๆ เหล่านี้จึงช่วยส่งเงินไปบำรุงขวัญข้าราชการตำรวจที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่มากถึง 340,000 บาท หากรวมสิ่งของเครื่องใช้อื่นๆ ที่ขนไปช่วยเหลือทั้งเสื้อผ้า อาหาร และอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็น ก็มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 4,000,000บาท!”
สรุปคือเป็นโครงการบำรุงขวัญตำรวจ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน!
ในส่วนของนโยบายที่ พล.ต.ต.กรีรินทร์ วางกรอบเอาไว้ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่ง ผบก.น.9 พร้อมกวดขันให้ผู้ใต้บังคับบัญชาปฏิบัติตามอย่างเข้มงวด จนคว้าตำแหน่งแชมป์ ด้านการป้องกันปราบปรามระดับกองบังคับการประจำเดือน ธันวาคม 2552 ซึ่งทีมข่าว ASTV ผู้จัดการ อยากนำมาประชาสัมพันธ์ให้ บก.น.อื่นๆ รับทราบพอเป็นแนวทาง ก็คือ
มาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมเชิงรุก ด้วยการกวดขันให้ตำรวจตั้งจุดตรวจจุดสกัด ปิดล้อมตรวจค้นจับกุมอย่างเป็นรูปธรรมมีเป้าหมายชัดเจนเน้นประสิทธิภาพ, การจัดทำบัญชีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรม และสั่งการให้ตำรวจเข้าตรวจค้นอู่ซ่อมรถต้องสงสัยอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องปรามไม่ให้กลายเป็นแหล่งชำแหล่ะหรือดัดแปลงสภาพรถของกลาง, เร่งทำการตรวจและยึดรถต้องสงสัยทุกคันเพื่อนำไปตรวจหาข้อมูลในระบบ Polis โดยดำเนินการด้วยความชัดเจนในทุกขั้นตอน, เร่งแสวงหาความร่วมมือจากภาคประชาชนเพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสาร และดำเนินยุทธการทำคนน้อยให้เป็นคนมาก ตลอดจนมอบความรู้ด้านการป้องกันอาชญากรรมให้กับชาวบ้านก่อนเชื้อเชิญให้ทุกภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกับตำรวจด้วยความเต็มใจ
มาตรการการเร่งตัดปัจจัยที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ทำได้โดยการเพิ่มความถี่ของวงรอบการออกตรวจตามจุดล่อแหลมต่อการเกิดอาชญากรรม พร้อมเร่งประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบให้ช่วยติดไฟส่องสว่างตามตรอก ซอก ซอย ให้เพียงพอ และจัดกำลังชุดสืบสวนนอกเครื่องแบบเข้าซุ่มโป่งตามจุดเหล่านี้เพื่อความรวดเร็วในการระงับเหตุหรือเข้าจับกุมคนร้ายได้อย่างทันท่วงทีเมื่อเกิดสถานการณ์ไม่คาดฝัน
มาตรการสืบสวนหาข่าวอย่างมืออาชีพ กำชับให้กองกำกับการสืบสวนเป็นกำลังหลักในการสืบสวนหาข่าวเกี่กับข้อมูลคนร้ายข้ามชาติ กลุ่มแก๊งต่างๆ รวมทั้งแรงงานต่างด้าวไว้อย่างมีระบบ ตลอดจนติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งขึ้นภายในประเทศ โดยต้องจัดระบบข้อมูลให้สามารถนำมาวิเคราะห์และหาแนวทางแก้ไขได้ทันที ส่วนชุดสืบสวนของสถานีตำรวจต้องศึกษาข้อมูลที่ทันสมัยคอยติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลที่เป็นอันตราย และสามารถเข้าจับกุมได้ทันทีหากกลุ่มเป้าหมายลงมือก่อเหตุ
มาตรการด้านกฎหมายและสอบสวน ทำการฝึกอบรมพนักงานสอบสวนให้มีความแตกฉานในข้อกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง จนเกิดความชำนาญตลอดจนปลูกฝังจิตสำนึกการให้บริการประชาชน ขณะเดียวกันต้องเร่งรัดสืบสวนสอบสวนคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญและคดีค้างเก่า ให้มีความคืบหน้า โดยยึดถือหลักที่ว่าหากคดีใดไม่รู้ตัวผู้กระทำผิดต้องทำให้รู้ตัวให้ได้ ส่วนคดีที่รู้ตัวผู้กระทำความผิดต้องนำไปสู่การออกหมายจับและติดตามจับกุมมาดำเนินคดีให้ได้ทุกราย นอกจากนี้การสร้างความสัมพันธ์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับพนักงานสอบสวน ทั้งอัยการ ศาล ทนายความ ราชทัณฑ์ แพทย์ ฯลฯ เป็นสิ่งที่ต้องกระทำอย่างต่อเนื่อง
พล.ต.ต.กรีรินทร์ ให้ความสำคัญกับงานทุกด้านด้วยการกำหนดนโยบายเดินหน้าไปพร้อมๆ กัน ทั้งการป้องกันปราบปราม การสืบสวน และการสอบสวน โดยมี “โครงการจับทันควัน จ่ายทันที 24 ชั่วโมง” เป็นแรงจูงใจให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทำงานแข่งขันกันเองด้วยความสนุกสนานกับ “งานพิทักษ์สันติราษฎร์”
นับถอยหลังไปไม่กี่วันข้างหน้า “น.1” ก็จะเรียก “ผบก.น.1-9” เข้าประชุมสรุปผลงานปราบปรามประจำเดือน มกราคม 2553 อีกแล้ว! จับตาดูให้ดีว่า บก.น.9 จะสามารถรักษาแชมป์ได้หรือไม่!?!