กระทรวงการคลัง รับแก้ปัญหานักท่องเที่ยวถูกมาตรการภาษีสนามบินเล่นงาน เล็งอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวที่แวะเปลี่ยนเครื่อง
วานนี้ (13 ม.ค.) นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวภายหลังร่วมประชุมคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขและพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการสนามบินสุวรรณภูมิ ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ว่า ที่ประชุมมีการสอบถามติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นภายในสนามบินสุวรรณภูมิ อาทิ ปัญหาการหลอกนักท่องเที่ยวให้ซื้อสินค้าปลอดภาษีแล้วจับกุม ยัดข้อหาหนัก เช่นในกรณีของบุหรี่ และสุรา
โดยกระทรวงการคลังรับจะไปดำเนินการ เพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชวยเหลือนักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้อสินค้ามากขึ้น จากปริมาณที่กำหนด ก็จะไม่มีการดำเนินการจับกุม แต่จะใช้วิธีตักเตือน และให้ไปชำระภาษีในส่วนที่เกินจากที่รัฐกำหนด ตรงนี้ข้อสรุปจะเป็นอย่างไรทางกระทรวงการคลัง จะเป็นไปกำหนดมาตรการภาษีอีกครั้งหนึ่ง
นายชุมพล กล่าวต่อว่า ขณะที่ปัญหากระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารที่สูญหาย โดยทางการท่าอากาศยานฯ และ บ.การบินไทย ก็ได้ชี้แจงว่า ตัวเลขการสูญหายในขณะนี้ ต่ำกว่ามาตรฐานสากล อยู่ที่ 1.9-2.5 % ต่อ 1 พันใบ ทั้งนี้ตามมาตรฐานของสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว( ATTA ) กำหนดไว้ที่ 4 ต่อ1พัน และปัญหาที่พบในเวลานี้คือ สิ่งของที่อยู่ในกระเป๋าของผู้โดยสารมักจะสูญหาย หรือถูกงัด ซึ่งเรื่องนี้ได้ให้มีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเริ่มตั้งแต่บริษัทที่รับเหมา และบริษัทรับจ้างขนขึ้นเครื่อง โดยมีนายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผอ.สุวรรณภูมิ เป็นประธานฯดำเนินการ
ส่วนในเรื่องการตั้งสถานีตำรวจท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายชุมพล กล่าวว่าที่ประชุมมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานมีพล.ต.ต.ยงยศ นาคเฉลิม รองผู้บัญชาการสำงานกำลังพล ทำหน้าที่วิเคราะห์กำหนดตำแหน่งและอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่จะไปประจำ โดยมีการสรรหาข้าราชการตำรวจ ในพื้นที่ บก.ภ.สมุทรปราการ และนอกพื้นที่เบื้องต้นกำหนดงบประมาณไว้ที่ 18.20 ล้านบาท เพื่อดำเนินการในเรื่องต่างๆอาทิ การก่อสร้างสถานีตำรวจ นอกจากนี้จะต้องมีการแก้ไขกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องโดยอาจจะออกมาเป็นร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ตำรวจท่องเที่ยว มีอำนาจในการดำเนินคดีอาญาได้เช่นเดียวกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สังกัดสตช.
นายชุมพล กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมมีการพูดถึงปัญหารถแท็กซี่เถื่อนว่า ที่ผ่านมาระหว่างวันที่ 31 ก.ค.- 19 ต.ค. 52 จับกุมแท็กซี่เถื่อนได้ 1,644 ราย และ ตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค 52 – 19 ต.ค. 52 จับกุมมัคคุเทศก์เถื่อน และไกด์ผี ได้ 777 ราย นอกจากนี้มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ จาก 6 นาย ต่อผลัดเป็น 28 นาย ต่อผลัด อย่างไรก็ตามสำหรับการประชุมในครั้งนี้ จะนำเข้ารายงานต่อที่ประชุมครม.วันอังคารที่ 19 ม.ค. ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมครั้งนี้ นายชุมพลได้ให้ข้อสังเกตว่า ควรมีการจัดบริการ และการอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวที่แวะพักเพื่อเปลี่ยนเครื่องด้วย
วานนี้ (13 ม.ค.) นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวภายหลังร่วมประชุมคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขและพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการสนามบินสุวรรณภูมิ ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ว่า ที่ประชุมมีการสอบถามติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นภายในสนามบินสุวรรณภูมิ อาทิ ปัญหาการหลอกนักท่องเที่ยวให้ซื้อสินค้าปลอดภาษีแล้วจับกุม ยัดข้อหาหนัก เช่นในกรณีของบุหรี่ และสุรา
โดยกระทรวงการคลังรับจะไปดำเนินการ เพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชวยเหลือนักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้อสินค้ามากขึ้น จากปริมาณที่กำหนด ก็จะไม่มีการดำเนินการจับกุม แต่จะใช้วิธีตักเตือน และให้ไปชำระภาษีในส่วนที่เกินจากที่รัฐกำหนด ตรงนี้ข้อสรุปจะเป็นอย่างไรทางกระทรวงการคลัง จะเป็นไปกำหนดมาตรการภาษีอีกครั้งหนึ่ง
นายชุมพล กล่าวต่อว่า ขณะที่ปัญหากระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารที่สูญหาย โดยทางการท่าอากาศยานฯ และ บ.การบินไทย ก็ได้ชี้แจงว่า ตัวเลขการสูญหายในขณะนี้ ต่ำกว่ามาตรฐานสากล อยู่ที่ 1.9-2.5 % ต่อ 1 พันใบ ทั้งนี้ตามมาตรฐานของสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว( ATTA ) กำหนดไว้ที่ 4 ต่อ1พัน และปัญหาที่พบในเวลานี้คือ สิ่งของที่อยู่ในกระเป๋าของผู้โดยสารมักจะสูญหาย หรือถูกงัด ซึ่งเรื่องนี้ได้ให้มีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเริ่มตั้งแต่บริษัทที่รับเหมา และบริษัทรับจ้างขนขึ้นเครื่อง โดยมีนายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผอ.สุวรรณภูมิ เป็นประธานฯดำเนินการ
ส่วนในเรื่องการตั้งสถานีตำรวจท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายชุมพล กล่าวว่าที่ประชุมมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานมีพล.ต.ต.ยงยศ นาคเฉลิม รองผู้บัญชาการสำงานกำลังพล ทำหน้าที่วิเคราะห์กำหนดตำแหน่งและอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่จะไปประจำ โดยมีการสรรหาข้าราชการตำรวจ ในพื้นที่ บก.ภ.สมุทรปราการ และนอกพื้นที่เบื้องต้นกำหนดงบประมาณไว้ที่ 18.20 ล้านบาท เพื่อดำเนินการในเรื่องต่างๆอาทิ การก่อสร้างสถานีตำรวจ นอกจากนี้จะต้องมีการแก้ไขกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องโดยอาจจะออกมาเป็นร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ตำรวจท่องเที่ยว มีอำนาจในการดำเนินคดีอาญาได้เช่นเดียวกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สังกัดสตช.
นายชุมพล กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมมีการพูดถึงปัญหารถแท็กซี่เถื่อนว่า ที่ผ่านมาระหว่างวันที่ 31 ก.ค.- 19 ต.ค. 52 จับกุมแท็กซี่เถื่อนได้ 1,644 ราย และ ตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค 52 – 19 ต.ค. 52 จับกุมมัคคุเทศก์เถื่อน และไกด์ผี ได้ 777 ราย นอกจากนี้มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ จาก 6 นาย ต่อผลัดเป็น 28 นาย ต่อผลัด อย่างไรก็ตามสำหรับการประชุมในครั้งนี้ จะนำเข้ารายงานต่อที่ประชุมครม.วันอังคารที่ 19 ม.ค. ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมครั้งนี้ นายชุมพลได้ให้ข้อสังเกตว่า ควรมีการจัดบริการ และการอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวที่แวะพักเพื่อเปลี่ยนเครื่องด้วย
