อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส” แถลงเปิดตัวเว็บไซต์ และเปิดใจถึงอนาคตทางการเมือง ยอมรับมองไว้หลายพรรค โดยเฉพาะพรรคการเมืองใหม่ ย้ำรอเวลาโอกาสเปิด ลงเล่นการเมืองเต็มตัว
วันนี้ (27 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร. ได้เปิดบ้านพักเลขที่ 164/87 ซอยบางขุนนนท์ 24 แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย แถลงข่าวเปิดใจเกี่ยวกับอนาคตทางการเมือง พร้อมเปิดตัวเว็บไซต์ www.sereepisuth.com โดยมีบรรดากลุ่มเพื่อนเสรีเดินทางมาให้กำลังใจอย่างคับคั่ง
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า หลังจากตนเองเกษียณอายุราชการก็อยากจะทำอะไรเพื่อบ้านเมือง ก็คิดว่าจะทำสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวก่อน และปัจจุบันนี้เทคโนโลยีมีการพัฒนา จึงได้เปิดเว็บไซต์ส่วนตัวขึ้นเพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งเป็นการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารไปในตัว มีการสอบถามปัญหาแสดงความคิดเห็น โดยเนื้อหาหลักๆ จะประกอบไปด้วยประวัติ ประสบการณ์การทำงาน ผลงาน ทั้งนี้ยังมีข้อเท็จจริงชี้แจงในเรื่องภูไพรธารน้ำรีสอร์ท ที่จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นกรณีที่มีการตั้งคณะกรรมสอบสวนวินัยร้ายแรง ทั้งนี้เว็บไซต์ที่จัดทำขึ้นให้ความสำคัญกับสังคมเป็นอันดับแรก โดยเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการประมาณ 2 เดือน มีคนเข้าชม 10,000 กว่าคนแล้ว
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า เรื่องเกี่ยวกับการเมืองยอมรับว่าตนเองผ่านประสบการณ์มามาก ครบทุกรสชาติ อีกทั้งสุขภาพยังดี จิตใจเข้มแข็ง จึงคิดว่าพร้อมทำงานให้บ้านเมือง กว่า 40 ปี ที่รับราชการมาจะมองคนข้างล่างที่ต่ำต้อยกว่า ซึ่งเขาเดือดร้อนมาก และจำเป็นต้องดูแลช่วยเหลือ แต่ตอนนี้วิธีปฏิบัติของหลายคนตรงข้าม จะมองคนที่มีอำนาจ ไปรับใช้เพื่อให้ตนเองได้ประโยชน์มากที่สุด
“ผมเองเคยคิดลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แต่ตอนนั้นจังหวะไม่เปิด เพราะติดปัญหาเยอะ เลยยังไม่พร้อม แต่ตอนนี้พร้อมแล้ว แต่คงลงเวทีการเมืองใหญ่ สถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้ไม่ราบรื่น ล่าสุดปัญหาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตอนนี้เฝ้าดูและเตรียมความพร้อม ถ้าโอกาสเปิดก็จะลงเล่นการเมือง ซึ่งจะพยายามดูบุคคลต่ำกว่าที่มีเป็นจำนวนมาก ปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น มีความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน การศึกษาที่ดี ซึ่งต้องยอมรับว่าแก้คนเดียวไม่ได้ ต้องแก้เป็นระบบ” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการจะลงเลือกตั้งสังกัดพรรคอะไรนั้น ตอนนี้มีพรรคที่อยู่ในใจแล้ว แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจ ยอมรับว่ามองไว้หมด พรรคการเมืองใหม่ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ก็อยู่ในความคิด ซึ่งหากมีการเลือกนายกฯ โดยตรง ตนเองจะไปลงสมัครเลย โดยจุดขายคือ ทำงานเพื่อประชาชน โดยพื้นที่ก็คงต้องกรุงเทพฯ แต่หากตามกฎหมายกำหนดที่สามารถเลือกตั้งได้ ก็จะเป็นทั้งนครปฐม ชลบุรี นครพนม มุกดาหาร ซึ่งตนเองมีความมั่นใจว่าจะได้เป็นนักการเมือง แต่ไม่รู้จะไปอยู่จุดไหน ซึ่งตนเองยืนยันว่าภาพลักษณ์ที่ดุดันสมัยเป็นตำรวจยังคงอยู่อย่างแน่นอน โดยมีคติว่าจะทำเพื่อประเทศชาติ ประชาชน สถาบัน โดยเฉพาะคนที่ต่ำต้อยกว่า
พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ให้ความเห็นเรื่องการยังไม่แต่งตั้ง ผบ.ตร.ว่า ตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 นั้น ระบุชัดเจนว่า การเลือก ผบ.ตร.เป็นอำนาจของนายกฯ ซึ่งจะเลือกจากตำรวจยศ พล.ต.อ. ซึ่งเป็นได้หมด ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งหลักหรือไม่ ซึ่งตามกฎ ก.ตร. กำหนดไว้ว่าต้องแต่งตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 31 ส.ค.ของทุกปี เมื่อทำไม่ได้ต้องมีเหตุผลไปขออนุมัติ ก.ตร. เพื่อขยายเวลา ซึ่งประเด็นตรงนี้ต้องระวังฝ่ายอื่นที่สามารถไปฟ้อง ป.ป.ช. ได้ ว่านายกฯไม่แต่งตั้ง หากไม่มีเหตุผลพอเพียงก็อาจเข้าข้อกฎหมายได้
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ด้วยว่า เสธ.แดง ไม่ปกตินานแล้ว ซึ่งต้องโทษผู้บังคับบัญชาที่ไม่เข้มงวดกวดขันให้อยู่ใต้บังคับบัญชา ซึ่งเรื่องนี้ต้องแก้ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่ปล่อยให้ละลานไปทั่ว ตนเองเคยฟ้องร้องกับ เสธ.แดง หลายคดี ผู้พิพากษาเคยขอให้ถอนฟ้อง ตนเองต้องอธิบายไปว่าไม่ถอนเพราะอะไร ไม่ใช่ทำเพื่อตัวเอง แต่เพื่อประเทศชาติ