สาวแบงก์กรุงไทยรับเองเหตุชะโงกหน้าทำหน้ามืด ร่วงตกรางรถไฟฟ้าบีทีเอส ยันไม่มีคนผลัก ตร.ชี้ไม่มีการแจ้งข้อหาพนักงานขับรถ ระบุเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเอง ส่วนอาการผู้บาดเจ็บดีขึ้นนอนดูอาการอีก 2-3 วันกลับบ้านได้
จากเหตุการณ์ที่เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (20 ม.ค.) นางจิราภรณ์ เกียรติชูศักดิ์ อายุ 56 ปี พนักงานธนาคารกรุงไทย สำนักงานใหญ่ พลัดตกลงไปในรางรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีหมอชิต จนได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก กระดูกฝ่าเท้าแตก มีบาดแผลตามร่างกายอีกหลายแห่ง โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลวิภาวดีนั้น
วันนี้ (21 ม.ค.) พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ ผลวานิชย์ ผกก.สน.บางซื่อ กล่าวถึงความคืบหน้าว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนางจิราพรแล้ว โดยเบื้องต้นเจ้าตัวให้การว่า ระหว่างที่รอรถไฟฟ้าบีทีเอสอยู่นั้นก็เกิดอาการหน้ามืดแล้วพลัดตกลงไปในรางรถไฟฟ้าเอง และยืนยันว่าไม่ได้มีคนผลักตกลงไปแต่อย่างใด ส่วนพนักงานขับรถไฟฟ้าและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ให้การยืนยันตรงกันว่า ขณะเกิดเหตุนางจิราพรได้ชะโงกหน้าออกไปเพื่อสังเกตดูว่ารถไฟฟ้าจะเข้าเทียบจอดชานชาลาหรือยัง จนกระทั่งพลัดตกมายังบริเวณรางรถไฟตามที่เป็นข่าว
พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนางจิราพรตกลงพนักงานขับรถไฟฟ้าพยายามจะเบรกรถแล้วแต่ว่าไม่สามารถหยุดรถได้ทัน ทำให้รถไฟแล่นคร่อมร่างของนางจิราพรไป แต่โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บมากหรือถึงขั้นเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ไม่มีการแจ้งข้อหากับพนักงานขับรถ หรือบุคคลใด เนื่องจากเห็นว่าเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเอง
ด้าน นพ.นราธิป ทรงทอง ศัลยแพทยกระดูกและข้อโรงพยาบาลวิภาวดี แพทย์ผู้รักษานางจิราภรณ์ เปิดเผยว่า อาการของนางจิราพรในวันนี้ดีขึ้นกว่าเมื่อวานนี้มาก การรับรู้ทางประสาทมีการตอบสนองเป็นอย่างดี สัญญาณชีพจรเป็นปกติ และสามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ ส่วนบาดแผลที่ศีรษะและตามร่างกายนั้นดีขึ้นมากแล้ว ไม่มีอาการหวาดกลัวหรือตื่นตระหนกแต่อย่างใด มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสดี
นพ.นราธิป กล่าวด้วยว่า คนไข้ยังบอกด้วยว่า อยากจะนอนพักผ่อนเพื่อรักษาตัวให้หายดีเสียก่อน และไม่อยากให้สัมภาษณ์ใดๆ โดยขณะนี้ลูกชายของคนไข้ก็ติดตามเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด และคาดว่าจะให้คนไข้นอนพักรักษาตัวดูอาการอยู่ที่โรงพยาบาลอีกประมาณ 2-3 วัน จึงจะอนุญาตให้เดินทางกลับบ้านได้
สาวแบงก์พลัดตกรางรถไฟฟ้าบีทีเอสรอดหวุดหวิด!