สาวโรงงานผลิตยาร้องกองปราบฯ ถูกนายดาบตำรวจจราจร โรงพักบางโพงพางกับเมียทำร้ายร่างกาย และยิงปืนข่มขู่ สาเหตุเพราะติดหนี้พนันที่สองผัวเมียปล่อยกู้นอกระบบในสนามไก่ชน
วันนี้ (18 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.ที่ บก.ปคบ. น.ส.สุนันทา แก้วโท อายุ 31 ปี พนักงานบริษัท เภสัชอุตสาหกรรมค็อก จำกัด อยู่บ้านเลขที่ 128 ซอยปริยานนท์ แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม.เข้าพบ พ.ต.ท.ยุทธพงศ์ ถวิลบุญ พนักงานสอบสวน (สบ 2) ช่วยราชการ กก.1 บก.ปคบ.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อ ด.ต.นพดล ภูเชื้อ ผบ.หมู่งานจราจร สน.บางโพงพาง และนางดวงทิพย์ ภูเชื้อ ภรรยาที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายและยิงปืนข่มขู่เพราะไม่ยอมจ่ายหนี้ โดยนำกระสุนปืนขนาด .38 มม.1 นัดมาให้พนักงานสอบสวนเป็นหลักฐาน
น.ส.สุนันทา ให้การว่า รู้จักกับ ด.ต.นพดล เมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว เพราะเข้ามาชนไก่ภายในซอยพระราม 3 ซอย 39 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา บ่อยครั้ง ซึ่งช่วงนั้นตนติดการพนันงอมแงมและเสียเงินไปหลายหมื่น จึงกู้เงินจำนวน 80,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน และต้องจ่ายเงินต้น 2,000 บาท ดอกเบี้ย 4,000 ต่อเดือน จากนางดวงทิพย์ หรือพี่แอน ซึ่งเป็นภรรยานายดาบมาจ่ายหนี้พนัน โดยไม่มีการทำสัญญาเงินกู้กันแต่อย่างใด จากนั้นได้ทยอยจ่ายหนี้ให้พี่แอนไปแล้ว 1 หมื่นกว่าบาท แต่เมื่อช่วงปีใหม่ตนไม่มีเงินจ่ายจึงขอให้พี่แอนคิดเงินที่ค้าง 1 เดือนไปรวมกับเงินต้น แต่เขาไม่พอใจ จนกระทั่งเมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมาขณะที่ตนกำลังทำงานอยู่ พี่แอนได้โทรศัพท์เข้ามาหลายครั้งแต่ตนไม่ได้รับสายเพราะกำลังทำงานอยู่
น.ส.สุนันทา ให้การต่อว่า จากนั้นเมื่อเวลา 21.00 น. พี่แอนและ ด.ต.นพดล บุกมาที่บ้านพร้อมทั้งต่อว่าดุด่า ระหว่างนั้น ด.ต.คนดังกล่าวปรี่เข้ามาตบหน้าตน 1 ครั้ง สามีตนทนไม่ได้เข้าไปชก ด.ต.นพดลคืน พี่แอนจึงชักปืนออกมาข่มขู่ จากนั้น ด.ต.ได้กระโดดถีบสามีจนล้มลงและบุกเข้ามาในบ้านพร้อมทั้งทำลายข้าวของจนพัง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางโพงพาง ผ่านมาระงับเหตุ แต่ ด.ต.นพดลตะโกนบอกไปว่า “เรื่องพี่น้องอย่ามายุ่ง” เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจึงขี่รถจักรยานยนต์กลับไป เมื่อตำรวจกลับไปแล้วทั้งสองก็ยังทำลายข้าวของอีก เมื่อพอใจจึงเดินทางกลับไป แต่เมื่อตอนกลางดึกที่ผ่านมา นางดวงทิพย์ได้ขี่จักรยานยนต์รับจ้างกลับมาอีกครั้งพร้อมทั้งยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัดแล้วหนีไป
“ตอนที่เขามายิงปืนขู่หน้าบ้าน ฉันตกใจมากกลัวเขาจะบุกเข้ามายิง ซึ่งหลังเกิดเหตุก็ไม่กล้าเข้าแจ้งความตำรวจท้องที่เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคู่กรณีเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่โรงพักเดียวกัน จึงเข้าแจ้งความ บก.ปคบ.ดังกล่าว”
เบื้องต้น พ.ต.ท.ยุทธพงศ์ รับเรื่องไว้ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินการต่อไป
วันนี้ (18 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.ที่ บก.ปคบ. น.ส.สุนันทา แก้วโท อายุ 31 ปี พนักงานบริษัท เภสัชอุตสาหกรรมค็อก จำกัด อยู่บ้านเลขที่ 128 ซอยปริยานนท์ แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม.เข้าพบ พ.ต.ท.ยุทธพงศ์ ถวิลบุญ พนักงานสอบสวน (สบ 2) ช่วยราชการ กก.1 บก.ปคบ.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อ ด.ต.นพดล ภูเชื้อ ผบ.หมู่งานจราจร สน.บางโพงพาง และนางดวงทิพย์ ภูเชื้อ ภรรยาที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายและยิงปืนข่มขู่เพราะไม่ยอมจ่ายหนี้ โดยนำกระสุนปืนขนาด .38 มม.1 นัดมาให้พนักงานสอบสวนเป็นหลักฐาน
น.ส.สุนันทา ให้การว่า รู้จักกับ ด.ต.นพดล เมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว เพราะเข้ามาชนไก่ภายในซอยพระราม 3 ซอย 39 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา บ่อยครั้ง ซึ่งช่วงนั้นตนติดการพนันงอมแงมและเสียเงินไปหลายหมื่น จึงกู้เงินจำนวน 80,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน และต้องจ่ายเงินต้น 2,000 บาท ดอกเบี้ย 4,000 ต่อเดือน จากนางดวงทิพย์ หรือพี่แอน ซึ่งเป็นภรรยานายดาบมาจ่ายหนี้พนัน โดยไม่มีการทำสัญญาเงินกู้กันแต่อย่างใด จากนั้นได้ทยอยจ่ายหนี้ให้พี่แอนไปแล้ว 1 หมื่นกว่าบาท แต่เมื่อช่วงปีใหม่ตนไม่มีเงินจ่ายจึงขอให้พี่แอนคิดเงินที่ค้าง 1 เดือนไปรวมกับเงินต้น แต่เขาไม่พอใจ จนกระทั่งเมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมาขณะที่ตนกำลังทำงานอยู่ พี่แอนได้โทรศัพท์เข้ามาหลายครั้งแต่ตนไม่ได้รับสายเพราะกำลังทำงานอยู่
น.ส.สุนันทา ให้การต่อว่า จากนั้นเมื่อเวลา 21.00 น. พี่แอนและ ด.ต.นพดล บุกมาที่บ้านพร้อมทั้งต่อว่าดุด่า ระหว่างนั้น ด.ต.คนดังกล่าวปรี่เข้ามาตบหน้าตน 1 ครั้ง สามีตนทนไม่ได้เข้าไปชก ด.ต.นพดลคืน พี่แอนจึงชักปืนออกมาข่มขู่ จากนั้น ด.ต.ได้กระโดดถีบสามีจนล้มลงและบุกเข้ามาในบ้านพร้อมทั้งทำลายข้าวของจนพัง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางโพงพาง ผ่านมาระงับเหตุ แต่ ด.ต.นพดลตะโกนบอกไปว่า “เรื่องพี่น้องอย่ามายุ่ง” เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจึงขี่รถจักรยานยนต์กลับไป เมื่อตำรวจกลับไปแล้วทั้งสองก็ยังทำลายข้าวของอีก เมื่อพอใจจึงเดินทางกลับไป แต่เมื่อตอนกลางดึกที่ผ่านมา นางดวงทิพย์ได้ขี่จักรยานยนต์รับจ้างกลับมาอีกครั้งพร้อมทั้งยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัดแล้วหนีไป
“ตอนที่เขามายิงปืนขู่หน้าบ้าน ฉันตกใจมากกลัวเขาจะบุกเข้ามายิง ซึ่งหลังเกิดเหตุก็ไม่กล้าเข้าแจ้งความตำรวจท้องที่เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคู่กรณีเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่โรงพักเดียวกัน จึงเข้าแจ้งความ บก.ปคบ.ดังกล่าว”
เบื้องต้น พ.ต.ท.ยุทธพงศ์ รับเรื่องไว้ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินการต่อไป
