ตร.ห่วง “ลอยกระทง” สั่งป้องแก๊งล้วงกระเป๋า-จุดพลุ

รักษาราชการ ผบ.ตร.เป็นห่วงสวัสดิภาพของประชาชนที่จะเฮโลกันไปลอยกระทงตามสถานที่ต่างๆ สั่งทุกหน่วยที่รับผิดชอบโดยตรงดูแล และป้องกันเหตุอาชญากรรม ทั้งแก๊งล้วงกระเป๋า การจุดพลุ หรือแม้แต่เด็กพลัดหลง


วันนี้ (28 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รอง ผบก.อก.บช.น. ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในวันลอยกระทงว่า เนื่องจากในวันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จตช.รรท.ผบ.ตร. เป็นห่วงประชาชนที่จะมาเที่ยวในงานลอยกระทง ทั้งเรื่องการจราจร และความปลอดภัย และให้ทุก บช.กำหนดมาตรการต่างๆ โดย 1.การป้องกันความปลอดภัย สั่งการให้ทุก บช. ดูแลความปลอดภัยในเรื่องต่างๆ ทั้งการล้วงกระเป๋า ลักทรัพย์ เด็กพลัดหลง ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งให้ตำรวจดูแลในส่วนนี้ด้วย 2.การขายพลุ ดอกไม้ไฟ เป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย ตำรวจทำหน้าที่ในการตรวจสอบร้านค้าว่ามีใบอนุญาตถูกต้องหรือไม่

ส่วนการจุดพลุนั้นไม่ต้องขออนุญาต แต่ต้องดูว่าไม่กระทบกับประชาชนหรือก่อกวนผู้อื่น ทั้งการก่อความเดือดร้อนรำคาญหรือทำให้ตกใจ 3.การปราบปราม โดยตำรวจจะทำการกวดขันจับกุมผู้ทำความผิดทุกกรณีที่เกี่ยวข้อง ก่อความเดือดร้อนรำคาญ โดย รรท.ผบ.ตร.ให้ทุก บช.ดูแลอย่างทั่วถึง ส่วนการจราจรในพื้นที่อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนเต็มที่ โดยในส่วนของ บช.น.มีการจัดงาน 177 สถานที่ และมี 7-8 แห่งที่มีคนไปร่วมงานจำนวนมาก ทั้งสวนลุมพินี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ใต้สะพานพระราม 8 สะพานทั้ง 11 แห่ง บึงพระรามเก้า สวนสาธารณะต่างๆ ที่ต้องดูแลให้ทั่วถึง

พ.ต.อ.ปิยะ กล่าวอีกว่า ขอย้ำว่าตำรวจจะดูแลอย่างเต็มที่ทั้งในส่วนการขายและจุดพลุ เช่น การจุดพลุใกล้โรงพยาบาล หรือบางสถานที่ซึ่งไม่สมควร ก็มีความผิดลหุโทษ คือไม่ต้องมีคนแจ้งจับก็สามารถจับกุมได้ โดยเสียค่าปรับไม่เกิน 1 พันบาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 เดือน โดยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทุก บช.จะต้องมีมาตรการในการดูแลให้ชัดเจน โดยในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ เชื่อว่า พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.จะไปตรวจและดูแลความเรียบร้อยสถานที่จัดงานลอยกระทงเป็นบางแห่ง ส่วนเรื่องสถานบริการก็ยังเปิดตามปกติ