00...ถือเป็นการปิดประตูตาย สำหรับ "พัชรวาท วงษ์สุวรรณ" อดีตผบ.ตร. "พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว" อดีต ผบช.น. และ "พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์" อดีตผบก.ภ.อุดรธานี 3 นายตำรวจมือเปื้อนเลือด ที่จะกลับเข้ารับราชการตำรวจ ตามมติ ก.ตร.ที่กล้าหักดิบผลชี้มูลผิดอาญาและวินัยร้ายแรงของ ป.ป.ช.เมื่อ"อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"นายกรัฐมนตรี พูดชัดว่า...
"เรื่องนี้มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไปแล้วในอดีต ว่าการอุทธรณ์ตามกฎหมายบริหารงานบุคคล จะอุทธรณ์ได้เฉพาะดุลพินิจในการสั่งลงโทษ ดังนั้นจะไปกลับข้อเท็จจริงหรือเปลี่ยนแปลงคำวินิจฉัยของ ป.ป.ช.ไม่ได้ ทำได้แค่อุทธรณ์ดุลพินิจในการสั่งลงโทษ พร้อมยกตัวอย่างเช่น สมมติว่า ผลสอบออกมาว่าผิดวินัยร้ายแรง มีการลงโทษไล่ออก ก็อาจอุทธรณ์ให้เป็นปลดออกได้ แต่จะไปอุทธรณ์แล้วกลับสิ่งที่ ป.ป.ช.วินิจฉัยมาไม่ได้ อันนี้ชัดเจน และมีคำวินิจฉัยแล้ว"
เช่นเดียวกับ "นายวิชัย วิวิตเสวี" กรรมการ ป.ป.ช.ย้ำว่า มติ ก.ตร.ไม่สามารถหักล้างมติของ ป.ป.ช.ได้ และ ก.ตร.จำเป็นต้องปฏิบัติตามมติของ ป.ป.ช. เนื่องจากเคยมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ยืนยันว่า ป.ป.ช.มีอำนาจเด็ดขาดในการชี้มูลความผิด
ดังนั้น เรื่องนี้ถือว่า "สุเทพ เทือกสุบรรณ" ประธาน ก.ตร.หน้าแหกยับเยิน เพราะแสดงตัวตนให้ประชาชนได้รับรู้ว่า เขาไม่รู้ตัวบท กฎหมายเอาเสียเลย
กล่าวคือ....ประธานฯเทพ บอกว่า "เรื่องนี้ทาง สตช.ต้องดำเนินการตามขั้นตอน กรณีของ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว และ พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ ให้กลับเข้ารับราชการได้เลยตามมติในที่ประชุม ก.ตร. ส่วนกรณีของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ต้องเสนอเรื่องมาที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดและสั่งการให้ลงโทษ ซึ่งนายกฯจะมีการวินิจฉัยอย่างไรก็เป็นเรื่องของนายกฯ...
หลายคนมึนงงว่า ทำไม "สุเทพ เทือกสุบรรณ" ถึงกล้าพูดเช่นนั้น เขาไม่รู้กฎหมายจริงหรือ? หรือ "สุเทพ" รู้แต่แกล้งโง่ ตะแบงพูดเพื่อช่วยเหลือ"3 นายตำรวจ มือเปื้อนเลือด"หวังประโยชน์อย่างใด อย่างหนึ่ง
00...สัปดาห์นี้คงต้องเกาะติด ในความพยายามรื้อฟื้นความสัมพันธ์ "ไทย-ซาอุฯ" วันที่ 11 มกราคม อุปทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทย จะเดินทางเข้าพบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อพูดคุยเรื่องความคืบหน้าคดีการหายตัวไปของนายมูฮัมหมัด อัลรูไวรี่ โดยการหารือครั้ง เป็นสัญญาณชี้ให้เห็นความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีอาระเบีย กำลังเป็นไปในทางที่ดีขึ้น
ถัดมา 12 มกราคม พนักงานอัยการ แสดงความมั่นใจว่า จะสามารถสั่งคดีทันเวลาที่อายุความจะหมดลง หลังจากดีเอสไอ มีคำสั่งฟ้องกลุ่มผู้ถูกกล่าวหา
จากนัยยะสำคัญทั้ง 2 ประการชี้ให้เห็นว่า คดีการหายตัวไปของนักธุรกิจซาอุฯผู้นี้ มีความสำคัญอย่างยิ่งในระดับประเทศ ทั้งไทย และซาอุดิอารเบีย ดังนั้น แม้คดีนี้ฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาอย่าง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม กับพวก จะร้องขอความเป็นธรรมไปยังอัยการสูงสุดในประเด็นต่างๆก็ตามที แต่ท้ายสุดเชื่อว่า คดีนี้ จะถูกนำขึ้นสู่กระบวนการยุติธรรมในชั้นศาล และจะกลายเป็นอีกหนึ่งมหากาพย์แห่งคดี ไม่แพ้มหากาพย์เพชรซาอุฯแน่นอน
00...ถือว่าประสบความสำเร็จตามคาดหมาย สำหรับโครงการ "ฝากบ้านไว้กับตำรวจ" ของ "โฆษกจูดี้" พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วยผบ.ตร. ที่เฝ้าเอาใจใส่กับการกู้ภาพลักษณ์ให้กับองค์กร โดยประชาชนไว้ใจตำรวจเข้าร่วมโครงการถึง 2,446 หลัง เพิ่มจากปีที่ผ่านมา 718 หลัง ถือว่าประสบผลสำเร็จ และขอให้เดินหน้าทำอย่างจริงจังต่อไป
ซึ่งพล.ต.ท.พงศพัศ มีเป้าหมายที่จะสานต่อในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ โดยตั้งเป้าไว้ว่า จะมีประชาชนเข้าร่วโครงการอีกถึง 2 เท่า อ้อ...ช่วงตรุษจีน ผู้คนก็แห่กลับบ้าน ปิดร้านรวงไปเที่ยวกันเยอะด้วย อย่าลืมช่วงตรุษจีนด้วยก็จะดีไม่น้อย...
00...เห็นขู่ตำรวจจราจรในเมืองกรุงเสียหัวหด ก็ประกาศิตของ "นายฐาน" พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. ที่ขู่จะออกตรวจตราตามป้อมยามตำรวจจราจร หากพบเห็นใครอู้งาน เข้าไปตากแอร์แอบงีบ ดูโทรทัศน์ละก้อ จะลงโทษขนานหนัก แต่เอาเข้าจริง หลังเลยปีใหม่มา ยังไม่เห็นหัว "นายฐาน" แวะเวียนไปเยี่ยมป้อมไหนสักแห่ง ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า จะเก่งได้ก็แต่เฉพาะสั่งเด้ง "จ่าเฉย" เสียละมั้ง....
"เรื่องนี้มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไปแล้วในอดีต ว่าการอุทธรณ์ตามกฎหมายบริหารงานบุคคล จะอุทธรณ์ได้เฉพาะดุลพินิจในการสั่งลงโทษ ดังนั้นจะไปกลับข้อเท็จจริงหรือเปลี่ยนแปลงคำวินิจฉัยของ ป.ป.ช.ไม่ได้ ทำได้แค่อุทธรณ์ดุลพินิจในการสั่งลงโทษ พร้อมยกตัวอย่างเช่น สมมติว่า ผลสอบออกมาว่าผิดวินัยร้ายแรง มีการลงโทษไล่ออก ก็อาจอุทธรณ์ให้เป็นปลดออกได้ แต่จะไปอุทธรณ์แล้วกลับสิ่งที่ ป.ป.ช.วินิจฉัยมาไม่ได้ อันนี้ชัดเจน และมีคำวินิจฉัยแล้ว"
เช่นเดียวกับ "นายวิชัย วิวิตเสวี" กรรมการ ป.ป.ช.ย้ำว่า มติ ก.ตร.ไม่สามารถหักล้างมติของ ป.ป.ช.ได้ และ ก.ตร.จำเป็นต้องปฏิบัติตามมติของ ป.ป.ช. เนื่องจากเคยมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ยืนยันว่า ป.ป.ช.มีอำนาจเด็ดขาดในการชี้มูลความผิด
ดังนั้น เรื่องนี้ถือว่า "สุเทพ เทือกสุบรรณ" ประธาน ก.ตร.หน้าแหกยับเยิน เพราะแสดงตัวตนให้ประชาชนได้รับรู้ว่า เขาไม่รู้ตัวบท กฎหมายเอาเสียเลย
กล่าวคือ....ประธานฯเทพ บอกว่า "เรื่องนี้ทาง สตช.ต้องดำเนินการตามขั้นตอน กรณีของ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว และ พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ ให้กลับเข้ารับราชการได้เลยตามมติในที่ประชุม ก.ตร. ส่วนกรณีของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ต้องเสนอเรื่องมาที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดและสั่งการให้ลงโทษ ซึ่งนายกฯจะมีการวินิจฉัยอย่างไรก็เป็นเรื่องของนายกฯ...
หลายคนมึนงงว่า ทำไม "สุเทพ เทือกสุบรรณ" ถึงกล้าพูดเช่นนั้น เขาไม่รู้กฎหมายจริงหรือ? หรือ "สุเทพ" รู้แต่แกล้งโง่ ตะแบงพูดเพื่อช่วยเหลือ"3 นายตำรวจ มือเปื้อนเลือด"หวังประโยชน์อย่างใด อย่างหนึ่ง
00...สัปดาห์นี้คงต้องเกาะติด ในความพยายามรื้อฟื้นความสัมพันธ์ "ไทย-ซาอุฯ" วันที่ 11 มกราคม อุปทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทย จะเดินทางเข้าพบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อพูดคุยเรื่องความคืบหน้าคดีการหายตัวไปของนายมูฮัมหมัด อัลรูไวรี่ โดยการหารือครั้ง เป็นสัญญาณชี้ให้เห็นความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีอาระเบีย กำลังเป็นไปในทางที่ดีขึ้น
ถัดมา 12 มกราคม พนักงานอัยการ แสดงความมั่นใจว่า จะสามารถสั่งคดีทันเวลาที่อายุความจะหมดลง หลังจากดีเอสไอ มีคำสั่งฟ้องกลุ่มผู้ถูกกล่าวหา
จากนัยยะสำคัญทั้ง 2 ประการชี้ให้เห็นว่า คดีการหายตัวไปของนักธุรกิจซาอุฯผู้นี้ มีความสำคัญอย่างยิ่งในระดับประเทศ ทั้งไทย และซาอุดิอารเบีย ดังนั้น แม้คดีนี้ฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาอย่าง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม กับพวก จะร้องขอความเป็นธรรมไปยังอัยการสูงสุดในประเด็นต่างๆก็ตามที แต่ท้ายสุดเชื่อว่า คดีนี้ จะถูกนำขึ้นสู่กระบวนการยุติธรรมในชั้นศาล และจะกลายเป็นอีกหนึ่งมหากาพย์แห่งคดี ไม่แพ้มหากาพย์เพชรซาอุฯแน่นอน
00...ถือว่าประสบความสำเร็จตามคาดหมาย สำหรับโครงการ "ฝากบ้านไว้กับตำรวจ" ของ "โฆษกจูดี้" พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วยผบ.ตร. ที่เฝ้าเอาใจใส่กับการกู้ภาพลักษณ์ให้กับองค์กร โดยประชาชนไว้ใจตำรวจเข้าร่วมโครงการถึง 2,446 หลัง เพิ่มจากปีที่ผ่านมา 718 หลัง ถือว่าประสบผลสำเร็จ และขอให้เดินหน้าทำอย่างจริงจังต่อไป
ซึ่งพล.ต.ท.พงศพัศ มีเป้าหมายที่จะสานต่อในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ โดยตั้งเป้าไว้ว่า จะมีประชาชนเข้าร่วโครงการอีกถึง 2 เท่า อ้อ...ช่วงตรุษจีน ผู้คนก็แห่กลับบ้าน ปิดร้านรวงไปเที่ยวกันเยอะด้วย อย่าลืมช่วงตรุษจีนด้วยก็จะดีไม่น้อย...
00...เห็นขู่ตำรวจจราจรในเมืองกรุงเสียหัวหด ก็ประกาศิตของ "นายฐาน" พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. ที่ขู่จะออกตรวจตราตามป้อมยามตำรวจจราจร หากพบเห็นใครอู้งาน เข้าไปตากแอร์แอบงีบ ดูโทรทัศน์ละก้อ จะลงโทษขนานหนัก แต่เอาเข้าจริง หลังเลยปีใหม่มา ยังไม่เห็นหัว "นายฐาน" แวะเวียนไปเยี่ยมป้อมไหนสักแห่ง ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า จะเก่งได้ก็แต่เฉพาะสั่งเด้ง "จ่าเฉย" เสียละมั้ง....