ออกหมายจับ "ชัชวาล โง้วกิมเซ็ง" ก่อเหตุชิงเพื่อนโจรแก๊งหมูสกปรก ลักทรัพย์ 200 ล้าน พร้อมเค้นสอบ 5 ผู้คุมผู้ต้องขังวันเกิดเหตุละเอียด ควานหาต้นตอ เช็กรถคนร้ายมีการสวมทะเบียนหรือไม่ สั่งสืบตลิ่งชันเจาะข่าว เฝ้าตามโรงพยาบาล คาดคนร้ายกบดาน เนื่องจากชอบแฝงตัวหลบซ่อน
จากกรณีเหตุคนร้ายพยายามชิงตัวผู้ต้องหา แก๊งหมูสกปรก ที่เดินทางมาขึ้นศาลจังหวัดตลิ่งชัน ประกอบด้วย นายณัฐ หรือ โต้ง ชาหอม อายุ 30 ปี นายสุภัทร หรือ ทอม เนินวิเชียร อายุ 29 ปี โดยมีการนำเอาวัตถุคล้ายระเบิดมาขว้างปาเพื่อสร้างสถานการณ์ ก่อนพยายามหลบหนีขึ้นรถยนต์เก๋งฮอนด้า ซีวิค สีเขียว ทะเบียน ภก 3598 กรุงเทพฯ ซึ่งมีนายชัชวาล โง้วกิมเซ็ง อายุ 26 ปี ผู้ต้องคดีฉ้อโกง ซึ่งได้ประกันตัวออกมาก่อนหน้านี้ แต่ถูกเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยศาล ช่วยกันจับกุมตัวไว้ได้ โดยนายชัชวาลได้หลบหนีและจอดรถทิ้งไว้บริเวณเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 21 ธ.ค. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าวันนี้ (22 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.ท.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รองผกก.สส.สน.ตลิ่งชัน กล่าวว่า ทาง พ.ต.ต.สอาด ดัดธุยะวัตร์ พงส.(สบ 2) เจ้าของคดี ได้ขออนุมัติศาลจังหวัดตลิ่งชัน เพื่อออกหมายจับนายชัชวาล โง้วกิมเซ็ง ผู้ต้องหาที่มีส่วนร่วมในการขับรถยนต์ฮอนด้าซีวิค มารับตัวนายณัฐ และนายสุภัทรแล้ว โดยศาลจังหวัดตลิ่งชันได้อนุมัติหมายจับ ที่ 1850/2552 ลงวันที่ 21 ธ.ค. ข้อหากระทำด้วยประการใดให้ผู้ที่ถูกคุมขังตามอำนาจศาล หลุดพ้นจากการคุมขังไปโดยมีอาวุธปืน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต
พ.ต.ท.สุกิจ กล่าวต่อไปว่า จากการสอบปากคำนายณัฐ และนายสุภัทรอย่างละเอียดแล้ว ทราบว่าผู้ร่วมก่อเหตุมีเพียงนายชัชวาลคนเดียว โดยขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการประสานเรียกตัวเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทั้ง 5 คน ที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาชุดนี้จากเรือนจำคลองเปรม มาทำการสอบปากคำอย่างละเอียด โดยแนวทางการสอบสวนนั้นจะเริ่มตั้งแต่เส้นทางการเดินรถ กระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุ ว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ในส่วนของฝ่ายสืบสวนทั้งของ สน.ตลิ่งชัน สืบ 7 และสืบ 4 ได้พยายามร่วมกันสืบสวนไล่ล่าจับกุมตัวนายชัชวาลอย่างเต็มความสามารถ ซึ่งขณะนี้ก็ได้ประสานงานร่วมกันอยู่ โดยล่าสุดจากการตรวจสอบรถยนต์แล้วพบว่า รถยนต์คันที่นำมาก่อเหตุดังกล่าว เป็นของนายสัมฤทธิ์ ลอยบุญ อยู่ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจำเป็นต้องเรียกมาสอบสวนอย่างละเอียด เนื่องจากไม่ทราบว่านายชัชวาล นำรถยนต์คันดังกล่าวมาได้อย่างไร ต้องตรวจสอบดูว่าเลขตัวถังรถยนต์ตรงกับหมายเลขเครื่อง ตลอดจนมีการสวมทะเบียนหรือเปล่า
ด้าน พ.ต.ท.นิกร ด้วงฉุน สว.สส.สน.ตลิ่งชัน กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว ตลอดจนสอบพยานแวดล้อมอย่างละเอียด และได้มีการจัดกำลังจำนวนหนึ่งไปเฝ้าตามสถานที่ที่คาดว่านายชัชวาล จะเดินทางไปกบดาน ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และภูมิลำเนาต่างจังหวัด แต่พฤติกรรมของนายชัชวาลนั้น มักชอบไปหลบนอนตามโรงพยาบาลต่างๆ และเน้นโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียง นอนประมาณ 10 วัน แล้วก็จะหลบหนี ซึ่งขณะนี้ก็ได้เฝ้าดูอย่างใกล้ชิดตามโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงด้วย
ทางด้าน นายชาติชาย สุทธิกรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ ผบ.เรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพฯ เร่งรัดตรวจสอบที่มาของวัตถุระเบิดปลอมที่กลุ่มผู้ต้องหาและนักโทษทำขึ้นว่าได้มาจากไหนใครนำมาให้ โดยการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆในเรือนจำซึ่งจะทราบผลภายใน 3 วัน หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทำระเบิดปลอมในครั้งนี้จะสั่งลงโทษตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวต่อไปว่า เบื้องต้นเชื่อว่านายชัชวาลย์ โง้วกิมเซ็ง ผู้ต้องหาที่หลบหนีไปน่าจะใช้รถยนต์คันก่อเหตุขับเข้ามาในเรือนจำบ่อยครั้ง เพื่อเยี่ยมกลุ่มผู้ต้องขังแก๊งหมูสกปรก ซึ่งจากนี้ไปทางกรมราชทัณฑ์ได้สั่งกำชับให้เพิ่มมาตรการการรักษาความปลอดภัย โดยคุมเข้มทั้งขณะที่อยู่ในเรือนจำ และโดยเฉพาะช่วงเคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่เรือนจำระหว่างนำตัวไปขึ้นศาล ซึ่งปกติก็มีมาตรการคุมเข้มอยู่แล้ว แต่ต่อไปต้องเข้มงวดมากขึ้นกว่าเดิม และต้องจับตามองกลุ่มแก๊งหมูสกปรกเป็นพิเศษ ซึ่งขณะนี้มีการลงโทษด้วยการแยกขังเดี่ยวพร้อมกับตีตรวนใส่กุญแจมือ ขณะเดียวกันห้ามญาติเยี่ยมเป็นระยะเวลาหนึ่ง หากเป็นนักโทษที่เด็ดขาดแล้วก็ต้องถูกทางเรือนจำสั่งลดชั้นนักโทษ แต่ผู้ต้องขังแก๊งหมูสกปรกนี้ยังถือว่าไม่ใช้นักโทษเด็ดเขาด เพราะอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีจึงไม่จำเป็นต้องให้ลดชั้นนักโทษ
ทั้งนี้ ส่วนการลงโทษหรือเพิ่มโทษที่ผู้ต้องหากระทำความผิดพยายามหลบหนี ระหว่างนำตัวส่งขึ้นศาล ต้องรอให้ศาลพิจารณาโทษ หากสั่งลงโทษจำคุกเพิ่มเติม กรมราชทัณฑ์มีหน้าที่ที่ต้องทำตามคำสั่งศาลเท่านั้น