xs
xsm
sm
md
lg

แก๊ง “ไอ้หมูสกปรก” เย้ยศาล! วางระเบิดหวังชิงตัวเพื่อนโจรแต่ไม่สำเร็จ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

แก๊งไอ้หมูสกปรก ซุกระเบิดประทัดสามเหลี่ยมแบบกระจับ 2 ลูก ทิ้งไว้ข้างรถควบคุมผู้ต้องขังเรือนจำพิเศษธนบุรี หน้าประตูทางเข้าศาลตลิ่งชัน ชิงตัวผู้ต้องขัง 5 คน คดีลักทรัพย์กว่า 200 ล้าน แต่ทำงานพลาด-ไม่รอด ผู้คุมตามตะครุบตัวได้ทั้งหมด ส่วนเพื่อนโจรก่อเหตุอีก 2 ที่ควบซีวิคเข้ามากะชิงตัว ขับหนีเจอทางตันทิ้งรถหลบหนี ค้นในรถเจอ .38 กระสุนเต็มแมก ขณะที่ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลตลิ่งชั่นระบุ เหตุเกิดเพราะ จนท.ไม่ส่งผู้ต้องขังยังจุดที่กำหนดในศาล ถือเป็นเหตุอุกอาจ ปัดตอบเป็นความผิดของใคร


วันนี้ (21 ธ.ค.) เมื่อเวลา 08.30 น. พ.ต.ท.สอาด ดัดธุยะวัตร์ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ตลิ่งชัน รับแจ้งเหตุคนร้ายปาระเบิดพยายามชิงตัวผู้ต้องหาแก๊งลักทรัพย์ตู้เซฟหลายร้อยล้านบาท ที่นำตัวมาขึ้นศาลจากเรือนจำคลองเปรม จำนวน 5 คน บริเวณหน้าทางเข้าศาลจังหวัดตลิ่งชัน ถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน ผกก.สส.น.7 พ.ต.ท.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รอง ผกก.สส.สน.ตลิ่งชัน และเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้วัตถุระเบิด บก.ตปพ.

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณประตูด้านหน้าทางเข้า เจ้าหน้าที่พบวัตถุทรงสี่เหลี่ยมขนาดความยาว 10 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 2 เซนติเมตร ห่อหุ้มด้วยถุงเท้ามีเทปกาวสีดำพันมิดชิด มีสายชนวนยื่นออกมาจำนวน 2 ลูก ถูกทิ้งไว้ข้างรถควบคุมผู้ต้องขังเรือนจำพิเศษธนบุรี หมายเลขทะเบียน 41-3505 กทม. ห่างกันประมาณ 1 เมตร พบวัตถุคล้ายระเบิดบรรจุด้วยกล่องสี่เหลี่ยมคล้ายกล่องนมพันเทปกาวสีดำ มีการต่อสายไฟ จำนวน 1 ลูก จึงนำเอายางรถยนต์มาครอบ พร้อมกันเป็นพื้นที่อันตราย และกันประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากบริเวณจุดเกิดเหตุ จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบพบว่าวัตถุคล้ายระเบิดทั้งหมดเป็นปะทัดสามเหลี่ยมแบบกระจับ จำนวน 2 ลูก บรรจุอยู่ภายในถุงเท้าสีดำแล้วพันด้วยเทปกาวสีดำ ขณะที่วัตถุคล้ายระเบิดที่บรรจุอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยมคล้ายกล่องนมนั้น ภายในพบเป็นหลอดยาดมบรรจุอยู่ภายใน จำนวน 2 หลอด จึงส่งมอบให้พนักงานสอบสวนเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ใกล้กันพบรถควบคุมผู้ต้องหาเรือนจำพิเศษกรุงเทพ หมายเลขทะเบียน 40-1558 นนทบุรี จอดอยู่บริเวณด้านนอกประตูทางเข้า โดยเจ้าหน้าที่เรือนจำ และรปภ.ศาลได้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาชายและหญิงทั้งหมด 5 คนที่นำขึ้นรถมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ มาส่งยังห้องควบคุมชั้นล่างศาลจังหวัดตลิ่งชัน เพื่อรอการนัดพิจารณาคดี ประกอบด้วย 1.นางวรัญญาภรณ์ เตรียมธนวัชร์ อายุ 27 ปี 2.น.ส.วลัยลักษณ์ ศรีประไพ อายุ 27 ปี 3.นายสุภัทร หรือทอม เนินวิเชียร อายุ 29 ปี 4.นายณัฐ หรือโต้ง ชาหอม อายุ 30 ปี และ 5.นายพีรวัตร หรือพี ตะวันธรงค์ อายุ 23 ปี ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาคดีร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน และร่วมกันรับของโจร แก๊งเดียวกับ นายหทัย หรืออ๊อฟ ไชยวัณณ์ อายุ 38 ปี นักแข่งรถชื่อดังเจ้าของฉายา “ไอ้หมูสกปรก” ที่ก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์ตู้เซฟของผู้เสียหายมูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท เอาไว้ก่อนจะส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปสอบสวน

จากการสอบถาม นายสุธิพร บุญยพรรค พนักงานขับรถเรือนจำพิเศษกรุงเทพ กล่าวว่า ตนเองพร้อมเจ้าหน้าที่ 4 คน ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาจากเรือนจำคลองเปรม โดยมีผู้ต้องหานั่งมาภายในรถจำนวน 5 คน เป็นหญิง 2 คน ชาย 3 คน เมื่อมาถึงบริเวณศาลซึ่งปกติจะต้องนำรถเข้าไปจอดที่ภายในศาล แต่วันนี้เห็นว่ามีรถควบคุมผู้ต้องหาของเรือนจำพิเศษธนบุรีจอดอยู่ จึงได้จอดด้านนอก เมื่อผู้ต้องหาคนแรกคือนายพีระวัฒน์ เดินลงจากรถโดยมีผู้คุมเฝ้าดูแลอยู่นั้น ได้ยินเสียงของนายณัฐ หนึ่งในผู้ต้องหาตะโกนร้องมาว่าระเบิด จึงหันไปดูก็พบว่ามีวัตถุคล้ายระเบิดตกอยู่ ขณะที่นายณัฐ และนายสุภัทร ได้พยายามอาศัยความโกลาหลวิ่งหนีจะไปขึ้นรถเก๋งฮอนด้าซีวิคที่มีคนขับมาจอดรอบริเวณข้างรถอย่างรวดเร็ว แต่เจ้าหน้าที่ศาลพร้อมเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวพยายามขัดขวางและจับกุม ทำให้คนร้ายที่มาพยายามชิงตัวผู้ต้องหาประมาณ 2 คนขับขี่รถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว บริเวณท้ายซอยโดยไม่สามารถชิงตัวผู้ต้องหาไปได้

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงรุดไปตรวจสอบบริเวณท้ายซอยห่างจากที่เหตุประมาณ 800 เมตร สุดทางถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน พบรถเก๋งฮอนด้าซีวิค สีเขียว ทะเบียน ภก 3598 กทม. ติดฟิล์มกรองแสงทึบ สภาพกันชนท้ายด้านขวาห้อยต่องแต่ง โดยที่ประตูทั้ง 2 ด้านยังเปิดทิ้งไว้และเครื่องยนต์ยังติดเครื่องอยู่ ตรวจสอบภายในรถยนต์มีอาวุธปืนขนาด .38 มม. พร้อมเครื่องกระสุนจำนวน 10 นัด วางอยู่ที่เบาะคนขับ ขณะที่คนร้าย 2 คนที่พยายามชิงตัวผู้ต้องหา วิ่งหลบหนีไปตามทางรถไฟ ทราบชื่อหนึ่งในนั้นที่ทำหน้าที่คนขับชื่อนายชัชวาลย์ โง้วกิมเซ้ง อยู่บ้านเลขที่ 171 หมู่ 6 อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง ซึ่งเพิ่งได้ประกันตัวออกมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ขณะที่ พ.ต.ท.สุกิจ กล่าวว่า จากการสอบพยานแวดล้อมทราบว่าคนที่ปาระเบิด คือ นายณัฐ สมาชิกแก๊งลักทรัพย์ทีมเดียวกับนายหทัย ไชยวัณณ์ และจากการสอบปากคำทราบว่าระเบิดดังกล่าวนั้นทำขึ้นจากในเรือนจำ ซุกซ่อนอยู่บนช่องระบายอากาศหลังคารถส่งตัวผู้ต้องหา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุก็นำออกมาปาเพื่อสร้างให้เกิดความโกลาหล โดยมีการนัดแนะกับนายชัชวาลย์ ซึ่งรู้จักกันภายในเรือนจำให้นำรถยนต์มารอรับ ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และสายตรวจเดินเท้ากระจายกำลังกันเร่งทำการตรวจสอบสกัดจับเป็นการเร่งด่วน เนื่องจากทราบว่านายชัชวาลย์ได้หลบหนีไปตามทางรถไฟมุ่งหน้าไปทางหมู่บ้านมณฑการ โดยเชื่อว่าคนร้ายไม่รู้จักเส้นทางและไม่ได้ทำการศึกษาเส้นทางมาก่อน ทำให้ขับขี่เข้ามายังทางตันที่เส้นทางรถยนต์ไม่สามารถขับต่อไปได้

ต่อมาเมื่อเวลา 11.30 น.วันเดียวกัน นายภัทรศักดิ์ ศิริสินธว์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลจังหวัดตลิ่งชัน เปิดแถลงข่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ที่มากับรถขังผู้ต้องหาเรือนจำพิเศษกรุงเทพ หมายเลขทะเบียน 40-1558 นนทบุรี วันนี้ประกอบด้วย 1.นางวรัญญาภรณ์ เตรียมธนวัชร์ อายุ 27 ปี 2.น.ส.วลัยลักษณ์ ศรีประไพ อายุ 27 ปี 3.นายสุภัทร หรือทอม เนินวิเชียร อายุ 29 ปี 4.นายณัฐ หรือโต้ง ชาหอม อายุ 30 ปี และ 5.นายพีรวัตร หรือพี ตะวันธรงค์ อายุ 23 ปี ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาคดีร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน และร่วมกันรับของโจร ซึ่งวันนี้ศาลนัดพิจารณาคดี ในคดีหมายเลขดำที่ อ.9014/2552 โดยเหตุแห่งคดีเกิดขึ้นช่วงเดือน ก.ค.50 - พ.ค.52 ท้องที่ สน.ธรรมศาลา มีมูลค่าความเสียหายกว่า 2,428,000 บาท

นายภัทรศักดิ์กล่าวอีกว่า ส่วนการก่อเหตุในครั้งนี้มีผู้ร่วมวางแผนการกันจำนวน 3 คน คือ นายณัฐ หรือโต้ง ชาหอม อายุ 30 ปี นายสุภัทร หรือทอม เนินวิเชียร อายุ 29 ปี และ นายชัชวาลย์ โง้วกิมเซ้ง อายุ 26 ปี ชาว จ.ลำพูน ซึ่งเป็นอดีตผู้ต้องขังคดีฉ้อโกง รพ.ยันฮี ที่ได้รับการประกันตัวออกไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและทั้ง 3 รายก็เข้าไปทำความรู้จักกันในเรือนจำ โดยจำเลยทั้ง 2 คน เห็นว่า มีคดีลักทรัพย์ติดตัวอยู่กว่า 20 คดี และมีอัตราโทษสูง โดยจำเลยได้ยื่นขอประกันตัวต่อศาลมาแล้วหลายครั้งแต่ศาลไม่อนุญาตเนื่องจากมีคดีติดตัวจำนวนมาก จึงรวมหัวกับนายชัชวาลย์ เพื่อวางแผนกับหลบหนีการควบคุม

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้านั้น ศาลทำการตรวจสอบแล้วพบว่า ที่ผ่านมา นายสุภัทร กับนายณัฐนั้นเดินทางมาที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน ถึง 3 ครั้งแล้ว ทำให้รู้ว่ารถขังผู้ต้องหาจะต้องวิ่งผ่านจากถนนเข้าไปจอดในช่องหน้าห้องควบคุมชั้นล่าง แต่กรณีที่เกิดขึ้นพบว่า รถของเรือนจำพิเศษกรุงเทพจอดอยู่ด้านหน้าประตูทางเข้าก่อนนำตัวผู้ต้องขังลงจากรถโดยไม่ได้นำรถเข้ามาจอดในช่องตามระเบียบปฏิบัติ ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบอ้างว่า จะต้องไปส่งจำเลยที่ศาลอีกหลายแห่งจึงจอดรถไว้หน้าประตู

นายภัทรศักดิ์กล่าวต่อไปว่า ช่วงเวลาที่เกิดเหตุผู้ต้องขังที่เดินลงมาจากรถคนแรกก็คือนายพีรวัตร ตามด้วย นายณัฐเป็นคนที่สอง และนายสุภัทรเป็นคนที่สาม ซึ่งก่อนหน้านี้ นายณัฐและ นายสุภัทรได้ร่วมกันวางแผนกับนายชัชวาลย์ ตั้งแต่วันจันทร์ ที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา จนกระทั่งวางแผนสรุปเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อวันศุกร์ที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมาแล้วว่า นายชัชวาลย์จะเป็นผู้ประกอบระเบิดนำไปซุกไว้ให้บนช่องระบายอากาศหลังคารถขนผู้ต้องขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถเดินผ่านรถดังกล่าวได้อย่างง่ายดายเพราะรถถูกนำไปจอดไว้หน้าเรือนจำ จากนั้นนายชัชวาลย์ยังนัดหมายด้วยว่าจะนำรถเก๋งสีเขียวเข้มมาจอดรับหน้าศาลจังหวัดตลิ่งชัน หากช่วยเหลือนายณัฐและนายสุภัทรได้สำเร็จแล้วก็จะพาขับรถไปกบดานที่ จ.ชลบุรี ก่อน แล้วจึงจะพาหลบหนีเข้าประเทศกัมพูชาต่อไป ถึงแม้ว่านายสุภัทรกับนายณัฐจะถูกขังแยกกันคนละแดนแต่แผนการทั้งหมดก็สรุปกันสำเร็จในวันเยี่ยมญาติซึ่งผู้ต้องขังสามารถมาพบเจอกันได้ ส่วนนายชัชวาลย์ จำเลยในคดีฉ้อโกงซึ่งได้รับการประกันตัวออกไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและในวันนี้ นายชัชวาลย์ก็มีนัดพิจารณาคดีที่ศาลอาญารัชดาอีกด้วย แต่ปรากฏว่าทางศาลได้ออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้วเนื่องจากนายชัชวาลย์ไม่ไปขึ้นศาลตามเวลาที่กำหนด

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นความละเลยของเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพหรือไม่ นายภัทรศักดิ์ตอบว่า เรื่องนี้ทางศาลไม่ขออกความคิดเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์รายใดรู้เห็นกับกลุ่มผู้ต้องขังหรือไม่ แต่หากเจ้าหน้าที่ขับรถเข้ามาส่งผู้ต้องขังยังจุดจอดรถตามกฎที่กำหนดเหตุการณ์ทั้งหมดก็จะไม่เกิดขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ต้องบอกว่าเสี่ยงมาก เพราะตำรวจตรวจพบอาวุธปืนขนาด .38 พร้อมเครื่องกระสุนถึง 10 นัดในรถเก๋งคันที่นายชัชวาลย์จอดทิ้งไว้ก่อนหลบหนี หากนายชัชวาลย์ใช้ปืนดังกล่าวยิงใส่เจ้าหน้าที่ก็ต้องมีผู้เสียชีวิตอย่างแน่นอน เพราะตอนที่กลุ่มผู้ต้องขังลงจากรถทราบว่า เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ถืออาวุธปืนลงมาคุ้มกันด้วย อาจเป็นเพราะความเคยชินที่เดินทางมาส่งผู้ต้องขังที่ศาลครั้งใดก็ปลอดภัยไม่เคยเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นมาก่อน

“อย่างไรก็ตาม การชิงตัวผู้ต้องขังในศาลนั้นถือเป็นเรื่องอุกอาจมาก สำหรับจำเลยทั้ง 2 คน คือ นายณัฐ และนายสุภัทร จะถูกแจ้งข้อหาละเมิดอำนาจศาล มีโทษจำคุก 6 เดือน และหลบหนีการคุมขัง มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท ส่วนนายชัชวาลย์นั้นจะถูกแจ้งข้อหากระทำการใดๆ ให้ผู้ถูกคุมขังหลบหนี มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 14,000 บาท แต่ศาลยังต้องดูด้วยว่า กรณีนี้จะเข้าข่ายร่วมกันครอบครองอาวุธปืนด้วยหรือไม่ และกำลังรอการพิจารณาอยู่ด้วยว่า เรือนจำพิเศษกรุงเทพ หรือเรือนจำพิเศษธนบุรี จะเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อไป” นายภัทรศักดิ์กล่าว

ด้าน นายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้นายฐานิต ศรียะพันธ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เดินทางไปยังที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นทราบว่านายณัฐ หรือโต้ กับพวกได้ถูกเบิกตัวออกไปจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ตามคำสั่งศาลจังหวัดตลิ่งชันเพื่อนัดแถลงปิดคดี

โดยขณะที่รถของเรือนจำเข้าจอดเทียบประตู นายณัฐ หนึ่งในผู้ต้องขัง ได้โยนระเบิดปลอมเพื่อสร้างความวุ่นวาย ก่อนจะพยายามหลบหนีไปขึ้นรถยนต์ ซึ่งนายชัชวาล ขับมาจอดรอเพื่อชิงตัวผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องขังทั้ง 2 คนถูกล่ามโซ่ตรวนจึงวิ่งหนีไม่ถนัด เจ้าหน้าที่เรือนจำวิ่งตามจับกุมตัวได้ทัน

นายชาติชาย กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้นายโสภณ ธิติธรรมพฤกษ์ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตรวจสอบข้อมูลการเข้าเยี่ยมของกลุ่มญาติผู้ต้องหา และตรวจสอบเทปจากกล้องวงจรปิดเพื่อพิสูจน์ว่า รถยนต์คันดังกล่าวที่นายชัชวาล ใช้เป็นยานพาหนะในการนำผู้ต้องหาหลบหนีเคยเข้า-ออกที่เรือนจำหรือไม่ นอกจากนี้จะให้มีการตรวจสอบเรื่องระเบิดปลอมที่นำไปใช้ในการก่อเหตุว่าผู้ต้องขังนำมาจากที่ไหน หรือใครเป็นผู้จัดหาและส่งเข้ามาให้ในเรือนจำ
นายณัฐ หรือโต้ง ชาหอม อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ที่พยายามจะหลบหนี



เจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บวัตถุต้องสงสัยไว้ตรวจสอบ
รถเก๋งฮอนด้าซีวิค สีเขียว ทะเบียน ภก 3598 กทม. ติดฟิล์มกรองแสงทึบ ที่นายชัชวาลย์ขับมาจอดรอเพื่อชิงตัวผู้ต้องหา
นายชัชวาลย์ โง้วกิมเซ้ง ผู้ต้องหาที่มาดักรอชิงตัวนักโทษซึ่งอยู่ระหว่างการหลบหนี
กำลังโหลดความคิดเห็น