นายกรัฐมนตรี สั่งตำรวจไล่ล่ามือสังหาร นักธุรกิจสาวไฮโซ ประธาน “ไพร์ม เนเจอร์” ให้ได้ โดยตำรวจมุ่งปมความขัดแย้งทางธุรกิจ ชนวนสังหารหลัก หลังไม่พบความขัดแย้งของผู้ตายในเรื่องอื่น พร้อมนำพยานที่เห็นเหตุการณ์ไปสเกตช์ภาพคนร้ายแล้ว เพื่อรอดูว่า ภาพสเกตช์จะสามารถนำไปขออนุมัติหมายจับได้หรือไม่ เชื่อมือปืนอาชีพ ลั่นไก 3 นัดเข้าเป้าอย่างแม่นยำ ขณะที่มีรายงานข่าว ระบุ ตำรวจพบหลักฐานคนร้าย ผูกเปลนอนซุ่มดูความเคลื่นไหวของเหยื่อมาถึง 1 สัปดาห์ ก่อนจะลงมือลั่นไกสังหาร ญาติเศร้ารับศพ
วันนี้ (30 พ.ย.) ที่ สน.อุดมสุข พ.ต.อ.อาณัติ เกล็ดมณี รอง ผบก.น.4 กล่าวถึงความคืบหน้าในการคลี่คลายคดีคนร้ายดักยิง นางสุนัทที เนื่องจำนงค์ อายุ 45 ปี ประธานกรรมการ และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มบริษัท ไพร์ม เนเจอร์ กรุ๊ป จำกัด ภรรยา พล.ต.ต.ปิยะชาติ เนื่องจำนงค์ อดีตรอง ผบช.น.เสียชีวิต ว่า ในช่วงเวลา 14.00 น.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ภาณุพงษ์ สิงหรา ณ อยุธนา ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้เรียกประชุมชุดคลี่คลายคดีที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยมีการเรียกฝ่ายสืบสวนของศูนย์สืบสวน บช.น.ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.4 ฝ่ายสืบสวน สน.อุดมสุข และฝ่ายสืบสวนของ บก.ป.เข้าร่วมประชุมหาทิศทางในการคลี่คลายคดี
พ.ต.อ.อาณัติ กล่าวว่า ขณะนี้ ทางพนักงานสอบสวน ได้สอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ไปเพียง 1 ปากเท่านั้น และจะนำพยานที่เห็นเหตุการณ์คนดังกล่าว ไปสเกตช์ภาพคนร้าย ที่กองทะเบียนประวัติอาชญากร จากนั้น จะมาดูความชัดเจนของภาสพสเกตช์ของคนร้ายว่า จะสามารถออกหมายจับตามภาพสเกตช์ได้หรือไม่ ส่วนคนร้ายคาดว่า น่าจะเป็นมืออาชีพ เพราะกระสุนทั้ง 3 นัด ถูกยิงเข้าเป้าอย่างแม่นยำหมด
“เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน ได้เข้าไปสอบปากคำครอบครัวของผู้ตาย โดย พล.ต.ต.ปิยะชาติ เนื่องจำนงค์ อดีตรอง ผบช.น.สามีของผู้ตายยังไม่ได้ให้การอะไรมากนัก ส่วนประเด็นปมสังหาร ยังไม่ได้มุ่งปมไหนเป็นหลัก แต่คาดว่า น่าจะมาจากเรื่องธุรกิจที่ผู้ตายดำเนินการอยู่ เพราะนอกนั้น ไม่พบว่า ผู้ตายไปมีเรื่องราวขัดแย้งกับใคร” พ.ต.อ.อาณัติ กล่าว
รอง ผบก.น.4 กล่าวต่อว่า การแบ่งงานในการคลี่คลายคดีนี้นั้น ทางศูนย์สืบสวน บช.น.กำลังเช็กข้อมูลในเรื่องความขัดแย้งทางด้านธุรกิจ ส่วน กก.สส.บก.น.4 ได้รับผิดชอบให้ดูแลเรื่องเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย ขณะที่ทางฝ่ายสืบสวนของสน.อุดมสุขนั้น จะดูแลในเรื่องการสรุปผล และรายงานให้ทาง บช.น.ทราบ ส่วนกองปราบปราม จะดูแลในเรื่องข้อมูลของคดีที่ไปเกี่ยวข้องกับพื้นที่ในต่างจังหวัด
มีรายงานระบุว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทาง พล.ต.ต.สมวุฒิ วรรณพิรุณ ผบก.น.4 ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.4 ลงไปตรวจสอบยังพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง ตั้งแต่บริเวณหน้าทางเข้าโครงการ จากปากซอยที่เกิดเหตุไปประมาณ 200 เมตร ซึ่งชุดสืบสวนพบว่า มีการผูกเปลนอนอยู่ใต้ต้นไม้ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุที่คนร้ายลงมือมากนั้น โดยบริเวณดังกล่าวยังพบ นสพ.คมชัดลึก ฉบับวันที่ 17 พ.ย.รวมทั้งก้นกรองบุหรี่สายฝนตกอยู่จำนวนมาก และเมื่อสอบถามชาวบ้านใกล้เคียงในละแวกดังกล่าว ได้ทราบข้อมูลว่า เคยเห็นชาย 2 คนมาซุ่มผูกเปลนอนอยู่บริเวณดังกล่าวได้ประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว แต่หลังเกิดเหตุ ชายทั้ง 2 คนดังกล่าวก็หายหน้าไป ทั้งนี้ ทางฝ่ายสืบสวน ได้เก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุทั้งหมด ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบแล้ว เพื่อหาเบาะแสของคนร้ายรายนี้ต่อไป
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 14.00 น.ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ พล.ต.ต.ปิยะชาติ เนื่องจำนงค์ อดีต รอง ผบช.น.พร้อมลูกชายและลูกสาว เดินทางมารับศพ นางสุนัทที เนื่องจำนงค์ โดย พล.ต.ต.ปิยะชาติ ยังคงอยู่ในอาการโศกเศร้า เสียใจเก็บตัวอยู่ในห้องประกอบพิธีศพ และปฏิเสธที่จะให้สัมภาณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผช.ผบ.ตร.ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า แพทย์นิติเวชได้เปิดระบุการชันสูตรศพของ นางสุนัทที ว่า พบหัวกระสุนซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญในคดี จำนวน 2 หัว ฝังอยู่ในตัวศพ ที่บริเวณไหปลาร้าด้านซ้ายและตรงหน้าอก ซึ่งแพทย์สามารถผ่าออกมาได้ อยู่ในสภาพสมบูรณ์ โดยจะส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานไปตรวจหาชนิดของกระสุน เพื่อประกอบการดำเนินคดี ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตคือ กระสุนจำนวน 1 นัดที่ผ่านทะลุขั้วหัวใจทำให้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ โดยคนร้ายลั่นกระสุนปืนในระยะกระชั้นชิดทางด้านขวาของผู้ตายทั้งหมด และกระสุนพุ่งทะลุกระจกถูกผู้ตาย 3 นัด
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวต่อว่า คดีนี้ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร.ได้สั่งการทันที่ทีทราบเหตุการณ์โดยให้ พล.ต.อ.ภานุพงษ์ สิงหรา ณ อยุธยา รรท.ที่ปรึกษา สบ 10 ซึ่งดูแลการทำงานของ บช.น.และบช.ก. ให้ติดตามการทำงานของคดีนี้อย่างใกล้ชิด และให้พนักงานสอบสวน รายงานให้ทราบเป็นระยะ นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็กำชับต้องจับคนร้ายให้ได้ เพราะเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจ สะเทือนขวัญ พฤติกรรมของคนร้ายมีลักษณะเป็นมือปืนรับจ้าง และ ผู้ตายก็เป็นสตรี
โฆษก ตร.กล่าวต่อว่า จากการที่ได้พูดคุยกับพล.ต.ต.ปิยะชาติ สามีของผู้ตายก็ยังยืนยันถึงสาเหตุเดิม คือ เรื่องธุรกิจ ซึ่งทาง พล.ต.ต.ปิยะชาติ ก็ให้การกับพนักงานสอบสวนไปแล้ว แต่ทั้งนี้ จะมีสาเหตุใดเพิ่มเติมก็คงให้พนักงานสอบสวนทำงานก่อน การเปิดเผยอะไรไปตอนนี้ อาจส่งผลกระทบต่อรูปคดีได้ สำหรับ พล.ต.ต.ปิยะชาติ ก็สามารถร้องขอกับพนักงานสอบสวนให้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปคุ้มครองความปลอดภัยได้
ก่อนหน้านี้ ที่ห้องประชุมปารุสกวัน 1 กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รรท.ที่ปรึกษา (สบ10) พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.) พล.ต.ต.วินัย ทองสอง รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน (ผบก.สส.) พล.ต.ต.สมวุฒิ วรรณพิรุณ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4(ผบก.น.4) พ.ต.อ.ประยนต์ ลาเสือ รรท.ผบก.กต.9 จต. พ.ต.อ.อาณัติ เกล็ดมณี รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.นรศักดิ์ เหมนิธิ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ปกรณ์ กิตติวัฒน์ ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.อ.สรรค์หกิจ บำรุงสุขสวัสดิ์ ผกก.สน.อุดมสุข พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ช่วยราชการ รอง ผกก.1 บก.ป. พร้อมฝ่ายสืบสวนและเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ร่วมประชุมหาแนวทางการติดตามคนร้ายในคดีดังกล่าว
หลังการประชุมเสร็จสิ้น พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. เป็นห่วงในคดีนี้มากได้สั่งการให้ตนประสาน บช.ก. และบช.น. ในการติดตามคนร้าย เท่าที่ประชุมวันนี้เป็นการสรุปพยาน หลักฐานในที่เกิดเหตุ โดยได้ประชุมและบ่งงานกันทำ เชื่อว่าจะสามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้ แต่ขอเวลาตำรวจทำงานสักระยะหนึ่ง
พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของที่เกิดเหตุได้ภาพสเกตซ์ และหลักฐานอาวุธปืน เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นขนาด.38 โดยในส่วนของสาเหตุก็เริ่มชัดเจนขึ้น และตัดประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป เชื่อว่าจะสามารถติดตามตัวคนร้ายได้ ส่วนฉนวนในการสังหารครั้งนี้เดี๋ยวจับกุมคนร้ายได้ก็จะรู้สาเหตุ โดยขณะนี้มุ่งประเด็นไปถึงธุรกิจที่ทำ
ด้านพล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่า เราคงไม่ใช่ซินแสหรือหมอดูว่าจะจับได้เมื่อใด พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ ก็เร่งรัดเต็มที่ ตอนนี้กำลังตรวจสอบพยานหลักฐานให้แน่ชัดและรัดกุมมากว่านี้เพื่ออนุมัติขอออกหมายจับคนร้าย ส่วนซุ้มมือปืนต่างๆกำลังตรวจสอบอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากนั้น พล.ต.ท.สัณฐาน ได้เผยแพร่ภาพสเกตซ์คนร้ายทั้งสองคน ซึ่งเป็นลักษณะสวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้าส่วนอื่น เหลือเพียงตาและสันจมูกเท่านั้น
ด้านพ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รักษาการ ผบก.ป.กล่าวถึงกรณีสังหารโหด นางสุนัทที เนื่องจำนงค์ หรือบิ๊ก อายุ 45 ปี ไฮโซสาว เจ้าของบริษัท ไพร์ม เนเจอร์วิลล่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง ภรรยาของ พล.ต.ต.ปิยะชาติ เนื่องจำนงค์ อดีต ผบก.ประจำ สำนักงาน ผบ.ตร.ว่า ทาง พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รักษาราชการแทน ที่ปรึกษา (สบ 10) เทียบเท่า รอง ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน บก.ป.ร่วมสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีดังกล่าวร่วมกับทาง บช.น.เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ซึ่งตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.นรศักดิ์ เหมนิธิ รอง ผบก.ป.จัดชุดสืบสวนเร่งสำรวจประวัติอาชญากรคดีฆ่าและพยายามฆ่า คดีครอบครองอาวุธปืนของกลุ่มวัยรุ่นที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปีทั้งหมด รวมทั้งประสานข้อมูลจากเรือนจำและทัณฑสถานต่างๆ หลังจากมีข้อมูลเบื้องต้นว่า คนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะในการก่อเหตุแล้วหลบหนีไป
พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ตนได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของบริษัท ห้างร้านในพื้นที่โดยรอบที่เกิดเหตุ ลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทาง ที่คาดว่าคนร้ายน่าจะใช้ในการหลบหนี และสืบหาพยานแวดล้อมที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุเพื่อรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ก็จะประสานกับผู้ให้บริการโทรศัพท์ในเครือข่ายต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ในช่วงเวลาเกิดเหตุอย่างละเอียด ก่อนจะประสานข้อมูลกับตำรวจท้องที่ต่อไป โดยเชื่อว่าน่าจะติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุรายนี้ได้อย่างแน่นอน
“ภาณุพงศ์” ถกไล่ล่ามือสังหารโหดไฮโซ “สุนัทที” - สามีเชื่อปมธุรกิจ
ยิงดับสาวไฮโซ “สุนัทที เนื่องจำนงค์”