อธิบดีราชทัณฑ์สั่งสอบลึกทุกประเด็น เหตุคนร้ายวางระเบิดชิงผู้ต้องขังหน้าศาลตลิ่งชัน เชื่อมูลเหตุจูงใจต้องการหลบหนี หลังถูกดำเนินคดีลักทรัพย์อ่วมกว่า 20 คดี พร้อมตรวจดูวงจรปิดล่าหาต้นตอ ขณะที่ “ไอ้หมูสกปรก” ปฏิเสธไม่เอี่ยวเหตุดังกล่าว
วันนี้ (21 ธ.ค.) นายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณีคนร้ายบุกชิงตัวผู้ต้องขังหน้าศาลจังหวัดตลิ่งชันว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นว่า เมื่อเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้ควบคุมตัวผู้ต้องขัง 5 คน จากเรือนจำเพื่อไปส่งยังศาลจังหวัดตลิ่งชัน และศาลธนบุรี โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้รถคุมขังของเรือนจำนำผู้ต้องขังไปส่งจุดแรกที่ศาลจังหวัดตลิ่งชันก่อน จากนั้นจะขับรถควบคุมผู้ต้องขังไปส่งต่อที่ศาลธนบุรี โดยขณะเกิดเหตุเมื่อรถไปจอดหน้าศาลจังหวัดตลิ่งชัน ผู้ต้องขังก็เดินลงจากรถโดยมีโซ่ตรวนผูกติดกันไว้ และมีคนตะโกนว่ามีระเบิดเพื่อสร้างความวุ่นวาย ผู้ต้องขังคดีชิงทรัพย์ 2 คนก็พยายามหลบหนี แต่ถูกเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษธนบุรี จับกุมไว้ได้ ส่วนมูลเหตุจูงใจเชื่อว่าคงต้องการหลบหนี เนื่องจากผู้ต้องขังกลุมนี้ถูกดำเนินคดีลักทรัพย์กว่า 20 คดี จึงนัดแนะให้คนร้ายมาก่อเหตุดังกล่าว
อธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าวต่อไปว่า ได้สั่งการให้นายโสภณ ธิติธรรมพฤกษ์ รักษาการ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตรวจสอบข้อมูลการเข้าเยี่ยมของกลุ่มญาติผู้ต้องหา และตรวจสอบเทปจากกล้องวงจรปิดเพื่อพิสูจน์ว่ารถยนต์คันดังกล่าวที่คนร้ายใช้เป็นยานพาหนะในการนำผู้ต้องหาหลบหนีเคยเข้า-ออกที่เรือนจำหรือไม่ นอกจากนี้จะให้มีการตรวจสอบเรื่องระเบิดปลอมที่นำไปใช้ในการก่อเหตุว่าผู้ต้องขังนำมาจากที่ไหน หรือใครเป็นผู้จัดหาและส่งเข้ามาให้ในเรือนจำ
ส่วนการดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อ 2 ผู้ต้องขัง คงเป็นหน้าที่ของศาลและพนักงานสอบสวน ซึ่งคงต้องหามาตรการคุมเข้มการควบคุมผู้ต้องขังไปศาลให้รัดกุมมากขึ้น เพราะแต่ละวันมีผู้ต้องขังไปศาลกว่า 1 พันคน
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีรายงานจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ว่าหลังเกิดเหตุบุกชิงตัวนักโทษแก๊งหมูบินจากศาลจังหวัดตลิ่งชัน เรือนจำได้สั่งแยกขัง นายสุภัทร หรือทอม เนินวิเชียร และนายณัฐ หรือโต้ง ชาหอม ผู้ต้องขังคดีลักทรัพย์แก๊งหมูสกปรก
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า นายชัชวาลย์ โง้วกิมเซ้ง ผู้ต้องหาก่อเหตุชิงตัวนักโทษแก๊งหมูสกปรก เพิ่งได้รับการประกันตัวก่อนก่อเหตุครั้งนี้ 1 สัปดาห์ โดยระหว่างที่ถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ นายณัฐได้ดูแลความเป็นอยู่ในเรือนจำให้กับนายชัชวาล และอาจมีการตกลงวางแผนนัดวันก่อเหตุชิงตัวระหว่างที่ถูกคุมขังร่วมเรือนนอนเดียวกัน แต่เรือนจำไม่ทราบข่าวหรือระแคะระคายความเคลื่อนไหวของผู้ต้องขังกลุ่มนี้เลย เพราะไม่ใช่ผู้ต้องขังรายสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาผู้ต้องขังที่มักจะหลบหนีระหว่างการนำตัวไปศาล เป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติดและลักทรัพย์ ซึ่งเป็นเพียงการวิ่งหนีทั้งโซ่ตรวน แต่ผู้คุมสามารถวิ่งตามจับกุมตัวกลับมาได้
ส่วนของ นายหทัย ชัยวรรณ เจ้าของฉายา “หมูสกปรก” ซึ่งร่วมก่อเหตุลักทรัพย์บ้านเศรษฐีแล้วนำเงินมาแต่งรถแข่งนั้น ในวันนี้ (21 ธ.ค.) ไม่ได้ถูกเบิกตัวออกไปศาล เพราะไม่ใช่ผู้ต้องหาในคดีของศาลจังหวัดตลิ่งชัน โดยนายหทัยปฏิเสธว่าไม่ทราบเรื่องการวางแผนชิงตัวผู้ต้องขัง และไม่เคยมีความคิดจะหลบหนี เพราะถูกดำเนินคดีลักทรัพย์เพียงคดีเดียว เกี่ยวข้องกับแก๊งเพียงแค่เป็นตัวกลางในการเจรจาขอไกล่เกลี่ยคดีกับตำรวจ
แก๊ง “ไอ้หมูสกปรก” เย้ยศาล! วางระเบิดหวังชิงตัวเพื่อนโจรแต่ไม่สำเร็จ
วันนี้ (21 ธ.ค.) นายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณีคนร้ายบุกชิงตัวผู้ต้องขังหน้าศาลจังหวัดตลิ่งชันว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นว่า เมื่อเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้ควบคุมตัวผู้ต้องขัง 5 คน จากเรือนจำเพื่อไปส่งยังศาลจังหวัดตลิ่งชัน และศาลธนบุรี โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้รถคุมขังของเรือนจำนำผู้ต้องขังไปส่งจุดแรกที่ศาลจังหวัดตลิ่งชันก่อน จากนั้นจะขับรถควบคุมผู้ต้องขังไปส่งต่อที่ศาลธนบุรี โดยขณะเกิดเหตุเมื่อรถไปจอดหน้าศาลจังหวัดตลิ่งชัน ผู้ต้องขังก็เดินลงจากรถโดยมีโซ่ตรวนผูกติดกันไว้ และมีคนตะโกนว่ามีระเบิดเพื่อสร้างความวุ่นวาย ผู้ต้องขังคดีชิงทรัพย์ 2 คนก็พยายามหลบหนี แต่ถูกเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษธนบุรี จับกุมไว้ได้ ส่วนมูลเหตุจูงใจเชื่อว่าคงต้องการหลบหนี เนื่องจากผู้ต้องขังกลุมนี้ถูกดำเนินคดีลักทรัพย์กว่า 20 คดี จึงนัดแนะให้คนร้ายมาก่อเหตุดังกล่าว
อธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าวต่อไปว่า ได้สั่งการให้นายโสภณ ธิติธรรมพฤกษ์ รักษาการ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตรวจสอบข้อมูลการเข้าเยี่ยมของกลุ่มญาติผู้ต้องหา และตรวจสอบเทปจากกล้องวงจรปิดเพื่อพิสูจน์ว่ารถยนต์คันดังกล่าวที่คนร้ายใช้เป็นยานพาหนะในการนำผู้ต้องหาหลบหนีเคยเข้า-ออกที่เรือนจำหรือไม่ นอกจากนี้จะให้มีการตรวจสอบเรื่องระเบิดปลอมที่นำไปใช้ในการก่อเหตุว่าผู้ต้องขังนำมาจากที่ไหน หรือใครเป็นผู้จัดหาและส่งเข้ามาให้ในเรือนจำ
ส่วนการดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อ 2 ผู้ต้องขัง คงเป็นหน้าที่ของศาลและพนักงานสอบสวน ซึ่งคงต้องหามาตรการคุมเข้มการควบคุมผู้ต้องขังไปศาลให้รัดกุมมากขึ้น เพราะแต่ละวันมีผู้ต้องขังไปศาลกว่า 1 พันคน
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีรายงานจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ว่าหลังเกิดเหตุบุกชิงตัวนักโทษแก๊งหมูบินจากศาลจังหวัดตลิ่งชัน เรือนจำได้สั่งแยกขัง นายสุภัทร หรือทอม เนินวิเชียร และนายณัฐ หรือโต้ง ชาหอม ผู้ต้องขังคดีลักทรัพย์แก๊งหมูสกปรก
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า นายชัชวาลย์ โง้วกิมเซ้ง ผู้ต้องหาก่อเหตุชิงตัวนักโทษแก๊งหมูสกปรก เพิ่งได้รับการประกันตัวก่อนก่อเหตุครั้งนี้ 1 สัปดาห์ โดยระหว่างที่ถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ นายณัฐได้ดูแลความเป็นอยู่ในเรือนจำให้กับนายชัชวาล และอาจมีการตกลงวางแผนนัดวันก่อเหตุชิงตัวระหว่างที่ถูกคุมขังร่วมเรือนนอนเดียวกัน แต่เรือนจำไม่ทราบข่าวหรือระแคะระคายความเคลื่อนไหวของผู้ต้องขังกลุ่มนี้เลย เพราะไม่ใช่ผู้ต้องขังรายสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาผู้ต้องขังที่มักจะหลบหนีระหว่างการนำตัวไปศาล เป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติดและลักทรัพย์ ซึ่งเป็นเพียงการวิ่งหนีทั้งโซ่ตรวน แต่ผู้คุมสามารถวิ่งตามจับกุมตัวกลับมาได้
ส่วนของ นายหทัย ชัยวรรณ เจ้าของฉายา “หมูสกปรก” ซึ่งร่วมก่อเหตุลักทรัพย์บ้านเศรษฐีแล้วนำเงินมาแต่งรถแข่งนั้น ในวันนี้ (21 ธ.ค.) ไม่ได้ถูกเบิกตัวออกไปศาล เพราะไม่ใช่ผู้ต้องหาในคดีของศาลจังหวัดตลิ่งชัน โดยนายหทัยปฏิเสธว่าไม่ทราบเรื่องการวางแผนชิงตัวผู้ต้องขัง และไม่เคยมีความคิดจะหลบหนี เพราะถูกดำเนินคดีลักทรัพย์เพียงคดีเดียว เกี่ยวข้องกับแก๊งเพียงแค่เป็นตัวกลางในการเจรจาขอไกล่เกลี่ยคดีกับตำรวจ
แก๊ง “ไอ้หมูสกปรก” เย้ยศาล! วางระเบิดหวังชิงตัวเพื่อนโจรแต่ไม่สำเร็จ