รวบสองแม่ลูกทำตัวเป็นแม่เล้าหลอกสาวผู้ช่วยพยาบาล ค้ากามมาเลเซีย ทั้งสองยังปากแข็งไม่ยอมรับ อ้างมีญาติเปิดร้านอาหารอยู่มาเลย์ เข้าออกประเทศบ่อย ก่อนเกิดเรื่องลูกสาวบอกเพื่อนขอไปเที่ยวด้วยจึงพาไป
วันนี้ (17 ธ.ค.) ที่ บก.ปคม. เมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.อ.สุวิชญ์พล อิ่มใจรัชต์ รองผบก.ปคม. พ.ต.อ.สยาม บุญสม ผกก.4 บก.ปคม. แถลงข่าวจับกุม นางเบญจวรรณ หรือขัน คำรังษี อายุ 42 ปี และ น.ส.ฝน (นามสมมติ) อายุ 18 ปี สองแม่ลูก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ มีโทษจำคุกตั้งแต่ 7-20 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000-40,000 บาท หรือจำคุกตลอดชีวิต จับกุมนางเบญจวรรณ ได้ที่ ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ส่วน น.ส.ฝน จับกุมได้ที่ ต.ช้างม่อย อ.เมือง จ.เชียงใหม่
พ.ต.อ.สุวิชญ์พล กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.พร (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ผู้ช่วยพยาบาลของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปคม.ว่า เมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา ถูก น.ส.ฝน เพื่อนสาวที่เคยทำงานด้วยกัน ชักชวนให้เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศมาเลเซีย น.ส.พร จึงนั่งรถทัวร์จากเชียงใหม่ไปลงที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง อ.สะเดา จ.สงขลา โดยมีนางเบญจวรรณ น.ส.ฝน นายแอนโทนี่ และ น.ส.เมย์ (ไม่ทราบชื่อและนามสกุล) ชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน รอรับอยู่ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองฝั่งมาเลเซีย
พ.ต.อ.สุวิชญ์พล กล่าวต่อไปว่า จากนั้นทั้งหมดพา น.ส.พร ไปมอบให้นายลี ชาวมาเลเซีย เชื้อสายจีน และพวกเป็นชายชาวมาเลเซียเชื้อสายอินเดีย รวม 3 ราย จากนั้นทั้ง 3 นำตัว น.ส.พร ไปกักขังที่โรงแรมลีเกอร์ รัฐปีนัง และใช้กำลังบังคับให้ออกตระเวนค้าประเวณีโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ ต่อมาทางผู้เสียหายสามารถหลบหนีออกมาได้ จึงเข้าขอความช่วยเหลือกับทางตำรวจมาเลเซีย กระทั่งตามจับกุมนายลี และนายแอนโทนี่ดำเนินคดี ก่อนส่งตัว น.ส.พร กลับประเทศไทย ก่อนจะเข้าแจ้งความจับกุมผู้ต้องหาทั้งสอง
สอบสวน น.ส.ฝน อ้างว่า ตนรู้จักกับ น.ส.พร ขณะทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาล โรงพยาบาลเดียวกัน จากนั้นได้ลาออกไป ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนและแม่ได้ไปเที่ยวประเทศมาเลเซียด้วยกัน ระหว่างพักอยู่ในมาเลเซีย น.ส.พร โทรศัพท์มาเล่าให้ฟังว่ามีปัญหาครอบครัว ขอเดินทางไปเที่ยวด้วย ตนจึงบอกให้นั่งรถทัวร์มาลงที่ด่าน อ.สะเดา เมื่อมาถึง น.ส.พร ได้เดินทางไปกับชาวมาเลเซีย ซึ่งตนไม่ทราบว่าไปที่ใดบ้างและไม่ได้ติดต่อกันอีก กระทั่งตนและมารดา มาถูกตำรวจจับกุมตัว
ขณะที่ นางเบญจวรรณให้การว่า ตนมีญาติเปิดร้านอาหารอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย และเดินทางเข้าออกเป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุลูกบอกว่าเพื่อนขอมาเที่ยวด้วย จึงไปรับและเกิดเรื่องดังกล่าว ซึ่งตนขอปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคม.ดำเนินคดีต่อไป
วันเดียวกัน ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.สุรพงศ์ ธรรมพิทักษ์ สว.กก.2 บก.ป.นำกำลัง เข้าจับกุม นายด่วน มีมาก อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 หมู่ 8 ต.สีสุก อ.จักราช จ.นครราชสีมา ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 453/2551 ลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2551 ข้อหาพรากเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองเพื่อการอนาจาร และกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม จับกุมได้ที่หน้าบริษัท เฮลเปอร์เซอร์วิส จำกัด เลขที่ 24 หมู่ 1 ต.บ้านหว้า อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
สืบเนื่องจากผู้ต้องหาได้ก่อเหตุฉุดตัว ด.ญ.เจ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ไปข่มขืนกระทำชำเราเหตุเกิดในพื้นที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เมื่อปี 2551 ก่อนที่ผู้ต้องหาจะหลบหนีไป กระทั่งมาถูกจับกุมตัวในที่สุด ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.ลำลูกกา ดำเนินคดีต่อไป