ตำรวจกองปราบปราม จับกุมนายก อบต.วัย 72 ปี ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงตามที่ญาติของผู้เสียหายไปร้องทุกข์ต่อมูลนิธิปวีณา เจ้าตัวปฏิเสธ อ้างถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง
วันนี้ (23 พ.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.อ.นรศักดิ์ เหมนิธิ รอง ผบก.ป. นำกำลังจับกุม นายโชติ ปั่นวงษ์ก๋อ อายุ 72 ปี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลไร่อ้อย อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 3221/2552 ลงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2552 ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายซึ่งผู้นั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ จับกุมได้บริเวณที่ทำการ อบต.ไร่อ้อย อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พา น.ส.อ้อย (นามสมมติ) อายุ 16 ปี เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน บก.ป.เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายโชติ ที่ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราตั้งแต่เดือนตุลาคม 2545 ขณะที่ผู้เสียหายอายุได้เพียง 9 ขวบ โดยวันเกิดเหตุ นายโชติอาสาขับรถยนต์พาแม่ น.ส.อ้อยไปส่งโรงพยาบาลพิชัย เนื่องจากป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ ส่วนพ่อไปทำงานก่อสร้างที่ต่างจังหวัด เมื่อส่งแม่ น.ส.อ้อยแล้ว ผู้ต้องหาได้พา น.ส.อ้อย ไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านเพื่อจะมาเฝ้าไข้แม่ แต่ระหว่างทางกลับพาไปบังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง จากนั้นนายโชติได้ข่มขู่ผู้เสียหายไม่ให้นำเรื่องไปบอกใครไม่เช่นนั้นจะฆ่าให้ตาย อีกทั้งยังอ้างว่าไม่มีใครทำอะไรได้เพราะเป็นถึงนายก อบต. ทำให้ผู้เสียหายเกิดความหวาดกลัวและถูกบังคับข่มขืนเรื่อยมา จนเมื่อปี 2548 แม่ น.ส.อ้อยได้เสียชีวิตลง และพ่อก็ไปบวชเป็นพระ
ต่อมาญาติของผู้เสียหายเริ่มระแคะระคายจึงคาดคั้นกับ น.ส.อ้อย จนทราบเจ้าตัวยอมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง จากนั้นจึงปรึกษากับพ่อของเด็กและบุคคลที่ไว้ใจ เข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา ก่อนจะพากันเข้าแจ้งความที่ บก.ป.วางแผนเข้าสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดีที่ บก.ป.
ด้าน นายโชติ ให้การปฏิเสธว่ารู้จักกับฝ่ายพ่อแม่เด็กมานานเพราะเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน ส่วน น.ส.อ้อย เห็นตั้งแต่ยังเด็กเพราะเคยไปเป่าแซกโซโฟนในงานที่ตนจัดเป็นประจำ แต่ไม่เคยคุยกันสองต่อสอง ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองโดยเป็นฝีมือของนักการเมืองท้องถิ่นคู่แข่งที่ลงเลือกตั้งและแพ้ตนขาดลอย จึงรวมหัวกับญาติเหยื่อปั้นเรื่องขึ้นมาป้ายสีเพื่อฆ่ากันทางการเมือง
“ก่อนหน้านี้ผมถูกนายอำเภอตั้งกรรมการสอบ และถูกตำรวจ สภ.พิชัย ดำเนินคดีข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายมาแล้ว แต่ก็ไม่มีมูลจึงรอดพ้นข้อกล่าวหามาได้ ระหว่างที่กำลังหาเสียงเลือกตั้งนายก อบต.ก็มีใบปลิวโจมตีเรื่องดังกล่าว และเมื่อชนะเลือกตั้งได้เป็นนายก อบต.แล้วก็ยังถูกแจ้งจับอีก” นายโชติกล่าว
ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้ควบคุมส่งพนักงานสอบสวน บก.ป.ดำเนินคดีต่อไป