ปคม.ประสาน ตร.ร้อยเอ็ด จับสาวใหญ่เจ้าของร้านนวดแผนไทย ตุ๋นเหยื่อสามารถพาไปทำงานต่างประเทศในตำแหน่งพนักงานนวดได้ แถมลงประกาศรับสมัครทางอินเทอร์เน็ตชักชวน มีเหยื่อหลงเชื่อเกือบร้อยราย มูลค่าเสียหายกว่า 5 ล้าน เจ้าตัวให้การภาคเสธ อ้างมีหน้าที่สอน ไม่ทราบเรื่องมีการหลอกคนไปทำงานต่างประเทศ
วันนี้ (13 พ.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่ บก.ปคม. พ.ต.อ.สุวิชญ์พล อิ่มใจรัชต์ รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผกก.2 บก.ปคม.และ พ.ต.ท.ชูศักดิ์ เคทอง รอง ผกก.ปฏิบัติราชการ กก.2 บก.ปคม.ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม น.ส.ยุพิน มะหิพันธ์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 5 ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2262/2552 ลงวันที่ 4 สิงหาคม 2552 ข้อหาหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานหรือส่งไปฝึกงานในต่างประเทศโดยการหลอกลวงนั้นได้มาซึ่งเงินหรือทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง จัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ตาม พ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองการหางาน จับกุมได้ที่หน้าโรงแรมสาเกตุนคร ถนนหายโศก ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด
พ.ต.อ.สุวิชญ์พล กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ มีผู้เสียหายประมาณ 100 ราย เข้าร้องทุกข์กับ บก.ปคม.ว่า ถูก น.ส.ยุพิน ซึ่งเป็นเจ้าของร้านพัชรีนวดแผนไทย ตั้งอยู่ที่ถนนเจริญกรุง ซอย 72 เขตบางคอแหลม กทม.หลอกลวง ว่า สามารถช่วยเหลือให้ไปทำงานที่ประเทศสวีเดน สหรัฐอเมริกา สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ออสเตรเลีย และ อิตาลี ในตำแหน่งพนักงานนวดแผนไทยได้ นอกจากนี้ ยังมีการประกาศรับสมัครทางอินเทอร์เน็ต และมีการแจกใบปลิวชักชวนอีกด้วย ซึ่งผู้ที่สนใจต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินการรายละ 1-8 หมื่นบาท รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท ต่อมาหลังจากผู้เสียหายจ่ายเงินให้แล้วกลับไม่ได้เดินทางไปทำงานตามที่มีการกล่าวอ้าง ต่อมาชุดสืบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ โดยพบว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด จึงประสานตำรวจ สภ.เมืองร้อยเอ็ด ติดตามจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่ บก.ปคม.
สอบสวน น.ส.ยุพิน ให้การปฏิเสธว่า ก่อนหน้านี้ ตนรู้จักกับ นางสกุลทิพย์ ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นเจ้าของบริษัท โอเคดี ซัพพลาย จำกัด มาเรียนการนวดแผนไทยที่ร้านของตน ต่อมานางสกุลทิพย์ ได้ชักชวนคนมาเรียนการนวดอีกหลายราย ซึ่งตนก็มีหน้าที่สอนให้โดยไม่ทราบเรื่องว่ามีการหลอกลวงคนเหล่านั้นไปทำงานยังต่างประเทศ เรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นความเข้าใจผิดของกลุ่มผู้เสียหาย นอกจากนี้ ตนก็ไม่ทราบมาก่อนว่าถูกออกหมายจับและไม่เคยคิดจะหลบหนีไปไหน เพียงแต่ช่วงก่อนจะถูกจับกุมตนเดินทางไปเยี่ยมมารดาที่ไม่สบายที่บ้านเกิดใน จ.ร้อยเอ็ด