ตำรวจสั่งทุกหน่วยรวบรวมข้อมูลทั้งผู้ปล่อยเงินกู้ และลูกหนี้นอกระบบทั่วประเทศ ส่งให้ส่วนกลางรับไปประสานกับทางรัฐบาล เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาการทวงหนี้โหด และการปล่อยเงินกู้นอกระบบตามนโยบายรัฐบาล
วันนี้ (9 ธ.ค.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย ผบก.ประจำ บช.น. โฆษกประจำกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รรท.ผบ.ตร.ได้เชิญผู้บังคับบัญชาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นำโดย พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ที่ปรึกษา (สบ 10) และตัวแทนของทุกหน่วย เข้าร่วมประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องปล่อยเงินกู้นอกระบบและทวงหนี้นอกระบบ ซึ่งในที่ประชุมมีการแจ้งให้ทุกหน่วยทราบ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร 1-9 และศูนย์จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยให้ทุกหน่วยทำการสำรวจข้อมูลการปล่อยเงินกู้และทวงหนี้นอกระบบ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม 1.แหล่งเงินทุนและนายทุนเงินกู้นอกระบบที่ไม่มีพฤติกรรมในการใช้ความรุนแรง 2.แหล่งเงินทุนและนายทุนเงินกู้นอกระบบที่มีพฤติกรรมข่มขู่ทำร้ายร่างกายในการเร่งรัดหนี้สิน 3.การปล่อยเงินกู้แบบบริการเงินด่วน ที่มีการดำเนินการใช้ธุรกิจสินเชื่อหรือบัตรเครดิตต่างๆ ต้องทำบัญชีข้อมูลไว้ด้วย
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า ขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนทั่วไป และขอแนะนำให้ทราบ ขอให้ลูกหนี้และเจ้าหนี้ไปลงทะเบียนที่ธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ได้ทุกสาขาภายในกำหนดไม่เกินสิ้นปีนี้ในวันที่ 30 ธันวาคม 2552 เพื่อเข้าสู่คณะกรรมการในการประนอมหนี้ของกระทรวงการคลัง ซึ่งถ้ามีการดำเนินการลงทะเบียนก่อนสิ้นเดือนธันวาคมจะไม่มีการเสียภาษี อย่างไรก็ตาม ถ้าลูกหนี้จะลงทะเบียนฝ่ายเดียวก็ได้ ส่วนกรณีเจ้าหนี้หรือผู้มีพฤติกรรมข่มขู่คุกคามลูกหนี้จะมีการดำเนินการทางกฎหมายอย่างเฉียบขาด
“ในส่วนของ บช.น. พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น.ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น.เป็นผู้ดูแลในเรื่องการแก้ไขปัญหาเรื่องเงินกู้นอกระบบ ซึ่งได้มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการปรามปรามเงินกู้และทวงหนี้นอกระบบที่ บก.สส.และ บก.อก.ช่วยเหลือการปฏิบัติงาน โดยจะมีการเชื่อมโยงออนไลน์กับศูนย์ปรามปราบการปล่อยเงินกู้นอกระบบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งใช้ฐานอยู่ที่กองบังคับคุ้มครองผู้บริโภค ส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้กำชับผู้บังคับบัญชาดูแลอย่างใกล้ชิดให้ตำรวจทุกนายไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจเงินกู้นอกระบบร่วมถึงครอบครัวด้วย และต้องไม่ปกป้องคุ้มครองผู้กระทำผิด หรือปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำผิดในพื้นที่ ซึ่งทาง ตร.มีการออกนโยบายอย่างชัดเจนจะดำเนินคดีอาญาและวินัยอย่างร้ายแรงกับเจ้าหน้าที่ที่ฝ่าฝืนกฎ และในวันนี้จะมีการประชาสัมพันธ์ผ่าน กองบังคับการตำรวจจราจร และทุกสถานีตำรวจให้ตำรวจชุมชนสัมพันธ์จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ อย่างช้าสุดในวันจันทร์นี้ ทาง บช.น.จะต้องได้ข้อมูลจากทุกหน่วยเพื่อรับทราบ เพื่อที่จะประสานกับ ตร.ต่อไป ซึ่งวันนี้จะมีการสั่งการไปทุกสถานีตำรวจในการดำเนินการ” พล.ต.ต.ปิยะกล่าว
พล.ต.ต.ปิยะ ยังกล่าวถึงเรื่องการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงด้วยว่า ตำรวจได้เพิ่มกำลังอีกหนึ่งเท่า โดยดูแลถนนทั้งเส้นของกลุ่มผู้ชุมนุม และเน้นตรวจเข้มทุกพื้นที่ในรัศมีไม่น้อยกว่า 400 เมตร และในวันนี้เวลา 15.00 น. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่ปรึกษา (สบ 10) และ พล.ต.ต.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วย ผบ.ตร.จะมีการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ผ่านทางไกลระหว่าง บช.น.ร่วมกับ บช.ภ.1-9 ทั้งหมด เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกันในการดูแลความเรียบร้อย