หากพูดถึง ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิที่ชื่อ "ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์" อดีตเลขาธิการพรรคไทยรักไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผู้ทำงานเคียงข้าง "นช.ทักษิณ ชินวัตร" ที่ปัจจุบัน เขาคือ เพื่อนรัก เพื่อนซี้ "พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ" อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้อื้อฉาว) ถือว่าหลายคนกำลังมึนงง และต่างสงสัย ในพฤติกรรมการกระทำของ"ปุระชัย"ผู้นี้ เมื่อเขาออกมาเคลื่อนไหว ทุกวิถีทาง เพื่อคัดค้าน ขัดขวาง การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ แบบสุดโด่ง
"ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์"เขาทำเพื่อใคร? ทำเพื่อรักษาความเป็นธรรม ให้กับองค์กร ตำรวจหรือไม่ ถือเป็นคำถามที่ทุกคนอยากรู้คำตอบ
ย้อนกลับไปดูพฤติกรรมของ"ปุระชัย"ต่อกรณีการประชุม ก.ตร.ในทุกครั้งที่ผ่านมา พบว่ามีคำตอบอยู่ในตัวว่า วันนี้ "ความดี" ของ "ปุระชัย" ยังคงมีหลงเหลืออยู่อีกหรือไม่?
สืบเนื่องจากปัญหาเมื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังไม่มีผู้นำคนใหม่นับจากวินาทีที่ "พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ"อดีต ผบ.ตร.ส่งหนังสือลาออกไปถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธาน ก.ตร. ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย.52 โดยเก้าอี้ ผบ.ตร.ว่างเว้นตัวจริง เสียงจริง มาเป็นเวลากว่า 3 เดือน ส่งผลกระทบถึงการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจวาระประจำปี ที่ปกติจะต้องเสร็จสิ้นก่อนเดือน ต.ค.52
จากปมเงื่อนไข ยังไม่ได้ตัว"ผบ.ตร."นี่เอง ทำให้"ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์"และ"พล.ต.อ.พิชิต ควรเตชะคุปต์"ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ สาย"เสี่ยป๊อด"ที่เก็บรอยแค้นแทนเพื่อน จึงเดินเกม ออกโรง เปิดศึก ค้านแบบสุดตัว
21 ก.ย.52 ครั้งการจัดทำโผแต่งตั้งโยกย้ายประจำปีครั้งแรก ที่จัดทำโดย"พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์"รักษาราชการแทน ผบ.ตร.(ขณะนั้น)ซึ่งเมื่อพิจารณาโผแล้วถือว่ามีความเป็นกลางเพราะการแต่งตั้งยึดตามหลักอาวุโสอย่างชัดเจนแต่การประชุม ก.ตร.ก็ต้องล่มลง เพราะ"พิชิต และ ปุระชัย"ได้เปิดประเด็นอภิปรายว่าไม่สมควรพิจารณาการแต่งตั้งในครั้งนี้ เนื่องจากยังไม่ได้ ผบ.ตร.คนใหม่
จนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ต้องตัดสินใจเลื่อนวาระการพิจารณาการแต่งตั้งออกไป
ต่อมาเมื่อ"พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ"ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น รรท.ผบ.ตร. แทน พล.ต.อ.ธานี ที่เกษียณราชการไป ก็พยายามผ่าทางตันในเรื่องข้อขัดแย้งในการแต่งตั้งโยกย้าย ด้วยการเสนอไอเดียโหวตหาทางออกรื้อโครงสร้างบอร์ดกลั่นกรอง โดยเสนอให้ นายสมศักดิ์ บุญทอง ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกข้าราชการตำรวจ หรือ บอร์ดกลั่นกรอง โดยมี พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. รอง ผบ.ตร.ทุกคน และยังมี ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิอีก 5 คน ประกอบด้วย นายชัยเกษม นิติสิริ, นางเบญจวรรณ สร่างนิทร, นายสีมา เสมานันท์, พล.ต.อ.บุญเพ็ญ บำเพ็ญบุญ และ พล.ต.อ.นพดล สมบูรณ์ทรัพย์ เพื่อที่จะพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบ.ตร.-ผบก.วาระประจำปี แต่ พล.ต.อ.พิชิต และ ร.ต.อ.ปุระชัย ก็วอร์คเอาท์ออกจากที่ประชุม ก.ตร.เพื่อแสดงออกว่า ไม่เห็นด้วย
6 พ.ย.52 การประชุม ก.ตร.ที่มี นายสมศักดิ์ บุญทอง เป็นประธานบอร์ดกลั่นกรอง ก็เป็นอันต้องล่ม ซ้ำซากอีกครั้ง เมื่อ"ร.ต.อ.ปุระชัย" ได้นำนามบัตรที่มีลายเซ็นต์บอร์ดกลั่นกรองบางคนที่ฝากเด็กของตัวเองสมัย พล.ต.อ.พัชรวาท ขึ้นมาโชว์กลางที่ประชุมจนเกิดโต้เถียงและขัดแย้งขนานหนักในที่ประชุม สุดท้ายนายสุเทพ ต้องยกเลิกการประชุมอีกครั้ง
การออกมาแฉผ่านสื่อของ "กลุ่มเพื่อนป๊อด" ยังส่งผลให้ นายสมศักดิ์ ลาออกจากประธานบอร์ดกลั่นกรอง
16 พ.ย.52 ก.ตร.หน้าเดิม "ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์" ได้แสดงพฤติกรรม วอล์กเอาต์ออกจากห้องประชุม ก.ตร.อีกครั้ง โดยมี พล.ต.อ.พิชิต ควรเตชะคุปต์ แนวร่วมเดินตามออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน ส่วนเหตุผล ยังคงเป็นเรื่องเดิม ว่าตนยึดมั่นในหลักการที่ควรจะแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ก่อน เป็นเรื่องของคุณธรรม พร้อมปฎิเสธตามฉบับอีแอบว่า การกระทำของตนไม่เกี่ยวกับการช่วยเหลือ พล.ต.อ.พัชรวาท ที่เกษียณไปแล้ว
พฤติกรรมของ "ปุระชัย" ไม่ได้มีเพียงแค่นี้ เมื่อเขาอุ้ม"นายธรรมาธิปต์ เปี่ยมสมบูรณ์"บุตรชายของเขายัดเป็นนายตำรวจสัญญาบัตรเมื่อปี 48 โดยมี"พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพาณิชย์" หรือ อีจ๋อย เพื่อนรักร่วมซี๊ดเป็นแรงหนุน ทั้งที่ขาดคุณสมบัติไม่ผ่านตรวจร่างกาย อีกทั้งสายตาผิดปกติ โดยมีหลักฐานฐานยืนยันชัดเจนว่า "พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ"ผบ.ตร.ขณะนั้น และ"พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ"รอง ผบ.ตร.ขณะนั้น อนุมัติยกเว้นผ่านทุกขั้นตอน
เรื่องนี้แม้ "ปุระชัย" จะออกมาชี้แจงว่า อยากให้แยกแยะ เรื่องของพ่อก็คือเรื่องของพ่อ เรื่องของลูกก็คือเรื่องของลูก แต่กลับยิ่งทำให้ประชาชนสับสนมากขึ้น หรือ "ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์"ผู้ที่เคยเป็นคนดีในสายตาประชาชน วันนี้ ความดีในตัว "ปุระชัย" ได้ตายไปแล้ว!
"ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์"เขาทำเพื่อใคร? ทำเพื่อรักษาความเป็นธรรม ให้กับองค์กร ตำรวจหรือไม่ ถือเป็นคำถามที่ทุกคนอยากรู้คำตอบ
ย้อนกลับไปดูพฤติกรรมของ"ปุระชัย"ต่อกรณีการประชุม ก.ตร.ในทุกครั้งที่ผ่านมา พบว่ามีคำตอบอยู่ในตัวว่า วันนี้ "ความดี" ของ "ปุระชัย" ยังคงมีหลงเหลืออยู่อีกหรือไม่?
สืบเนื่องจากปัญหาเมื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังไม่มีผู้นำคนใหม่นับจากวินาทีที่ "พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ"อดีต ผบ.ตร.ส่งหนังสือลาออกไปถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธาน ก.ตร. ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย.52 โดยเก้าอี้ ผบ.ตร.ว่างเว้นตัวจริง เสียงจริง มาเป็นเวลากว่า 3 เดือน ส่งผลกระทบถึงการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจวาระประจำปี ที่ปกติจะต้องเสร็จสิ้นก่อนเดือน ต.ค.52
จากปมเงื่อนไข ยังไม่ได้ตัว"ผบ.ตร."นี่เอง ทำให้"ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์"และ"พล.ต.อ.พิชิต ควรเตชะคุปต์"ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ สาย"เสี่ยป๊อด"ที่เก็บรอยแค้นแทนเพื่อน จึงเดินเกม ออกโรง เปิดศึก ค้านแบบสุดตัว
21 ก.ย.52 ครั้งการจัดทำโผแต่งตั้งโยกย้ายประจำปีครั้งแรก ที่จัดทำโดย"พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์"รักษาราชการแทน ผบ.ตร.(ขณะนั้น)ซึ่งเมื่อพิจารณาโผแล้วถือว่ามีความเป็นกลางเพราะการแต่งตั้งยึดตามหลักอาวุโสอย่างชัดเจนแต่การประชุม ก.ตร.ก็ต้องล่มลง เพราะ"พิชิต และ ปุระชัย"ได้เปิดประเด็นอภิปรายว่าไม่สมควรพิจารณาการแต่งตั้งในครั้งนี้ เนื่องจากยังไม่ได้ ผบ.ตร.คนใหม่
จนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ต้องตัดสินใจเลื่อนวาระการพิจารณาการแต่งตั้งออกไป
ต่อมาเมื่อ"พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ"ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น รรท.ผบ.ตร. แทน พล.ต.อ.ธานี ที่เกษียณราชการไป ก็พยายามผ่าทางตันในเรื่องข้อขัดแย้งในการแต่งตั้งโยกย้าย ด้วยการเสนอไอเดียโหวตหาทางออกรื้อโครงสร้างบอร์ดกลั่นกรอง โดยเสนอให้ นายสมศักดิ์ บุญทอง ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกข้าราชการตำรวจ หรือ บอร์ดกลั่นกรอง โดยมี พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. รอง ผบ.ตร.ทุกคน และยังมี ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิอีก 5 คน ประกอบด้วย นายชัยเกษม นิติสิริ, นางเบญจวรรณ สร่างนิทร, นายสีมา เสมานันท์, พล.ต.อ.บุญเพ็ญ บำเพ็ญบุญ และ พล.ต.อ.นพดล สมบูรณ์ทรัพย์ เพื่อที่จะพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบ.ตร.-ผบก.วาระประจำปี แต่ พล.ต.อ.พิชิต และ ร.ต.อ.ปุระชัย ก็วอร์คเอาท์ออกจากที่ประชุม ก.ตร.เพื่อแสดงออกว่า ไม่เห็นด้วย
6 พ.ย.52 การประชุม ก.ตร.ที่มี นายสมศักดิ์ บุญทอง เป็นประธานบอร์ดกลั่นกรอง ก็เป็นอันต้องล่ม ซ้ำซากอีกครั้ง เมื่อ"ร.ต.อ.ปุระชัย" ได้นำนามบัตรที่มีลายเซ็นต์บอร์ดกลั่นกรองบางคนที่ฝากเด็กของตัวเองสมัย พล.ต.อ.พัชรวาท ขึ้นมาโชว์กลางที่ประชุมจนเกิดโต้เถียงและขัดแย้งขนานหนักในที่ประชุม สุดท้ายนายสุเทพ ต้องยกเลิกการประชุมอีกครั้ง
การออกมาแฉผ่านสื่อของ "กลุ่มเพื่อนป๊อด" ยังส่งผลให้ นายสมศักดิ์ ลาออกจากประธานบอร์ดกลั่นกรอง
16 พ.ย.52 ก.ตร.หน้าเดิม "ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์" ได้แสดงพฤติกรรม วอล์กเอาต์ออกจากห้องประชุม ก.ตร.อีกครั้ง โดยมี พล.ต.อ.พิชิต ควรเตชะคุปต์ แนวร่วมเดินตามออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน ส่วนเหตุผล ยังคงเป็นเรื่องเดิม ว่าตนยึดมั่นในหลักการที่ควรจะแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ก่อน เป็นเรื่องของคุณธรรม พร้อมปฎิเสธตามฉบับอีแอบว่า การกระทำของตนไม่เกี่ยวกับการช่วยเหลือ พล.ต.อ.พัชรวาท ที่เกษียณไปแล้ว
พฤติกรรมของ "ปุระชัย" ไม่ได้มีเพียงแค่นี้ เมื่อเขาอุ้ม"นายธรรมาธิปต์ เปี่ยมสมบูรณ์"บุตรชายของเขายัดเป็นนายตำรวจสัญญาบัตรเมื่อปี 48 โดยมี"พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพาณิชย์" หรือ อีจ๋อย เพื่อนรักร่วมซี๊ดเป็นแรงหนุน ทั้งที่ขาดคุณสมบัติไม่ผ่านตรวจร่างกาย อีกทั้งสายตาผิดปกติ โดยมีหลักฐานฐานยืนยันชัดเจนว่า "พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ"ผบ.ตร.ขณะนั้น และ"พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ"รอง ผบ.ตร.ขณะนั้น อนุมัติยกเว้นผ่านทุกขั้นตอน
เรื่องนี้แม้ "ปุระชัย" จะออกมาชี้แจงว่า อยากให้แยกแยะ เรื่องของพ่อก็คือเรื่องของพ่อ เรื่องของลูกก็คือเรื่องของลูก แต่กลับยิ่งทำให้ประชาชนสับสนมากขึ้น หรือ "ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์"ผู้ที่เคยเป็นคนดีในสายตาประชาชน วันนี้ ความดีในตัว "ปุระชัย" ได้ตายไปแล้ว!
