ก.ตร.ล่มซ้ำซาก เหตุ “ปุระชัย” โชว์นามบัตรบอร์ดกลั่นกรองบางคนฝากเด็กสมัย “พัชรวาท” กลางที่ประชุมส่งให้ “เทพเทือก” ดู จึงเกิดโต้เถียงและขัดแย้งในตำแหน่ง ผบช.น.ที่ “สุเทพ” ดัน “สัณฐาน” แต่แนวโน้มที่ประชุมจะเลือก “เจตน์” โผไม่ลงตัวจนต้องล่มโต๊ะพิจารณาและสะบัดก้นออกจากห้องประชุมทันที
วันนี้ (6 พ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายสมศักดิ์ บุญทอง ประธานคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกข้าราชการตำรวจ หรือบอร์ดกลั่นกรอง เรียกประชุมคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกข้าราชการตำรวจ โดยมี พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. รอง ผบ.ตร.ทุกคน และยังมี ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิอีก 5 คน ประกอบด้วย นางเบญจวรรณ สร่างนิทร นายสีมา เสมานันท์ พล.ต.อ.บุญเพ็ญ บำเพ็ญบุญ และ พล.ต.อ.นพดล สมบูรณ์ทรัพย์ เข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลาในการประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง โดย นายชัยเกษม นิติสิริ อดีตอัยการสูงสุด หนึ่งใน ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิไม่ได้มาเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ เนื่องจากติดภารกิจ
พล.ต.อ.นพดล กล่าวภายหลังการประชุมบอร์ดกลั่นกรองด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมชูนิ้วโป้งทั้งสองมือ ว่า การประชุมบอร์ดกลั่นกรองในช่วงเช้าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บัญชีรายชื่อการแต่งตั้งคาดว่าทุกคนจะพอใจ และสามารถตอบคำถามสังคมได้ในการเสนอชื่อเพื่อดำรงตำแหน่งต่างๆ
ต่อมาเมื่อเวลา 11.45 น.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธาน ก.ตร.ได้เดินทางมาถึงที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อร่วมประทานอาหารกลางวันร่วมกับคณะกรรมการ ก.ตร.ทุกคน และเริ่มประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 14/2552 ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคาร 1 ในช่วงบ่าย
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังการประชุม ก.ตร.ผ่านไปเพียง 1 ชั่วโมง ก็เกิดความวุ่นวายมีการถกเถียงถึงวาระการประชุมบางวาระในที่ประชุม โดย ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ และ พล.ต.อ.พิชิต ควรเตชะคุปต์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้ออกมาอภิปรายถึงคุณสมบัติของคณะอนุกรรมการพิจารณาบอร์ดกลั่นกรองว่ามีจริยธรรม คุณสมบัติ และความโปร่งใสหรือไม่ โดย ร.ต.อ.ปุระชัย ยังได้นำนามบัตรของบอร์ดกลั่นกรองบางคนที่ใช้ฝากฝังแต่งตั้งโยกย้ายกับ พล.ต.อ.พัชรวาท มาแสดงในที่ประชุม และให้ นายสุเทพ ดูในที่ประชุมจึงเกิดการโต้เถียงกัน รวมทั้งมีความขัดแย้งในตำแหน่ง ผบช.น.ที่มีการเสนอถึง 3 รายชื่อ คือ พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ประจำ.ตร. พล.ต.ท.สัณฐาน ชยานนท์ ผบช.ภ.8 และ พล.ต.ท.เจตน์ มงคลหัตถี ผบช.กมค.โดยในที่ประชุมมีแนวโน้มที่จะเลือก พล.ต.ท.เจตน์ ซึ่งไม่ตรงกับ พล.ต.ท.สัณฐาน เป้าหมายที่ นายสุเทพ ต้องการเสนอ จน นายสุเทพ ต้องยกเลิกการประชุมโดยใช้ กฎ ก.ตร.ข้อ 17 เนื่องจากการประชุมมีปัญหาและอุปสรรค โดยไม่มีการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายแต่อย่างใด จากนั้น นายสุเทพ ก็เดินทางกลับทันที โดยกล่าวเพียงว่า ให้สอบถาม พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษก ตร.เช่นเดียวกับ พล.ต.อ.ปทีป
ด้าน พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า บรรยากาศในที่ประชุมไม่มีปัญหาอะไรเป็นการประชุมตามปกติ ปัญหาที่ทำให้การประชุมดำเนินการต่อไม่ได้ คือ คณะกรรมการบางท่านได้มีการท้วงติงถึงความสมบูรณ์ของประกาศ ตร.ในการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกข้าราชการตำรวจ ซึ่งประธานได้สั่งให้เลขาธิการ ก.ตร.ไปตรวจสอบความสมบูรณ์ของประกาศตามที่ถูกท้วงติง คาดว่าจะใช้เวลาพิจารณาประมาณ 1 สัปดาห์ เพราะไม่ต้องการให้มีข้อครหาหรือการฟ้องร้องตามมาทีหลัง ต้องพิจารณาองค์ประกอบว่ามีความชัดเจนสมบูรณ์หรือไม่ ส่วนคุณสมบัติของคณะกรรมการก็คงต้องมีการตรวจสอบด้วยเพื่อความรอบคอบและโปร่งใส ส่วนการประชุม ก.ตร.ครั้งต่อไปจะมีขึ้นเมื่อไรนั้นยังไม่สามารถตอบได้แต่จะดำเนินการให้เร็วที่สุด
ร.ต.อ.ปุระชัย กล่าวถึงสาเหตุที่การประชุม ก.ตร.ต้องยกเลิก ว่า ตนได้ท้วงติงในที่ประชุม ก.ตร.ในเรื่องคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการซื้อขายตำแหน่ง ที่ นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้ร้องเรียนว่ามีการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งในสมัยที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็น ผบ.ตร.ที่มีผลการพิจารณาออกมาตนเห็นว่ามีหลายประเด็นที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยเฉพาะในเรื่องการตรวจสอบหลักฐานที่เป็นนามบัตร หรือลายเซ็นที่นายศิริโชค นำมากล่าวอ้าง ไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ไม่สามารถตอบสังคมได้ ซึ่งตนยังทราบว่า อนุ ก.ตร. กว่าครึ่งหนึ่งก็เกี่ยวข้องกับการซื้อขายตำแหน่ง โดนตนมีหลักฐานว่ามีการทำหนังสือลงชื่อจากสำนักงานตนเอง ถึง พล.ต.อ.พัชรวาท เพื่อฝากฝังแต่งตั้งนายตำรวจระดับรองผู้บังคับการลงไป อนุ ก.ตร.คนใดที่ทำก็ถือว่าผิดจริยธรรม หลักธรรมาภิบาล กฎ ก.ตร. การลาออกจาก อนุ ก.ตร.ไม่เพียงพอ ต้องลาออกจาก ก.ตร.ถ้าหากมีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ก็ถือว่ามีความผิดตามรัฐธรรมนูญ 50 มาตรา 266 อนุ 2 ที่ห้าม ส.ส.ก้าวก่ายเรื่องการแต่งโยกย้ายตำรวจหากพบหลักฐานว่ามีความผิดจริงสามารถยื่นถอดถอนได้ ส่วนจะเป็นนักการเมืองคนใดนั้นตนไม่ทราบ
ร.ต.อ.ปุระชัย ยังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีข้อขัดแย้งเรื่องประกาศ ตร. ที่แต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกข้าราชการตำรวจ ที่นำเสียงข้างมากจำนวน 13 เสียงจากทั้งหมด 20 เสียงเข้ามาเป็นผู้พิจารณา เมื่อนำเข้า ก.ตร.จะไม่มีความหมาย เพราะเสียงที่พิจารณาก็เกินกว่าครึ่งอยู่แล้ว จึงต้องการให้ ก.ตร.ไปตรวจสอบเพื่อให้เกิดความชอบธรรม ไม่มีข้อครหาภายหลัง ในที่ประชุมจึงยังไม่มีการพิจารณารายชื่อบอร์ดกลั่นกรองที่เสนอมา