“สุเทพ” นั่งหัวโต๊ะประชุม ก.ตร.ถกโผแต่งตั้งระดับรองผบ.ตร.เสร็จ หลังที่ประชุมเสียงส่วนใหญ่มีมติเห็นชอบ พร้อมตั้ง “สมศักดิ์ บุญทอง” เป็นประธานคณะกรรมการกลั่นกรองพิจารณาโผแต่งตั้ง ด้าน “ปุระชัย-พิชิต” หัวเสียวอล์กเอาต์ออกกลางคัน อ้างไม่เห็นด้วย
วันนี้ (16 ต.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เดินทางมาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) โดยมี พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รอง ผบ.ตร. จเรตำรวจ และ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลาการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง ทั้งนี้เวลา 11.20น. ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ก็เดินออกมา และตามด้วย พล.ต.อ.พิชิต ควรเตชะคุปต์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ อีก 1 ท่าน เดินตามออกมา แต่การประชุมก็ดำเนินต่อไปจนถึงเวลา 13.20 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ พล.ต.อ.พิชิต เดินทางกลับนั้น มีสีหน้าเคร่งเครียด เมื่อถามถึงมติการประชุม ก.ตร.ว่าแต่งตั้งได้หรือไม่ ตอบว่าไม่รู้ ตนออกมาก่อน และท่านปุระชัยจะให้สัมภาษณ์ ส่วนที่ตนไม่เห็นด้วยนั้น เพราะยึดตามหลักการ
พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผช.ผบ.ตร.ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวภายหลังการประชุมว่า วันนี้ที่ประชุมมีมติ 2 เรื่องที่สำคัญเพื่อแจ้งให้ทราบและที่วันนี้ใช้เวลานานเนื่องจากที่ประชุมให้ กต.ร.ทุกท่านแสดงความคิดเห็นในเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจวาระประจำปีในระดับรอง ผบ.ตร.ลงไป ว่าควรดำเนินการต่อไปหรือไม่ ซึ่งที่ประชุมได้มีมติใน2 เรื่อง ว่าควรแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในตำแหน่งที่ว่าง จำนวน 1,560 ตำแหน่ง โดย ก.ตร. ทั้งหมด 18 ท่าน มี 16 ท่านให้ความเห็นว่า ควรดำเนินการแต่งตั้งทันที่ทีพร้อม เนื่องมีตำแหน่งหลักที่ว่างลงจำนวนและหากไม่แต่งตั้ง จะส่งผลกระทบต่อการทำงานของตำรวจ และประชาชน ส่วนอีก 2 ท่านทีไม่เห็นด้วย คือ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ และ พล.ต.อ.พิชิต ควรเตชะคุปต์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ โดยให้เหตุผลว่ายังไม่ควรทำ ให้รอไว้ก่อน ก่อนจะเดินออกจากห้องประชุมได้ โดยปฎิเสธว่าไม่ได้เป็นการวอร์คเอาท์แต่อย่างใด เมื่อถามว่าทั้งสองท่านต้องการให้ได้ ตำแหน่ง ผบ.ตร.ก่อนหรือไม่ พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ไม่ได้มีการพูดอย่างชัดเจนขนาดนั้น เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกัน และเสียงส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยก็เป็นไปตามมติ
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นที่ 2 คือ ให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกจากชุดเดิมที่มี ผบ.ตร. เป็นประธานบอร์ดกลั่นกรอง และมี รอง ผบ.ตร. จตช. เป็นคณะกรรมการ แต่ครั้งนี้เห็นว่าให้มีการพิจารณาร่วมกัน โดยเสนอให้เพิ่ม ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าไปในคณะกรรมการคัดเลือกอีก 6 ท่าน ประกอบด้วย นางเบญจวรรณ สร่างนิทร เลขาฯ ก.พ. นายชัยเกษม นิติศิริ พล.ต.อ.นพดล สมบูรณ์ทรัพย์ พล.ต.อ.บุญเพ็ญ บำเพ็ญบุญ นายสีมา สีมานันท์ และนายสมศักดิ์ บุญทอง โดยที่ประชุมมีมติให้นายสมศักดิ์เป็นประธานคณะกรรมการคัดเลือก ทั้งนี้ การเพิ่มคณะกรรมการขึ้นดังกล่าว เนื่องจากการแต่งตั้งครั้งนี้สังคมจับตามอง ต้องการความโปร่งใสและเป็นธรรม โดยนายสุเทพจะรายชื่อดังกล่าวออกประกาศ เพื่อให้นายกรัฐมนตรีลงนาม ซึ่งในสัปดาห์หน้านายสุเทพจะประกาศคณะกรรมการกลั่นกรองอย่างเป็นทางการ และจะนัดคณะกรรมการกลั่นกรองเพื่อพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายก่อนเสนอให้ ก.ตร.พิจารณาตามขั้นตอน ซึ่งในเบื้องต้นจะมีการแต่งตั้งระดับรอง ผบ.ตร.ลงไปจนถึงระดับ ผบ.ช.ก่อนเป็นอันดับแรก คาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกิน 20 พ.ย.
พล.ต.ท.พงศ์พัศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมสรุปว่า ให้มีการแต่งตั้งเนื่องจากเหตุผลความจำเป็นเปลี่ยนไป คนทำบัญชีไม่ได้เกษียณอายุราชการ เหมือน พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รรท.ผบ.ตร. ส่วนที่ ก.ตร.2 ท่านไม่เห็นด้วย ไม่ถือว่ามีปัญหาอะไร เพราะ ก.ตร.ที่เหลืออีก 16 ท่านเห็นชอบให้มีการแต่งตั้งเนื่องจากตำแหน่งหลักที่ขาดจากการเกษียณอายุราชการมีถึง 1,560 ตำแหน่ง การรักษาราชการแทนก็มีข้อจำกัดในเรืองการทำงานบ้าง การแต่งตั้งลงไปก็เพื่อดูแลประชาชนได้มากขึ้น