xs
xsm
sm
md
lg

แก๊งตุ๋นลอตเตอรี่ เหยื่อชรากับความโลภ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

เมื่อกิเลสและความโลภโมโทสันเข้ามาทางหน้าต่างแล้ว ความพึงพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ก็จะโบยบินหนีออกทางประตูทันที เหล่ามิจฉาชีพจึงอาศัยจุดบอดของมนุษย์จุดนี้ หลอกลวงเหยื่อที่ถูกความอยากมีอยากได้เข้าครอบงำจิตใจ ดังเช่นแก๊งตกทองในอดีตที่ผ่านมา แต่เมื่อถูกจับกุมและแฉพฤติกรรมให้สังคมรับรู้ กลุ่มคนร้ายก็ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการต้มตุ๋นหลอกลวงตลอดเวลา แต่ยังคงมีเป้าหมายเดิมคือ เล่นกับความโลภของเหยื่อ ดังเช่นคดีแก๊งตุ๋นลอตเตอรี่ที่ กองปราบปรามจับกุมตัวได้เมื่อไม่กี่วันมานี้

ย้อนไปเมื่อ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา นายวัฒนะ วิเศษสุทธิ์ วัย 72 ปี อดีตพนักงานองค์การโทรศัพท์ อยู่บ้านเลขที่ 29/41 หมู่ 1 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี เข้าแจ้งความ พ.ต.ท.สิงห์ สิงห์เดช พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. ว่าถูกแก๊งคนร้ายตุ๋นลอตเตอรี่ สูญเงินไปจำนวน 1.5 ล้านบาท

นายวัฒนะ เรียบเรียงเหตุการณ์ให้เจ้าหน้าที่ฟังว่า หลังจากเกษียณออกมาก็ได้เงินบำเหน็จไว้ยังชีพยามชรา 1.5 ล้านบาท ฝากกินดอกเบี้ยธนาคารไว้ กระทั่ง เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลา 10.00 น.ขณะเดินทางไปจ่ายค่าไฟที่ การไฟฟ้านนทบุรี ถนนติวานนท์ ก็ได้พบกับชายร่างท้วมแต่งตัวภูมิฐาน อ้างว่าเป็นพนักงานธนาคารกสิกรไทย เข้ามาตีสนิท

“ลุงจะไปไหน” ชายแปลกหน้าเริ่มประโยคแรก

“จะไป บิ๊กซีฯ ติวานนท์ ซื้อแผ่นซีดีหนัง หน่อย”

"พอดีเลยผมจะไปตรวจสอบตู้เอทีเอ็มที่นั่น เดี๊ยวติดรถผมไปก็ได้”

จากนั้นชายคนดังกล่าวเดินมาจูงมือ นายวัฒนะ ขึ้นรถเก๋ง สีดำ ไม่ทราบทะเบียน พบว่าภายในมีชาย 2 คน นั่งอยู่ก่อนแล้ว
เมื่อรถวิ่งไปได้สักพัก แผนการของแก๊งมิจฉาชีพก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อรถหยุดข้างทาง ปรากกว่ามีชายคนหนึ่งแต่งตัวมอมแมมเดินมาชนรถอย่างจัง

“เฮ้ยอะไรของมึงว่ะ กูเป็นตำรวจน่ะ” ชายคนที่นั่งในรถเดินลงมาใส่อารมณ์กับคนเนื้อตัวมอมแมม

“ต่างด้าวหรือเปล่า เอาบัตรมาดูสิ จับแม่งเลย” เขาว่าต่อ
ขณะที่ชายซอมซ่อควักกระเป๋าออกมานั้นลอตเตอรี่ฉบับวันที่ 16 ต.ค.2552 หล่นลงพื้น จังหวะเดียวกับที่ชายอีกคนเดินลงมาพร้อมเรียงเบอร์

“ถูกสามตัวนี่หว่า” เขาว่า

“ถูกรางวัลที่ 1 นี่นา ” นายวัฒนะ โพล่งออกมาเสียงดังเนื่องจากสายตาเขาเห็นว่าเลขหกหลักตรงกันกับเรียงเบอร์

“ผมเป็นต่างด้าวขึ้นเงินไม่ได้” ชายเจ้าของลอตเตอรี่ท่าทางสิ้นหวังพูดผ่านสำเนียงแปลกหู

“หากพวกคุณสนใจก็จะขายให้ 2 ล้าน” เขาว่าต่อ

“กำไรเหนาะๆสองล้าน ใครไม่เอาก็บ้าแล้ว” ชายอีกคนว่า

“ลุงมีเงินในบัญชีเท่าไหร่” ชายที่รับเขามาถาม

“ล้านกว่า” นายวัฒนะ บอกซื่อๆ
สักพักพระเครื่ององค์หนึ่งถูกนำมาแขวนไว้ที่คอของ อดีตพนักงานองค์การโทรศัพท์ พร้อมทั้งให้สาบานว่าจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับห้ามปากโป้งบอกใครแม้แต่ภรรยา

“ งั้นผมขอยืมบัญชีธนาคารของลุงหน่อยเมื่อขึ้นเงินแล้วให้ลุง 2 ล้าน”
นายวัฒนะ ถึงกับตาลุกวาวไม่เชื่อในสิ่งที่ประสบพบเจอ

ด้วยความตื่นเต้นดีใจ อยู่ดีๆลาภก้อนใหญ่ลอยมากองตรงหน้า เขาจึงพาทั้งหมดกลับบ้านไปเอาสมุดบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขา ติวานนท์ 3 แล้วไปที่ธนาคาร คนร้ายกำชับว่าเมื่อเจ้าหน้าที่ธนาคารสอบถามให้บอกว่าเบิกเงินให้ลูกชายซื้อรถ
จากนั้นคนร้ายได้นำบัตรประชาชน นายวัฒนะ ไปทำธุรกรรมเสร็จแล้วพาไปส่งที่ป้ายรถเมล์ประจำทางถนนรัตนาธิเบศร์ ก่อนจากไปคนร้ายบอกว่าเดี๋ยวเงิน 2 ล้าน จะเข้าบัญชี ด้วยความตื่นเต้นเขารีบไปตรวจสอบยอดเงินในบัญชี เข่า ทรุดแทบล้มทั้งยืน เมื่อเงินเก็บ 1.5 ล้านบาท ที่จะนำมาป็นค่าใช้จ่ายยังชีพยามเฒ่าชราอันตธานหายเกลี้ยง

เช่นเดียวกับ นางกาญจนา เลิศทิพวณิช ยายวัย 63 ปี ผู้ประสบเคราห์กรรมเดียวกันกับ นายวัฒนา เล่าว่า วันนั้นเป็นเวลาเช้าของวันที่ 21 ตุลาคม 2552 ขณะ กำลังยืนรอรถเมล์อยู่ที่ป้าย ย่านบางปะแก้ว เขตจอมทอง กทม. ชายร่างท้วม ก็เข้ามาตีสนิทและอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาพหลโยธิน กำลังมาปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบตู้เอทีเอ็ม ในพื้นที่

“ยายจะไปไหน”

“กลับบ้านย่านพระราม 2”

“ทางผ่านพอดี ติดรถไปด้วยกันสิยาย”
นางกาญจนา เห็นว่าคงไม่น่าจะมีอะไรเพราะตนก็อายุมากแล้วจึงยอมขึ้นรถไปด้วย
แต่ระหว่างทาง เขาแวะจอดรถ จังหวะเดียวกับที่คนขายไม้หนีบผ้า รูปร่างผอม มีบาดแผลที่ขา เดินมา เขาจึงเหมาไม้หนีบผ้าทั้งหมด ระหว่างกำลังทอนเงินอยู่นั้น คนขายไม้หนีบผ้าก็หยิบเอาลอตเตอรรี่ออกมา

“เฮ้ยตรวจยังว่ะ!”เขาว่า

“ยังเลยพี่”คนขายที่หนีบผ้าว่า

“ผมมีเรียงเบอร์เดี๋ยวตรวจให้” และแล้วชายร่างท้วมก็เสียงหลง
“ รางวัลที่ 1”

คนขายไม้หนีบผ้า ทำท่าทางทีดีใจจนออกนอกหน้า แต่แล้วสีหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นเศร้าสลด

“ผมเป็นมอญขึ้นเงินไม่ได้” ชายร่างผอมบอบบางว่า

“ยายไม่น่าจะปล่อยโอกาสให้หลุดมือไป” นายธนาคารในคราบชายร่างอ้วน หันมาพูดกับ นางกาญจนา

“ผมขายให้ 7 แสน ต้องการเงินไปสร้างบ้านที่ต่างจังหวัด” คนขายไม้หนีบผ้าว่า

“ บอกตำรวจช่วยเหลือก็ได้” นางกาญจนา ปัดปฏิเสธ

“เดี๋ยวเขาก็ถูกจับหรือถูกฆ่าตายก็ได้”นายแบงก์รุกเร้าและหว่านล้อมให้คล้อยตาม
แล้ว นางกาญจนา ก็ตกเป็นเหยื่อของแก๊งโฉดที่คอยสูบรีดเงินกับคนเฒ่าคนแก่ สูญเงินและทรัพย์สินกว่า 3 แสน

โดย ลอตเตอรี่เป็น ฉบับจริง แต่ใช้เรียงเบอร์ปลอมเลขที่ถูกรางวัล
จากนั้น พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสาน พ.ต.อ.ประยนต์ ลาเสือ รอง ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ผกก.2 บก.ป.และพ.ต.ท.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ รอง ผกก.6 บก.ป.เร่งสืบสวนติดตามจับกุมมิจฉาชีพแก๊งนี้มาดำเนินคดีให้โดยเร็วเพราะเป็นภัยสังคม โดยเฉพาะกับคนวัยเกษียณ ที่ผ่านมามีเหยื่อที่เป็นผู้สูงอายุหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก ประกอบด้วย นางอรุณี ลิ้วพิทักษ์ อายุ 81 ปี อดีตข้าราชการกรมบัญชีกลาง พร้อมด้วย น.ส.ทองมาก ไพรเขียว อายุ 72 ปี อดีตแม่บ้านมหาวิทยาลัยศรีปทุม และ นางเกตุ เกียวสัมพันธ์ อายุ 50 ปี อาชีพทำสวนมะพร้าว ใน จ.ราชบุรี บางรายถึงกับสูญเงินนับล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเงินเก็บมาตลอดชีวิตเพื่อใช้จ่ายในบั้นปลายชีวิตหรือเป็นเงินที่ลูกหลานนำมาให้

ต่อมา ชุดสืบสวน พบเบาะแสคนร้ายกลุ่มนี้โดยได้ภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งเป็นหลักฐานว่าผู้ต้องหาได้พาเหยื่อไปเบิกเงินธนาคาร ก่อนจะนำมาเปรียบเทียบกับแฟ้มอาชญากรและข้อมูลประวัติคนร้ายที่ กองปราบปรามตามเฝ้า พฤติกรรมอยู่ กระทั่งพบว่าผู้ต้องหาเคยกระทำความผิดลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้งมีหมายจับติดตัวอยู่ในหลายท้องที่ ทั้งใน กรุงเทพฯ จ.นนทบุรี จ.ปทุมธานี จ.นครปฐม และ จ.ราชบุรี
ไม่นานก็ตามรวบ นายเสนาะ หรือเม้ง พุ่มกระจันทร์ วัย 43 ปี และนายโกวิท หรือแขก พุ่มกระจันทร์ อายุ 40 ปี สองศรีพี่น้อง ตามหมายจับศาลจังหวัดปุทมธานี ที่ จ 343/2551 และ จ 352/2551 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นหรืออาศัยความอ่อนแอแห่งจิตใจของผู้ถูกหลอกลวง จับกุมนายเสนาะ ได้ที่บ้านเลขที่ 72/595 เฟื้องฟ้าซอย 3 หมู่บ้านพระปิ่น 2 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. ส่วนนายโกวิท จับกุมได้ที่ร้านอาหารยกครก ซอยวัดลาดปลาดุก ถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

นายเสนาะ ชายร่างท้วมแสดงเป็น นายธนาคารแต่งตัวภูมิฐาน รับสารภาพว่า แก๊งของเขา ส่วนใหญ่เป็นญาติพี่น้องกัน โดยเขาจะอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่แบงก์ทำทีเข้าไปตีสนิทเหยื่อที่เป็นคนแก่ แสร้งถามไถ่ติดต่อซื้อขายบ้านและที่ดิน บางทีอ้างว่าจะเช่าที่ตั้งตู้เอทีเอ็ม ก่อนหลอกถามทรัพย์สินเหยื่อ หากเป็นคนไม่มีเงินก็จะเมินหนี ในวงการเรียกคนที่แสดงบทบาทนี้ว่า “คนทักหมู” ซึ่งแน่นอนส่วนแบ่งก็จะได้มากกว่าคนอื่น

ส่วน นายโกวิท น้องชาย แสดง เป็นต่างด้าวพูดไม่ชัด เร่ขายไม้แขวนเสื้อหรือยาหอมอ้างว่าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 แต่ขึ้นเงินไม่ได้ ก่อนให้ นายฉัตรเกียรติ พุ่มกระจันทร์ พี่ชายคนโต นายสิทธิศักดิ์ ธรรมสังวาล และนายสุรพล เสือพลาย ช่วยกันพูดจาหว่านล้อมจนเหยื่อตายใจหลงเชื่อแม้จะถึงขั้นต้องสาบานก็ยอม จากนั้นจึงพาเหยื่อไปเบิกเงินที่ธนาคาร เมื่อได้เงินแล้วก็จะมอบสลากกินแบ่งฯ ปลอมให้เหยื่อ ก่อนจะพากันหลบหนีไป

“ สำหรับวิธีการต่าง ๆ หรือการพูดจาหว่านล้อมพวกผมจะทำคล้ายกับแก๊งตกทองในอดีตก็อาศัยความโลภของเหยื่อเป็นเครื่องมือนั่นแหล่ะ” นายเสนาะ กล่าวทิ้งท้าย


กองปราบฯ รวบแก๊งญาติพี่น้องหลอกลวงเหยื่อถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 ฮุบเงินล้าน




กำลังโหลดความคิดเห็น